ภาพรวม
- พระเจ้าทรงช่วยกรุงสะมาเรียโดยทำให้ทหารซีเรียที่ล้อมเมืองอยู่นั้น เข้าใจผิดนึกว่ามีกองทัพยกมาช่วยอิสราเอล พวกเขาจึงหนีตายล่าถอยไป
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
2 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 7 หลังจากที่เอลีชา ทำการอัศจรรย์ให้หัวขวานเหล็กลอยน้ำได้ , ให้ทหารของกองทัพซีเรียตาบอดไป แต่เมื่อพระราชาซีเรียมาล้อมกรุงสะมาเรียจนเกิดกันดารอาหารอย่างหนัก โยรัมกลับโกรธเอลีชาแล้วคิดจะฆ่าเสีย
แต่เอลีชาทูลโยรัม ว่า
พรุ่งนี้ประมาณเวลานี้ จะมีอาหารมากมายในเมืองสะมาเรีย
แล้วนายทหารคนสนิทของโยรัม จึงตอบว่า
ต่อให้พระเจ้าทำ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้หรือ?
เอลีชาจึงบอกว่า
เขาเองจะเห็นกับตา แต่จะไม่ได้กิน
เวลาหัวค่ำวันนั้น มีคนโรคเรื้อน 4 คน ได้เสี่ยงตายเพื่อออกไปขอความเมตตาจากทหารซีเรีย
แต่เมื่อพวกเขามาถึงค่ายของซีเรีย ก็พบว่าไม่มีใครที่นั่นสักคน
เนื่องจากกองทัพของซีเรียได้ยินเสียงดัง แล้วนึกว่า
กองทัพของคนฮิตไทต์ และคนอียิปต์ มาช่วยอิสราเอล
พวกเขาจึงหนีไป และทิ้งข้าวของไว้มากมาย
คนโรคเรื้อนเหล่านั้นจึงเข้าไป กินและดื่ม และขนสมบัติไปซ่อนไว้จำนวนมาก
แล้วพวกเขา ก็นึกได้ว่า
ถ้าไม่รีบไปบอกคนในเมือง หากเช้าแล้วคนในเมืองรู้เอง พวกเขาอาจจะถูกลงโทษ
พวกเขาจึงมาบอกนายประตูเมือง
แล้วบรรดานายประตูก็ตะโกนบอกกันไป ถึงพระราชวัง
โยรัมตื่นขึ้น เมื่อทราบข่าวก็คิดว่า น่าจะเป็นแผนของพวกซีเรีย
จึงส่งรถรบสองคัน ให้ออกไปดู
ก็พบว่า เป็นความจริง ทหารซีเรียหนีกันไปหมดแล้ว
แล้วประชาชนก็ออกไปปล้นค่ายของคนซีเรีย
แต่โยรัมได้แต่งตั้งนายทหารคนสนิท ให้ไปเฝ้าดูแลประตูเมือง ไม่ให้คนออกไป
แต่ประชาชนก็เหยียบไปบนเขาตรงประตู
เขาจึงสิ้นชีวิตตามที่เอลีชา ได้กล่าวไว้
1. การที่เมืองที่กันดารอาหารเพราะศัตรูล้อมไว้นาน อดอยากถึงขนาดแม่ต้องกินลูกของตนเอง
จะกลายเป็นเมืองที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ภายในคืนเดียว
เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ในสายตาของมนุษย์
แต่เป็นเรื่องเล็กน้อยในสายพระเนตรของพระเจ้า
พระองค์ทรงทำให้เกิดขึ้นได้ โดยที่อิสราเอลไม่ต้องเสียไพร่พลเลยสักคนเดียว
วันนี้ สถานการณ์ของเรา อาจดูไม่มีทางออก เป็นไปไม่ได้เลยในทุกช่องทาง
แต่โดยพระเจ้า เมื่อพระองค์เปิดประตูก็ไม่มีใครสามารถปิดได้
จงนำเรื่องของเรา มาร้องทูลต่อพระเจ้าเถิด
2. ผู้ที่มีส่วนช่วยให้คนอิสราเอลพ้นจากความอดอยากในคืนนั้น
ไม่ใช่นักรบที่กล้าหาญ แต่เป็นชาย 4 คน ที่อ่อนแอ สังคมรังเกียจ และขี้ขลาดกลัวการลงโทษ
เมื่อเขานำข่าวดีมากบอกแก่ชาวเมือง คนอ่อนแออย่างพวกเขา ได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านักรบคนใดๆในเมืองนั้นได้กระทำ
วันนี้ ไม่ว่าเราจะอ่อนแอเพียงใด
เราได้พบข่าวดีเรื่องของพระเยซูแล้ว
เป็นข่าวที่จะช่วยผู้คนทั้งหลาย ให้รอดพ้นหายนะได้
เพียงเรานำข่าวนี้ไปแจ้ง บางคนอาจจะไม่เชื่อเหมือนโยรัม ก็แล้วไป
แต่มีคนมากมายพร้อมที่จะเชื่อ และพวกเขาจะได้รับความช่วยเหลือข่าวแสนดีที่เรานำไปบอกพวกเขานั้น
3. แม้ว่านายทหารคนสนิทของโยรัม ดูหมิ่นฤทธานุภาพของพระเจ้า
การอัศจรรย์ก็ยังเกิดขึ้นอยู่ดี
แต่เขาจะไม่ได้รับประโยชน์จากการอัศจรรย์นั้นเลย แต่หนำซ้ำกลับได้รับผลร้ายจากการอัศจรรย์นั้นอีกด้วย
วันนี้ ไม่ว่าเราจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม
พระเจ้าก็ยังจะทรงทำการอัศจรรย์อยู่ดี
แต่การอัศจรรย์เหล่านั้น จะเป็นพระพรสำหรับผู้ที่เชื่อ ถ้อยคำของพระองค์เท่านั้น
เหมือนบางคนที่ต่อให้เห็นการอัศจรรย์กับตา พวกเขาก็ไม่หันกลับมาหาพระเจ้า
เพื่อให้พระองค์ช่วยเขาให้รอดจากบาปอยู่ดี
คำคม
“ ถ้าไม่เชื่อ ต่อให้ได้เห็นการอัศจรรย์ สิ่งนั้นก็จะไม่เป็นประโยชน์ต่อเขา ”