แนวคิด :
– พะเยซูตรัสตอบเปโตรว่า ไม่จำเป็นต้องล้างมือ ล้างศรีษะ เพราะว่าพวกเขาสะอาดทั้งตัวแล้ว ล้างแค่เท้าก็เพียงพอแล้ว
– หมายถึง พวกเขาได้รับการชำระให้สะอาดด้วยพระโลหิตของพระเยซู ด้วยการเชื่อวางใจในพระองค์ เหมือนใน ยน. 15:3 ที่พระเยซูกล่าวว่า “พวกท่านได้รับการชำระให้สะอาดแล้วด้วยถ้อยคำที่เรากล่าวกับท่าน” เมื่อใครวางใจในถ้อยคำของพระเยซู ผู้นั้นก็รับการชำระให้สะอาด
– แต่ยังคงจำเป็นต้องล้างเท้า คือต้องรับการชำระจิตใจ เปลี่ยนแปลงจิตใจ ต่อไป เพราะเท้าซึ่งดำเนินไปในวิถีของชีวิตในแต่ละวัน ยังคงมีโอกาสผิดพลาดและสกปรกได้
– นั่นคือ การปรนนิบัติที่พระเยซูทรงกระทำแก่พวกสาวก ไม่ใช่เพียงทำครั้งเดียวบนไม้กางเขนเท่านั้น แต่ยังคงดำเนินต่อไปเมื่อพวกเขายังคงอ่อนแอและผิดพลาดไปในการดำเนินชิวตแต่ละวัน พระเยซูผู้อยู่ต่อจำเพาะพระพักตร์พระบิดายังคงปรนนิบัติพวกเขาต่อไป ด้วยการทูลขอแทนพวกเขาต่อหน้าพระบิดา
– ซึ่งในข้อต่อมา พระเยซูก็บอกให้สาวกทำเช่นนั้นต่อกันและกันเช่นกัน(ข้อ 14-15) คือ ปรนนิบัติกันเสมอไป
– ส่วนยูดาส แม้จะได้ยินถ้อยคำของพระเยซู แต่เขาไม่ได้วางใจในพระเยซู จึงไม่ได้รับการชำระให้สะอาด พระเยวูจึงกล่าวว่า “พวกท่านก็สะอาดแล้วแต่ไม่ใช่ทุกคน”
การประยุกต์ใช้ :
– เราวางใจในพระเยซู ดังนั้นเราจึงได้รับการชำระให้บริสุทธิ์พ้นโทษบาปแล้ว
– แต่ในการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน เรายังคงผิดพลาดพลั้งไปอยู่เสมอ
– ให้เราเข้ามาหาพระเยซูอยู่เสมอ ขอการชำระ ขอการอภัย ในความผิดพลาดพลั้งไปของเรา และขอการเปลี่ยนแปลงโดยการช่วยเหลือของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพื่อให้เราเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้นในทุกๆวัน
– สรรเสริญพระเยซู พระองค์ไม่เพียงแต่สิ้นพระชนม์ชำระล้างบาปของเราทั้งสิ้นแล้วเท่านั้น แต่พระองค์ยังคงพร้อมให้อภัยและเปลี่ยนแปลงเรา ให้อภัยบาปผิดที่เราผิดพลาดพลั้งไปในทุกๆวันอีกด้วย