แนวคิด :
– ทะเลกำเริบเสียแล้ว พวกเหล่าสาวกติดแหง็กกลางทะเล เพราะใคร?
– ก็เพราะ “พระเยซูนั่นแหละ” บอกให้พวกเขาลงเรือข้ามฟากทะเลสาบนี้ แถมยังรีบๆเร่งให้พวกเขาลงเรือ ถ้าช้าหน่อย รอถึงพรุ่งนี้ค่อยลงเรือ พวกเขาก็คงไม่เจอสภาพอากาศและสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้
– พวกเขาเริ่มพายเรือตั้งแต่หัวค่ำ(ยน.6:16) พายจนถึงราวๆตี3 ยังไม่ถึงฝั่งเลย(มก.6:48) ต้องไม่ลืมว่า เหตุการณ์นี้เกิดหลังจาก พวกเขาตามพระเยซูขึ้นภูเขาตั้งแต่เช้า แล้วฝูงชนตามมา แล้วพระเยซู เทศนาและรักษาโรคฝูงชน จนเย็น แล้วพวกเขา ต้องแจกอาหารให้คนนับหมื่นคน แล้วยังต้องประสานงานการเก็บเศษอาหารจากคนเหล่านั้นอีก แล้วไม่ทันพัก พระเยซูก็ให้เขารีบลงเรือ จนพวกเขาต้องพายและเผชิญคลื่นในทะเลมากว่า 8 ชม.แล้ว
[นอกจากชาวประมง 4 คน ที่เหลือคงเริ่มอ้วกแตกอ้วกแตนกันแล้ว โดยเฉพาะมัทธิว ปกตินั่งเฉยๆที่ด่านภาษี ไม่เคยมานั่งโยกในเรือนานขนาดนี้ สังเกตได้จาก มัทธิวเขียนว่า “…ถูกคลื่นซัด..”มธ. 14:24 เขาจำคลื่นนั้นได้ไม่มีวันลืม แต่ยอห์นชาวประมง กลับเขียนว่า “ทะเลก็กำเริบขึ้น…”ยน. 6:18 ไม่ได้สนใจคลื่นแค่บอกว่าทะเลแปรปรวน]
– ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะเขาเชื่อฟังพระเยซู
การประยุกต์ใช้ :
– บางครั้งเมื่อเราเชื่อฟังพระเจ้า สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ อาจจะดูแย่ ดูลำบาก หรือ อาจจะถึงกับดูเลวร้าย
– นั่นไม่ใช่เพราะเราผิดที่เชื่อฟัง หรือไม่ใช่เพราะพระเจ้าผิดที่ไม่ปกป้องดูแลเรา
– แต่เพราะพระเจ้ามีของขวัญยิ่งใหญ่อลังการ เตรียมไว้ เพื่อมอบให้กับคนทั้งหลายที่เชื่อฟัง
– คลื่นลมในทะเลเป็นองค์ประกอบสำคัญ สำหรับการให้สาวกได้เห็นสิ่งที่ยังไม่มีมนุษย์คนใดในโลกเคยเห็น ฉันใด
– ความยากลำบาก หรือสถานการณ์ที่ไม่ได้ดังใจของเราในวันนี้ ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญ สำหรับการให้เราได้พบการช่วยกู้อย่างอัศจรรย์ที่เราไม่เคยพบมาก่อนในชีวิต ฉันนั้น