แนวคิด :
– เมื่อพวกยิว พาชายคนที่พระเยซูรักษาให้หายตาบอดแต่กำเนิด มาพบพวกฟาริสี พวกฟาริสีจึงสอบสวนเขาเพื่อจะหาทางเอาผิดพระเยซู โดยถามว่า ตาของเขามองเห็นได้อย่างไร
– เขาตอบว่า “ท่านเอาโคลนทาตาของข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าก็ไปล้างออกแล้วก็มองเห็น”
– ถ้าเราเปรียบเทียบกับคำตอบของเขาก่อนหน้านี้ ในข้อ 11 ที่เขาตอบพวกยิว เราจะเห็นอะไรบางอย่างเป็นพิเศษ
– (ยน. 9:11) เขาตอบว่า “ชายคนหนึ่งชื่อเยซูทำโคลนทาตาของข้าพเจ้าและบอกข้าพเจ้าว่า ‘จงไปที่สระสิโลอัมแล้วล้างโคลนออก’ ข้าพเจ้าก็ไปล้างตาแล้วก็มองเห็น”
– ดูเหมือนว่า เขาจะรับรู้ได้ว่า พวกฟาริสี ถามเพื่อที่จะเอาผิดพระเยซู ที่รักษาเขาในวันสะบาโต
– คำตอบของเขาในข้อนี้ จึงแตกต่างจากข้อ 11
> เขาไม่ได้เอ่ยชื่อพระเยซู ไม่อยากให้พวกฟาริสีรู้ว่า พระองค์ชื่อเยซู
> เขาไม่พูดว่า พระเยซูทำโคลน (ซึ่งพวกฟาริสีอาจนับว่าเป็นการทำงาน) แต่พูดว่า “เอาโคลนทาตา” เลย ตัดคำว่าทำโคลนออก
> เขาตัดวลีว่า “พระเยซูบอกให้เขาไปล้างตา” ออก กลายเป็นดูเหมือนบอกว่า เขาไปล้างเองนะ ไม่เกี่ยวกับพระองค์
– ช่างเป็นความพยายามที่น่ารัก ของชายไร้การศึกษาผู้หายบอดคนนี้
– เขาพยายามปกป้อง พยายามช่วยพระเยซู แต่แท้จริงแล้ว ความพยายามของเขา ไม่มีผลต่อพวกฟาริสีเลยแม้เพียงสักเล็กน้อย พวกฟารีสียังคงโกรธแค้น เกลียดชังพระเยซูอยู่ดี
การประยุกต์ใช้ :
– ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา จะมีใครสักกี่คนหนอ ที่เห็นความพยายามที่แสนน่ารักของชายไร้การศึกษาคนนี้ มาวันนี้อย่างน้อยก็มีพวกเราที่ได้อ่านข้อความนี้ละ ที่ได้สังเกตเห็นบ้าง
– แต่แม้ไม่มีใครเห็น สิ่งงดงามที่เขาพยายามทำเพื่อพระเยซู แต่พระเยซูทรงทราบอย่างแน่นอน
– และพระเยซูเองจะเป็นผู้ประทานรางวัลแก่เขาอย่างแน่นอน ในข้อต่อๆมา ในที่สุดพระเยซูได้เสด็จมาพบกับเขา และจงใจสำแดงพระองค์เองแก่เขาเป็นการส่วนตัว
– สิ่งที่เราทำเพื่อพระเยซู แม้จะเล็กน้อยสักเพียงใด และแม้จะไม่มีใครเห็น แต่พระเยซูทรงทราบเป็นแน่และพระเยซูจะเป็นผู้ตอบแทน ทุกการกระทำที่กระทำ เพราะเหตุความรักที่มีต่อพระองค์