“คำกล่าวนี้สัตย์จริง
คือว่าถ้าใครปรารถนาหน้าที่ผู้ปกครองดูแลคริสตจักร
คนนั้นก็ปรารถนากิจการงานที่ประเสริฐ” 1ทธ. 3:1
แนวคิด
– ความปรารถนาอยากรับใช้พระเจ้า เป็นความปรารถนาที่ประเสริฐ
– จากบริบททางสังคมของพระคำตอนนี้ ขณะนั้นมีการข่มเหงเกิดขึ้น
การเป็นผู้ปกครอง(ซึ่งหมายถึงผู้นำคริสตจักรหรือศิษยาภิบาล ในช่วงเวลานั้น**)
จะเป็นเป้าต่อการข่มเหง จึงอันตรายและพบกับความยากลำบากมาก ด้วยเหตุนี้ ใครก็ตามที่
รู้ทั้งรู้ว่าอันตรายแต่ก็ยังปรารถนารับใช้พระเจ้าในบทบาทนี้
จึงเป็นความปรารถนาที่ประเสริฐ
** หมายเหตุ : คำว่า “ศิษยาภิบาล” ปรากฏครั้งเดียวในพระคัมภีร์ (อฟ. 4:11) นอกนั้นจะใช้คำว่า ผู้ปกครอง ซึ่งหมายถึง
ศิษยาภิบาลนั่นเอง
การประยุกต์ใช้
:
– ความปรารถนาจะรับใช้พระเจ้า เป็นความปรารถนาที่พระเจ้าพอพระทัย
ในปัจจุบันในประเทศของเราแม้ไม่มีการข่มเหงอย่างรุนแรงเหมือนสมัยนั้น
แต่เมื่อเราก้าวสู่งานรับใช้พระเจ้า (ไม่ว่าเต็มเวลาหรือฆราวาส)
ล้วนแต่ต้องมีราคาที่ต้องจ่ายทั้งสิ้น
> ไม่เพียง จ่ายด้วย เวลา กำลัง แรงกาย แรงใจ รวมทั้งเงินในกระเป๋า
> บางครั้ง ต้องเสียโอกาสที่ดีบางอย่างไป
> บางคนต้อง ยอมทิ้ง ยอมเสียสิ่งที่ตนรักไป
> บางคน ต้องจ่ายด้วยความเจ็บปวด และน้ำตา
> บางคนต้องพบกับ การเข้าใจผิดหรือมองเราผิด คิดว่าเรา “อยากเด่น อยากดัง อยากเป็นผู้นำ อยากโชว์ออฟ”
> บางคนถูกอิจฉา ถูกใส่ร้ายป้ายสี ฯลฯ
# ไม่ว่าราคาที่เราต้องจ่าย ในการปรารถนาจะรับใช้พระเจ้านั้นจะมากเพียงใด
ก็เป็นราคาที่คุ้มค่า เพราะ ความปรารถนาเช่นนั้นเป็นความปรารถนาที่พระเจ้าพอพระทัย
และพระเจ้าผู้ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม จะเป็นผู้ตอบแทนเราเอง เพราะพระเจ้าไม่เคยเป็นหนี้ใครเลย
# ที่สำคัญคือ
โอกาสที่เราจะทำอะไรเพื่อตอบแทนพระคุณพระเจ้าผู้แสนดีเลิศของเรานั้น
มีเพียงไม่กี่ปี หรืออาจไม่กี่เดือน หรืออาจไม่กี่วัน
ในโลกนี้เท่านั้นเอง….ดังนั้น
จงทำอย่างสุดกำลังเถิด…เพราะในสวรรค์ไม่มีงานรับใช้พระเจ้าให้เราทำแล้ว