“แต่ใครกล่าวคำหมิ่นประมาทต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์
จะทรงอภัยให้คนนั้นไม่ได้ตลอดไป แต่คนนั้นจะมีโทษของบาปชั่วนิรันดร์” มก. 3:29
แนวคิด :
– พระเยซู
พูดถึงบาปอย่างหนึ่งที่น่าสะพรึงกลัวมาก เพราะผู้ที่มีบาปนี้ไม่อาจรับอภัยได้เลย “บาปแห่งการหมิ่นประมาทพระวิญญาณบริสุทธิ์”
– บาปทุกอย่างและคำหมิ่นประมาททุกอย่าง
จะทรงอภัยให้มนุษย์ได้ ยกเว้น
ใครกล่าวคำหมิ่นประมาทต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ จะทรงอภัยให้คนนั้นไม่ได้ตลอดไป (29)
– ที่พระเยซู
เรียกพวกเขาว่า เขา “หมิ่นประมาทต่อพระวิญญาณบริสุทธ์” เพราะว่า พวกเขาหาว่าพระเยซูมีผีสิง (30) พวกเขากล่าวหาว่า
ฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เป็น ฤทธิ์ของปีศาจ
– เป็นที่น่าสังเกตคือ
เมื่อพระเยซูขับผีออก แล้วคนนั้นก็หายเป็นปกติ
พวกธรรมจารย์ซึ่งมีความรู้ในพระคัมภีร์เป็นอย่างดี ก็รู้อยู่แก่ใจว่า
นี่คือสิ่งดีที่เกิดขึ้น และเขาก็รู้อยู่แก่ใจว่านี่เป็นฤทธานุภาพของพระเจ้า
– แต่เขาไม่ใส่ใจความจริงนี้
เพียงแค่อยากจะทำลายความน่าเชื่อถือ(discredit)ของพระเยซู พวกเขาถีงกับยอมโกหก บิดเบือนความจริง
ดูถูกพระเจ้าว่าฤทธิ์อำนาจของพระองค์ คือฤทธิ์ของปีศาจ
(ทั้งที่เขาเองก็รู้อยู่ในใจว่าอะไรเป็นอะไร)
– เขายอมบิดเบือนความจริง
ยอมให้เกียรติผี แล้ว ดูถูกพระเจ้า เพียงเพื่อให้ตนเองได้รับประโยชน์ในสังคม
– ดังนั้น
การหมิ่นประมาทพระวิญญาณบริสุทธิ์ จึง
>>> ไม่ใช่เรื่องของการรู้เท่าไม่ถึงการณ์
เข้าใจผิดคิดว่า สิ่งนี้ไม่ได้เป็นมาจากพระเจ้า จึงออกมาต่อต้าน
ซึ่งแท้จริงเป็นมาจากพระเจ้า แบบนี้เมื่อรู้ตัวก็กลับใจได้
>>> แต่หมายถึง
รู้อยู่แก่ใจ ว่าเป็นมาจากพระเจ้า แต่จงใจบิดเบือน จงใจโกหก ใส่ร้ายป้ายสีว่าเป็นมาจากมาร
เพื่อจะดำเนินตามทิฐิมานะของตนเอง หรือเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง
[ที่สำคัญคือ พระเจ้า
จะเป็นผู้ตัดสินเอง ว่า ใครที่หมิ่นประมาทพระวิญญาณบริสุทธิ์
เพราะพระองค์ผู้เดียวเท่านั้นที่ รู้จักจิตใจของมนุษย์แต่ละคนเป็นอย่างดี]
การประยุกต์ใช้ :
พระคัมภีร์แนะนำ เช่นนี้
• อย่าเชื่อทุกวิญญาณ
1ยน. 4:1 …ท่านที่รักทั้งหลาย อย่าเชื่อทุกๆ
วิญญาณ แต่จงพิสูจน์วิญญาณนั้นๆ ว่ามาจากพระเจ้าหรือไม่ …
• แต่ก็อย่าดูถูกไปหมดทุกการสำแดง
1ธส. 5:20 อย่าดูหมิ่นถ้อยคำของผู้เผยพระวจนะ
• จงพิสูจน์ทุกสิ่ง
อันไหนจริงก็ยึดไว้ อันไหนไม่ใช่ก็โยนทิ้งไป
อย่าเอามาใส่ใจหรือเกี่ยวข้อง
1ธส. 5:21 จงพิสูจน์ทุกสิ่ง
สิ่งที่ดีนั้นจงยึดถือไว้ให้มั่น
วิธีพิสูจน์ ง่ายนิดเดียว
ลก. 6:44 เพราะว่าจะรู้จักต้นไม้แต่ละต้นได้
ก็ด้วยผลของมัน …
สิ่งที่เป็นมาจากพระวิญญาณ
จะมีผลของพระวิญญาณปรากฏ (กท.5:22-23)
สิ่งที่เป็นมาจากพระเจ้า
จะส่งผลให้เกิดบุคลิกลักษณะของพระเจ้า
ตอนแรกๆ บางต้นผลปลอมมาอย่างเนียน
ดูไม่ออก แต่สักพักไม่นาน เราก็จะสังเกตได้อย่างแน่นอน
อันไหนผลจริง
อันไหนผลพลาสติคที่เอากาวมาติดกับต้นไว้