แนวคิด :
– หญิงที่ถูกจับฐานล่วงประเวณี ทูลตอบพระเยซู “ท่านเจ้าข้า” ไม่มีใครอีกแล้วที่จะเอาโทษฉัน นอกจาก “ท่านเจ้าข้า”
– พระเยซูจึงพูดกับนางว่า แม้พระองค์เป็นผู้ที่มีสิทธิที่จะเอาโทษเธอได้ แต่ พระเยซูก็ไม่เอาโทษเธอ เหมือนกันคนเหล่านั้นที่ไม่มีสิทธิเอาโทษเธอ
– พระเยซูมีสิทธิเอาโทษ แต่ทำตัว “เหมือนกัน” กับ ผู้ไม่มีสิทธิเอาโทษ สรรเสริญพระเยซู!!!
– ผู้ไม่มีสิทธิเอาโทษ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม พวกเขาก็ไม่มีสิทธิเอาโทษ หญิงคนนี้ในความผิดครั้งนี้อีกต่อไป แล้วพระเยซูตรัสกับหญิงนั้นว่า “เราก็ไม่เอาโทษ แบบเดียวกับพวกนั้นเหมือนกัน” นั่นคือ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พระองค์ก็จะไม่เอาโทษหญิงคนนี้เนื่องจากความผิดครั้งนี้อีกต่อไป
– “จงไปเถิด” ไปไหน? >> ไปให้พ้นจากที่นั่น ที่ที่ผู้คนเขาทำให้เธออับอาย ที่ที่ผู้คนกล่าวโทษเธอ ที่ที่ผู้คนจะลงโทษเธอ >> เราอนุญาตให้เธอพ้นจากที่ที่นั้นได้ ณ บัดนี้
– “และจากนี้ไปอย่าทำบาปอีก” วลีนี้ไม่ใช่คำพูดของผู้ตัดสิน ที่คาดโทษเอาไว้ ว่าถ้าคราวหน้าทำผิดจะโดนลงโทษแน่ๆ แต่เป็นคำพูดของผู้ที่รักหญิงคนนั้นมาก มากจนอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ผู้นี้เต็มใจเดินไปสู่การตายอย่างทุกข์ทรมานที่บนกางเขน เพื่อช่วยชีวิตของเธอ ดังนั้น นัยของการพูดนี้ จึงน่าจะหมายถึง เรารักและห่วงใยเธอมาก เธออย่าทำผิดเหมือนเดิมอีกเลยนะ เพราะมันจะทำให้ตกอยู่ในอันตราย ตกกลับเข้าสู่วงเวียนแห่งความอับอายและความอัปยศอีกครั้ง
การประยุกต์ใช้ :
– เมื่อเรานำตัวจริงของเรามาอยู่ต่อหน้าพระเยซู พระองค์ไม่ลงโทษเรา ทั้งที่พระองค์มีสิทธิที่จะลงโทษ
– พระองค์พร้อมที่จะให้อภัยแก่เรา ช่วยเราหลุดพ้นออกจาก ที่แห่งความอับอาย ที่แห่งการถูกกล่าวโทษ และที่แห่งการถูกลงโทษ เพื่อเข้าสู่เสรีภาพอย่างแท้จริงโดยทางพระองค์
– พระองค์ทรงให้อภัยเราแล้ว และพระองค์ประสงค์ให้เรามีชีวิตใหม่ในพระองค์
– พระเยซูทรงช่วยเราพ้นจากผลของบาป และพระองค์ประสงค์ให้เรามีชีวิตใหม่พ้นจากอำนาจของบาปด้วย