แนวคิด :
– พวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสี ถามความคิดเห็นของพระเยซู เกี่ยวกับหญิงที่ถูกจับฐานล่วงประเวณี ไม่ใช่เพราะพวกเขาอยากรู้ แต่เพื่อจะหาเหตุฟ้องพระเยซูและจับพระองค์
– เพราะพวกเขาคิดว่า ถ้าพระเยซูตอบว่า “เอาหินขว้างให้ตาย” แล้วคนก็เอาหินขว้างนางจนตาย พระเยซูก็จะทำผิดกฏหมายโรมเพราะตัดสินด้วยศาลเตี้ย
– แต่ถ้าพระเยซูตอบว่า “ปล่อยนางไป” พวกเขาก็จะบอกประชาชนว่าพระเยซูสอนผิดธรรมบัญญัติ และพวกเขาจะได้มีเหตุจับพระองค์ได้
– พระเยซูไม่ตอบ แต่กลับนั่งลงแล้วใช้นิ้วเขียนที่ดิน เราไม่ทราบว่าพระองค์เขียนอะไร แต่พอที่จะคาดเดาอากัปกริยาของพระองค์ได้ว่า พระองค์ไม่อยากพูด สิ่งที่พวกเขาอยากให้พระองค์พูด
– พวกเขาอาจจะคิดว่า เพราะพระองค์ไม่รู้จะตอบอย่างไร หรือ เพราะพระองค์กลัวที่จะตอบ ซึ่งถ้าพวกเขาคิดเช่นนั้นจริง พวกเขาคิดผิด
– พระเยซูรู้อยู่แล้วว่าจะตอบอย่างไร(ข้อ7) แต่พระองค์ไม่อยากพูด เพราะคำตอบนั้น จะเป็นการตำหนิกล่าวโทษถึงบาปในอดีตของทุกคนในที่นั่น
– ครั้งนี้ พระเยซูไม่ได้มาเพื่อพิพากษาโลก แต่มาเพื่อช่วยโลกให้รอด
การประยุกต์ใช้ :
– พวกเขาหวังร้ายกับพระเยซู แต่พระเยซูทรงหวังดีต่อพวกเขา
– คำพูดของพระเยซูในข้อถัดไป ถ้าเป็นเราพูด เราคงจะสะใจ พูดแล้วทุกคนหน้าแตกกันหมด พวกหน้าซื่อใจคตทั้งหลาย พวกที่คิดตนเองดีกว่าคนอื่นทั้งหลาย โดนกันหมด สมน้ำหน้า!!!
– แต่พระเยซูกลับไม่อยากพูด พระองค์ไม่ต้องการซ้ำเติมหรือกล่าวโทษบาป ในอดีตของใคร พระองค์มาช่วย ไม่ได้มาพิพากษา
– (แม้แต่ ใน ยอห์น บทที่ 4 เมื่อพระเยซูพูดกับหญิงสะมาเรียที่บ่อน้ำ “เจ้ามีผัวมา 5 คนแล้ว…” ก็ยังเป็นประโยคที่อ่อนโยน ไม่ใช่เพื่อกล่าวโทษเธอ)
– ไม่ว่าเราจะเคยผิดพลาดพลั้งไปในอดีตมามากเพียงใด พระเยซูไม่ประสงค์ที่จะกล่าวโทษ ซ้ำเติมเราในเรื่องบาปนั้น พระเยซูประสงค์ที่จะช่วยเรา ปลดปล่อยเรา ให้อภัยแก่เรา และช่วยเราให้กลับเริ่มต้นชีวิตใหม่
– จิตใจที่ชอกช้ำ หัวใจที่สำนึกผิด เชิญมารับการเยียวยาและการอภัยจากพระเยซูเถิด