“ข้าพระองค์ทราบว่า พระยาห์เวห์ทรงให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ทุกข์ยาก
และทรงให้ความยุติธรรมแก่คนขัดสน” สดด. 140:12
แนวคิด :
บทเพลงพระธรรมสดุดีบทนี้เป็นคำอธิษฐานของดาวิดยามที่เขากำลังเผชิญกับศัตรู
คนชั่วร้าย ที่จ้องจะทำร้ายเขา
– เขาฟ้องพระเจ้า เรื่องที่เขาถูกรังแก (1-3) – เขาขอความช่วยเหลือและการปกป้องจากพระเจ้า เพราะเขาป้องกันตัวเองไม่ได้
ไม่รู้ว่าศัตรูจะมาไม้ไหนอีก (4-5) – เขาระลึกถึงพระเจ้า ว่า
พระองค์เป็นใครในชีวิตของเขา
“พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของเขา”(6)
“พระองค์ทรงเป็นกำลังแห่งความรอดของเขา” (7)
“พระองค์เป็นผู้ปกป้องเขาในยามศึก” (7)
– เขามอบการแก้แค้นให้เป็นของพระเจ้า(9) เขาไม่ได้ขอให้พระเจ้าให้กำลังแก่เขาเพื่อไปแก้แค้นพวกมัน
แต่มอบการแก้แค้นนั้นให้พระเจ้าเป็นผู้จัดการเอง(10-11) ตามความยุติธรรมของพระองค์(12)
– ส่วนตัวเขาแทนที่จะจดจ่ออยู่ที่ความอยุติธรรมที่เขาได้รับ หรือ
จดจ่ออยู่ที่ความคิดแค้นเคืองพวกมัน เขากลับหันมาจดจ่อที่จะยกย่องพระเจ้า
สรรเสริญพระองค์ อยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์ ใกล้ชิดสนิทพระองค์ แทน(13)
หมายเหตุ :
“เส-ลาห์” คือ อะไร
คำว่า “เส-ลาห์” นี้
ปรากฏอยู่แต่เพียงในพระธรรมสดุดี และคำอธิษฐานของฮาบากุก เท่านั้น
จึงยากที่จะสรุปชัดเจนว่าหมายถึงอะไร
Ø นักวิชาการส่วนใหญ่ คิดว่าน่าจะ
เครื่องหมายทางดนตรี หรือ ตัวกำหนดโทนเสียงของบทเพลง
Ø แต่บางคน ก็คิดว่าน่าจะ เป็นเครื่องหมาย หยุด
หรือ full-stop ชั่วขณะหนึ่งก่อนขึ้นเพลงท่อนต่อไป
Ø และมีบ้างที่คิดว่า อาจจะเป็น วลีย้ำว่า “เป็นความจริง” เหมือนคำว่า “อาเมน”
Ø มีนักวิชาการบางคนเสนอว่า มันแปลว่า “ตลอดไป”
ส่วนเราจะชอบแบบไหน จะเลือกแบบไหนก็ตามอัธยาสัยนะครับ ไม่ผิดไม่บาป 555
การประยุกต์ใช้ :
วันนี้ หากเราได้รับความอยุติธรรม ถูกรังแก ถูกเอาเปรียบ
มีคนจ้องจำทำร้ายทำลายเรา จงทำเหมือนดาวิด
• ฟ้องพระเจ้า ให้หมด ใครทำอะไรกับเรา หรือ กำลังจะคิดทำอะไรแก่เรา
• ขอความช่วยเหลือ การปกป้องจากพระเจ้า อย่างถ่อมใจ
ยอมรับความจริงว่า เราปกป้องตัวเองไม่ไหว ปกป้องตัวเองตามลำพังไม่ได้
เพราะไม่รู้พวกนั้นจะมาไม้ไหนอีก เราต้องการพระองค์สถิตกับเรา ควรปกป้องเรา
คอยช่วยเหลือเรา [ซึ่งในเรื่องนี้พระองค์เต็มใจอย่างยิ่งแน่นอน]
• ระลึกถีงว่า พระเจ้าเป็นใครในชีวิตของเรา
“พระเจ้าเป็นพ่อของฉันเชียวนะ”
“พระเจ้าพระบิดาของฉัน ไม่เคยหลับ หรือเผลอเลย พระองค์คอยเฝ้าระวัง
ปกป้องฉันไว้ ตลอดเวลา”
“แม้ฉันจะอ่อนแอ แต่พระเจ้าพระบิดาผู้ทรงรักฉัน ทรงฤทธิ์เข้มแข็ง
ไม่มีใครอาจต่อกรกับพระองค์ได้” ฯลฯ
• มอบการแก้แค้นครั้งนี้ เป็นของพระเจ้า ยกให้พระเจ้าจัดการเอง
อย่าคิดแก้แค้นเสียเองเพราะมิฉะนั้นเราจะผิดพิษของความแค้น
เข้ามาทำร้ายทำลายจิตใจของเราเสียเอง พระเจ้าจัดการอย่างยุติธรรมแน่นอน
ไว้ใจพระองค์ได้
• ส่วนตัวเรา แทนที่จะมัวหดหู่ เศร้าสร้อย ท้อแท้ใจ สำหรับเรื่องนี้
ก็ให้เราหันมา ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า ยกย่องพระองค์ คิดถึงพระองค์
ให้เวลากับพระองค์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
อย่าไปเสียเวลา คิดแค้นเคือง ท้อแท้ หมดกำลังใจ
ซึ่งเปลืองเวลาไปเปล่าๆ เอาเวลานั้น มาสรรเสริญพระเจ้า และคิดถึงพระเจ้า
พูดคุยกับพระองค์กันดีกว่า