แนวคิด :
– คำถามที่พระเยซูถามเปโตรนี้ ไม่ใช่พระเยซูหาว่า เขาพูดโกหก หรือพูดไม่จริง หรือเสแสร้งพูด
– แต่เป็นคำถามที่พยายามบอกว่า เปโตรยังไม่รู้จักความอ่อนแอของตัวเองจริงๆว่ามีมากขนาดไหน
– ก่อนไก่ขันที่พระเยซูพูดถึงนี้ ไม่ใช่หมายถึง เปโตรจะปฏิเสธ 3 ครั้ง แล้วไก่ค่อยขัน เพราะความจริงคือเมื่อเขาปฏิเสธครั้งแรก ไก่ก็ขันแล้ว 1 ครั้ง (มก. 14:68 แต่เปโตรปฏิเสธว่า “ที่เจ้าพูดนั้นข้าไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจ” เปโตรจึงออกไปที่ประตูบ้าน แล้วไก่ก็ขัน)
– พระเยซูบอกกับเปโตรล่วงหน้า ใน มก. 14:30 ว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ในวันนี้คือในคืนนี้เอง ก่อนไก่ขันสองหน ท่านจะปฏิเสธเราสามครั้ง”
– เปโตรไม่รู้จักความอ่อนแอของตนเอง เขาจึงอวดในความเข้มแข็งของตน แต่พระเยซูรู้จักเขาดียิ่งกว่าตัวเขาเองเสียอีก
– พระเยซูทรงทราบว่า เปโตรผู้ที่กำลังอวดผู้นี้ เขาจะทำตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาได้อวดไว้ เขาจะปฏิเสธพระองค์ถึง 3 ครั้ง ซึ่งหลังการปฏิเสธครั้งแรก ก็จะมีไก่ขันเตือนให้เขาระลึกได้แล้ว แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงอ่อนแอ จนต้องปฏิเสธพระเยซูอีกจนครบ 3 ครั้ง
– ทำไมพระเยซูต้องบอกเปโตรล่วงหน้า ถึงการปฏิเสธของเขานี้?
– ไม่ใช่เพื่อฉีกหน้าเขา ว่าเขาพูดไม่จริง หรือรักษา คำพูดไม่ได้
– แต่เพื่อให้เขากลับใจใหม่ เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วเขาจะได้ระลึกได้ว่า สิ่งที่เขาทรยศพระเยซูถึง 3 ครั้งนี้ พระเยซูทรงทราบล่วงหน้าแล้ว ถึงกระนั้นพระเยซูยังคงรักเขา ล้างเท้าให้เขา และปฏิบัติต่อเขาอย่างดี พระองค์ไม่รังเกียจเขาทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเขาน่ารังเกียจเพียงใด
– ดังนั้นเมื่อเขาจะกลับใจ เขาจึงมั่นใจได้ว่า พระเยซูจะยินดีต้อนรับเขา พร้อมให้อภัยแก่เขา ให้เขามีโอกาสเริ่มต้นใหม่อย่างแน่นอน
– ความจริงพระเยซูทรงกระทำสิ่งนี้กับยูดาส เหมือนกัน แต่เสียดายที่ยูดาส ไม่ได้กลับใจใหม่ เหมือนอย่างที่เปโตรกลับใจเมื่อผิดพลาดพลั้งไป
การประยุกต์ใช้ :
– เราเองมักไม่รู้ตัวว่า เราอ่อนแอสักเพียงใด แต่พระเยซูทรงทราบความอ่อนแอของเรา
– เมื่อเราผิดพลาดพลั้งไป บางครั้งมันอาจจะมากเสียจนตัวเราเองยังรับตัวเองไม่ได้ แต่พระเยซูทรงรับได้ พระองค์ทรงรู้จักเรา ก่อนที่เราจะผิดพลาดพลั้งไปนั้นเสียอีก ถึงกระนั้นพระองค์ยังทรงรักเรา
– เราจึงมั่นใจได้เลยว่า ในวันนี้ หากเรากลับมาหาพระเยซูด้วยจริงใจ พระองค์จะทรงอภัยและพร้อมที่จะให้เราเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างแน่นอน