แนวคิด :
– พระเยซูบอกกับพวกสาวกว่า เมื่อถูกเกลียดชัง(ข้อ19) ให้ระลึกว่า พระเยซูได้สอนไว้ก่อนแล้ว ใน ยน. 13:16 “เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า บ่าวจะเป็นใหญ่กว่านายไม่ได้ และทูตจะเป็นใหญ่กว่าคนที่ใช้เขาไปก็ไม่ได้”
– ดังนั้นการที่พวกเขาถูกข่มเหง หรือถูกปฏิเสธ แท้จริงไม่ใช่เพราะตัวเขา แต่เพราะพระเยซู
– คนเหล่านั้นปฏิเสธและข่มเหงพระเยซู ดังนั้นพวกเขาเหล่านั้นจึงจะปฏิเสธและข่มเหงพวกสาวกด้วยอย่างแน่นอน
– และวิธีสังเกตว่า คนใดที่ต้อนรับและปฏิบัติตามพระเยซู ก็ดูได้จากคนนั้นจะต้อนรับและปฏิบัติตามคำสอนของพวกสาวกของพระเยซู
– หลังจากพระเยซูเป็นขึ้นมาจาความตาย แล้วเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ พวกสาวกของพระเยซูได้ออกประกาศข่าวประเสริฐเรื่องของพระเยซูคริสต์ และคำสอนของพระองค์
– และมีคนมากมายที่เชื่อและปฏิบัติตามคำสอนเหล่านั้น คนเหล่านั้นแหละที่เป็นผู้ที่ต้อนรับพระเยซูอย่างแท้จริง
– ดังนั้นผู้ที่ต้อนรับพระเยซู ซึ่งจะได้เป็นบุตรของพระเจ้า(ยน.1:12)นั้น ไม่ได้ดูจากการไปคริสตจักร หรือ การพูดว่าตนเองเป็นคริสเตียน หรือ การทำกิจกรรมใดๆของคริสตศาสนา หรือการรับใช้พระเจ้าใดๆ แต่ดูว่า คนๆนั้นปฏิบัติตามคำสอนของพระเยซูหรือไม่
– ไม่มีใครสามารถพูดได้ว่าผมปฏิบัติตามคำของพระเยซู แต่ไม่ปฏิบัติตามพระคริสตธรรมคัมภีร์ได้
การประยุกต์ใช้ :
– บ่าวไม่ใหญ่กว่านาย ขนาดพระเยซูเมื่อทำพระราชกิจยังถูกดูถูกและข่มเหง ดังนั้นเราผู้เป็นคนรับใช้ของพระเยซู หากเราทำตามพระเยซูจริงๆ มีหรือเราจะไม่ถูกดูถูกและข่มเหง
– วันนี้ หากเราถูกดูถูกหรือข่มเหง เพราะเหตุการเชื่อฟังพระเยซู จงภาคภูมิใจเถิด เพราะเราได้รับเกียรติร่วมทนทุกข์กับพระเยซู
– วันนี้ หากเราต้องเหน็ดเหนื่อยหรือยากลำบาก เพราะเหตุการเชื่อฟังพระเยซู จงภาคภูมิใจเถิด เพราะเราได้รับเกียรติร่วมเหนื่อยยากกับพระเยซู
– วันนี้เมื่อเราทำตามพระเยซู แล้วมีใครปฏิเสธหรือไม่ชอบเรา เขาไม่ได้กำลังปฏิเสธเราเท่านั้น แต่เขากำลังปฏิเสธพระเยซูด้วย
– วันนี้เมื่อเราทำตามพระเยซู แล้วใครต้อนรับและปฏิบัติตามเรา เขาไม่ได้กำลังต้อนรับเราเท่านั้น เขากำลังต้อนรับและปฏิบัติตามพระเยซูด้วย
– ซึ่งทั้ง 2 กรณีข้างต้น เกิดขึ้นเมื่อเราทำตามพระเยซู
– สาวกของพระเยซูจะเป็นดังตัวแทนของพระเยซูในโลกนี้ วันนี้เราเป็นสาวกของพระเยซูด้วยการปฏิบัติตามพระเยซูแล้วหรือยัง?