ภาพรวม
- ในบทนี้ อ.เปาโล เน้นย้ำให้คริสเตียนเธสะโลนิกา รู้ตัวและตื่นตัวอยู่เสมอว่า พระเยซูคริสต์ใกล้จะเสด็จกลับมาแล้ว พวกเขาควรดำเนินชีวิตอย่างถวายเกียรติแด่พระเจ้าอยู่เสมอ
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1# 1ธส. 5:1-3 บอกเราว่า วันและเวลาที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมานั้น จะมาถึงอย่างแน่นอน แต่จะมาถึงแบบไม่มีใครรู้ตัว
พระเยซูจะอย่างแน่นอน เหมือน หญิงที่ตั้งครรภ์แล้ว แน่นอนที่สุดอีกไม่นานเด็กจะคลอดออกมา
พระเยซูจะมาอย่างคนไม่รู้ตัว เหมือน ขโมยที่มาโดยคนไม่รู้ตัว
1.@ ในเมื่อเรารู้ว่า พระเยซูจะเสด็จมาอย่างแน่นอน แต่จะมาในเวลาที่เราไม่รู้ตัว
ดังนั้นเราควรดำเนินชีวิตอย่างตื่นตัวอยู่เสมอ ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าในฝ่ายวิญญาณ ด้วยการดำเนินชีวิตทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
2.# ข้อ 4-7 ชี้ให้เห็นว่า คนที่ไม่รู้จักพระเจ้า พวกเขาเป็นคนของกลางคืน และไม่รู้ความจริงเกี่ยวกับการเสด็จกลับมา
พวกเขาจึงนอนหลับต่อความจริง ไม่สนใจ ไม่เตรียมตัว ไม่ตอบสนองใดๆต่อความจริงนี้
แต่เราผู้เชื่อวางใจในพระเยซู เป็นคนของกลางวันและรู้ความจริงว่า พระเยซูจะเสด็จมาในเวลาที่เราไม่รู้ตัว
ดังนั้นเราไม่ควรดำเนินชีวิตเหมือนคนในโลกนี้ที่หลับไหลไม่สนใจต่อความจริงนี้
แต่เราควรตื่นตัว เฝ้าระวังในการดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่า เพราะเรารู้ว่า เวลาที่พระเยซูตะเสด็จกลับมานั้นใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว
2.@ เราผู้รู้ความจริง เหตุใดจึงดำเนินชีวิตราวกับว่าไม่รู้ความความจริง?
เราผู้เป็นคนของกลางวัน เหตุใดจึงดำเนินชีวิตใกล้เคียงกับคนของกลางคืนเล่า?
3.# 1ธส. 5:8 สอนเราให้ใช้ชีวิตตอบสนองความจริงที่ว่า พระเยซูใกล้จะเสด็จกลับมาแล้ว โดยเราควรดำเนินชีวิตอย่างมีสติ ยึดความเชื่อ ความรัก และความหวัง ไว้ให้มั่น
3.@ หากเรากำลังมัวเมา สิ่งยั่วยวนของโลก ได้เวลาสร่างเมา มีสติได้แล้ว
ให้เราใช้ทุกวันในชีวิตของเรา เพื่อพัฒนาความเชื่อ ความรัก และ ความหวัง ในชีวิตของเรา อยู่เสมอ
4.# 1ธส. 5:11 สอนว่า ในวาระสุดท้ายเช่นนี้ สิ่งที่จำเป็นอย่างมาก คือ การรักกัน หนุนใจกัน และต่างคนต่างจงเสริมสร้างกันขึ้น
4.@ ยิ่งใกล้สิ้นยุค ยิ่งควรรักกัน ช่วยกันและกัน
ปีนี้ เข้าใกล้วันที่พระเยซูเสด็จกลับมา ยิ่งขึ้น อีก 1 ปีแล้ว
ดังนั้น ปีนี้ เราควรรักกันและกัน มากยิ่งขึ้นกว่าปีที่แล้ว
5.# ใน 1ธส. 5:12-13 สอนว่า เราควรให้เกียรติ นับถือ และรัก ผู้นำที่ดูแลจิตวิญญาณของเราและผู้สอนที่สอนเรื่องฝ่ายวิญญาณแก่เรา เพราะคนเหล่านั้นกำลังรับใช้พระเจ้าอยู่
5.@ วันนี้ เราได้ทำสิ่งดีใดๆแก่ผู้ดูแลฝ่ายวิญญาณของเราบ้างหรือยัง?
เราอธิษฐานเผื่อพวกเขาบ้างหรือเปล่า?
เรารักและให้เกียรติ พวกเขาอย่างจริงใจหรือไม่?
6.# ใน 1ธส. 5:14 สอนว่า เราควรอดทนต่อทุกคน
แม้เขาจะเป็นคนเกียจคร้าน ก็ควรรักเขาด้วยการตักเตือนเขา
แม้เขาเป็นคนขาดความกล้าหาญ ก็ควรรักเขา ด้วยการหนุนใจเขา
หากเขาเป็นอ่อนแอ อ่อนกำลัง ก็ควรรักเขา ด้วยการช่วยเหลือเขา
6.@ ไม่ว่าพี่น้องในพระคริสต์ของเรา จะนิสัยอย่างไรก็ตาม เราก็ควรรักเขาอยู่ดี โดยปฏิบัติต่อเขาอย่างเหมาะสม
7.# 1ธส. 5:15-22 สอนเราให้ถวายเกียรติแด่พระเจ้า ด้วยการดำเนินชีวิตดังนี้
– ไม่ทำชั่วตอบแทนการชั่ว
– หาทางทำดีเสมอต่อทุกคน
– ชื่นบานอยู่เสมอ
– อธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ
– ขอบพระคุณในทุกกรณี
– ตอบสนองต่อการสอนของพระวิญญาณบริสุทธิ์
– ไม่ดูหมิ่นถ้อยคำของผู้เผยพระวจนะ แต่ก็ไม่ได้เชื่อไปทั้งหมด โดยตรวจสอบถ้อยคำเหล่านั้นด้วยพระคำของพระเจ้า หากพบว่าเป็นความจริง ก็จงยึดถือไว้ให้มั่น
– เว้นเสียจากสิ่งที่ชั่วทุกอย่าง
7.@ เมื่อเราเป็นลูกของพระเจ้าแล้ว ก็ควรดำเนินชีวิตอย่างลูกของพระเจ้า ด้วยการดำเนินถวายเกียรติแด่พระเจ้าของเราอยู่เสมอ
8.# ใน 1ธส. 5:23 ชี้ให้เห็นว่า เราควรดำเนินชีวิตให้ปราศจากการติเตียนทั้งวิญญาณ จิตใจ และร่างกายของเรา
8.@ เราควรระมัดระวังในการดำเนินชีวิต ให้มีการกระทำที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า มีจิตใจที่เป็นที่พอพระทัยของพระองค์ และมีจิตวิญญาณที่รับการชำระสะอาดด้วยความเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์
9.# 1ธส. 5:24 “พระองค์ผู้ทรงเรียกท่านนั้นซื่อสัตย์ และพระองค์จะทรงทำให้สำเร็จ”
9.@ พระเจ้าจะทรงรักษาสัญญาเสมอ
คำคม
“ คุณพร้อมหรือยัง หากพระคริสต์เสด็จกลับมาในวันนี้? ”
อาเมน ขอบคุณพระเจ้า
ถูกใจถูกใจ