“แต่ความรักมั่นคงของพระยาห์เวห์นั้นดำรงอยู่
ตั้งแต่นิรันดร์กาลถึงนิรันดร์กาลต่อผู้ที่ยำเกรงพระองค์
และความชอบธรรมของพระองค์ต่อหลานเหลน” สดด. 103:17
แนวคิด :
– สำหรับแต่ละคน วันเวลาของเขาผ่านไปอย่างรวดเร็ว(15) และอีกไม่นานอีกเพียบเดียวก็จะไม่มีเขาบนโลกนี้อีก
และโลกนี้ก็จะไม่รู้จักเขาอีกต่อไป(16)
เหมือนกับที่วันนี้ ไม่มีใครจดจำได้ว่า “พ่อของทวด”ของเราเป็นใคร ท่านเป็นคนอย่างไร ท่านชอบทำงานอดิเรกอะไร ฯลฯ
ทั้งที่ท่านเคยมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ เคยทำอะไรโน่นนี่นั่นหลายอย่างทีเดียว
– มนุษย์ ช่างไร้ค่า ไร้ความหมาย เมื่อเทียบกับ
นิรันดร์กาลถึงนิรันดร์กาลของกาลเวลา
– แต่ มีสิ่งหนึ่ง ที่คงอยู่ “ตั้งแต่นิรันดร์กาลถึงนิรันดร์กาล”
นั่นคือ “ความรักมั่นคงของพระเจ้า”
(17)
ด้วยเหตุนี้ “ความรักมั่นคงของพระองค์”
ซึ่งอยู่ตลอดนิรันดร์กาล ถ้าเอาไปผูก/เกี่ยวข้อง/สัมพันธ์
กับมนุษย์ผู้ไร้ค่าคนใด
คนนั้นจะกลายเป็นมนุษย์ผู้มีค่าในนิรันดร์กาลของกาลเวลาขึ้นมาทันที
– กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า
มนุษย์ผู้ไร้ค่าเพราะมีตัวตนอยู่แค่ประเดี๋ยวของนิรันดร์กาล แต่เนื่องจากเขาถูกรัก
“ตั้งแต่นิรันดร์กาลถึงนิรันดร์กาล” ดังนั้น
เขาจึงมีความหมายอย่างยิ่งในตลอดช่วงเวลาทั้งหมดของนิรันดร์กาลนั้น
– ว้าว !!!! สุดๆๆปเลย ขอบคุณพระเจ้า
??? แล้วใครเล่า
จึงมีคุณสมบัติเช่นนั้นที่คามรักมั่นคงของพระเจ้าจะผูกติดกับเขาไปตลอดนิรันดร์กาล
>>> ก็คือ ผู้ที่ยำเกรงพระเจ้า (17)
??? แล้วรู้ได้ยังไงว่า คนไหนยำเกรงพระเจ้า
>>> คนที่ยำเกรงพระเจ้านี้
สังเกตได้จากคนนั้นจะรักษาพันธสัญญาของพระเจ้า
คนนั้นจะยินดีและเต็มใจทำตามสิ่งที่พระเจ้าสั่งเขาไว้(18)
การประยุกต์ใช้ :
มนุษย์ทั่วไป = 0 (ไร้ค่า)
มนุษย์ที่ยำเกรงพระเจ้า = 0 (ไร้ค่าเช่นกัน)
แต่
มนุษย์ที่ยำเกรงพระเจ้า ได้สิทธิพิเศษ คือ
จะพบกับความรักมั่นคงของพระเจ้าได้
ดังนั้น
มนุษย์ที่ยำเกรงพระเจ้า + ความรักมั่นคงของพระเจ้า =
ดำรงอยู่นิรันดร์กาล
0 + ∞ = ∞
[ศูนย์ + จำนวนอนันต์ = จำนวนอนันต์]
“จงยำเกรงพระเจ้าเถิด”
แล้วพระองค์จะทำให้มนุษย์ที่ไร้ค่าอย่างเรา
กลายเป็นสิ่งล้ำค่าตลอดนิรันดร์กาล