แนวคิด :
– ชายที่พระเยซูรักษาให้หายจากตาบอด ได้อธิบายให้พวกฟาริสีฟัง ว่าพระเยซูทรงเป็นพระมาซีฮา ด้วยเหตุผลที่พวกเขาไม่สามารถเถียงได้
– พอพวกเขาเถียงไม่ได้จึงหันมา เล่นนอกเกมส์ ด้วยการด่าและเหยียดหยามชายคนนั้นแทน โดยเหยียดหยามว่า “เอ็งมันบาปมาตั้งแต่เกิดแล้ว” แปลความได้ว่า เขาเกิดมาตาบอดเพราะทั้งพ่อแม่ทำบาปและเพราะตัวเขาชั่วเอง ซึ่งตรงกันข้ามกับสิ่งที่พระเยซูพูดถึงชายคนนี้
– (ยน. 9:3) พระเยซูตรัสตอบว่า “ไม่ใช่คนนี้หรือพ่อแม่ของเขาที่ทำบาป แต่เขาเกิดมาตาบอดเพื่อให้พระราชกิจของพระเจ้าปรากฏในตัวเขา”
– พวกเขาดูถูกชายคนนั้นว่า เต็มไปด้วยบาปมีสิทธิอะไรมาสอนพวกเขา คำพูดนี้แท้จริงกำลังกล่าวโทษพวกเขาเอง
>> พวกเขาเองกำลังยโส หลงตัวเองคิดว่าตนเองไม่มีบาป
>> พวกเขาบอกว่า ชายคนนั้นกำลังสอนพวกเขาและเป็นคำสอนที่พวกเขาไม่อาจโต้แย้งได้พวกเขาจึงไม่โต้แย้ง นั่นก็คือ เรื่องนี้ชี้ให้เห็นใจที่แข็งกระด้างของพวกเขาว่า ขนาดคนบาปตั้งแต่เกิดยังสามารถรับรู้ จนกระทั่งสอนได้เลยว่า พระเยซูเป็นพระมาซีฮา แล้วพวกเขาที่เป็นอาจารย์ของพวกยิว กลับมองไม่ออกว่าพระเยซูเป็นพระมาซีฮา
– หลังจากเหยียดหยามชายคนนั้นแล้ว พวกเขาก็อเปหิชายคนนั้นออกจากธรรมศาลา ซึ่งเป็นการลงโทษที่รุนแรงมาก (ดูคำอธิบายเพิ่มเติมได้ ใน แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ยน. 9:22)
การประยุกต์ใช้ :
– เมื่อชายที่หายตาบอดคนนี้ ยืนยันเพื่อพระเยซู สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา ก็คือ การถูกเหยียดหยาม และ การถูกลงโทษอย่างรุนแรง แต่ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่เขากำลังจะได้พบในข้อต่อๆมา คือพระพรอันยิ่งใหญ่
– การทำสิ่งที่ถูกต้องจำเพาะพระพักตร์ของพระเจ้า ผลที่ออกมาในช่วงแรกๆ อาจจะไม่ได้เกิดเป็นผลดีเสมอไป แต่ท้ายที่สุดแล้วจะเกิดผลดีและนำพระพรที่ยิ่งใหญ่มาสู่ชีวิต