ภาพรวม
- เอสเธอร์เสี่ยงตายเข้าเฝ้ากษัตริย์ และเชิญกษัตริย์กับฮามานมาร่วมงานเลี้ยง และเชิญมาอีกครั้งในวันถัดไป ส่วนฮามานได้สร้างตะแลงแกงเพื่อจะใช้แขวนคอโมรเดคัย
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
เอสเธอร์ บทที่ 5 เมื่อเอสเธอร์ ขอให้โมรเดคัยและคนยิวในสุสา อดอาหารอธิษฐาน 3 วัน ก่อนที่เธอจะเสี่ยงตายเข้าไปทูลอ้อนวอนกษัตริย์ ให้ยกเลิกการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนยิว
พอถึงวันที่สาม พระนางเอสเธอร์ก็เข้าไปยืนในลานชั้นในของพระราชวังตรงข้ามกับท้องพระโรง
กษัตริย์ประทับบนราชบัลลังก์
เมื่อกษัตริย์ทอดพระเนตรเห็นก็โปรดปรานพระนาง
จึงยื่นพระคทาสุวรรณ แก่พระนางเอสเธอร์ ตรัสว่า
“เธอต้องการอะไร? ก็จะให้เธอได้ถึงครึ่งราชอาณาจักร”
พระนางทูลว่า
ขอกษัตริย์เสด็จมาพร้อมกับฮามานในวันนี้
เพื่อเสวยอาหารที่พระนางเตรียมไว้
กษัตริย์จึงเสด็จไปในงานเลี้ยงของพระนางเอสเธอร์พร้อมกับฮามาน
ขณะเสวยเหล้าองุ่นอยู่ กษัตริย์ถามพระนางอีกว่า
“เธอจะร้องขออะไร? แม้ถึงครึ่งราชอาณาจักรก็จะได้”
พระนาง ทูลว่า
ขอกษัตริย์ มายังงานเลี้ยงอีก ในพรุ่งนี้ พร้อมกับฮามาน
และพระนางจะบอกสิ่งที่พระนางต้องการ
วันนั้น หลังจากงานเลี้ยง ฮามานก็ออกไปด้วยใจชื่นบาน
แต่เมื่อเห็นโมรเดคัย ไม่ยืนขึ้นหรือตัวสั่นอยู่ต่อหน้าเขา
เขาก็โกรธแค้นโมรเดคัย
แต่ก็อดกลั้นไว้ กลับไปบ้าน
เมื่อมาถึงบ้าน เขาก็ใช้คนไปตามเพื่อนๆ และเศเรชภรรยาของตนมา
แล้วคุยอวดเรื่องความมั่งมี จำนวนบุตร และเกียรติยศต่างๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องที่พระราชินีเอสเธอร์ ได้เชิญเฉพาะเขา
ไปร่วมงานเลี้ยงกับกษัตริย์อีก ในวันพรุ่งนี้
และเล่าความแค้น ที่โมรเดคัยไม่ยอมทำความเคารพเขา
ภรรยาของเขา และเพื่อนๆ ทุกคนจึงเสนอว่า
ขอทำตะแลงแกงสูง 22 เมตร
แล้วพรุ่งนี้ก็ขอให้กษัตริย์ให้แขวนคอโมรเดคัยเสียที่นั่น
ฮามาน จึงสั่งให้ทำตะแลงแกงนั้น
1. เอสเธอร์เสี่ยงตายไปเฝ้ากษัตริย์ ที่ลานหน้าท้องพระโรง ขณะกษัตริย์อยู่บนบัลลังก์
ซึ่งแสดงว่ากำลังประชุมเรื่องสำคัญกับเหล่าข้าราชการอยู่
คงเป็นเพราะนั่นเป็นที่เดียวที่เอสเธอร์สามารถเข้าถึงกษัตริย์ได้
แต่การที่เอสเธอร์ทำเช่นนั้น โทษของเธอตามกฏหมายเปอร์เซีย
ก็คือ ต้องถูกประหารชีวิต
แต่พระเจ้าทำให้กษัตริย์ไม่เพียงไม่โกรธเธอ ให้อภัยเธอ
แล้วยังโปรดปรานเธอ จนถึงกับเอ่ยปากว่า
เธอต้องการขออะไรได้หมด
เมื่อเราทำเพื่อพระเจ้า ในส่วนของเราอย่างสุดกำลัง
ส่วนที่เกินกำลังของเรานั้น
พระเจ้าเองจะเป็นผู้ทำให้เกิดผลดียอดเยี่ยมในส่วนนั้น
2. เมื่อกษัตริย์เปิดโอกาสให้เอสเธอร์ ขออะไรก็ได้
เธอไม่ได้ขอทันที แต่กลับจัดงานเลี้ยง 2 วัน
เพื่อจะทูลขอในวันที่ 2
ซึ่งน่าจะเป็นการดลใจจากพระเจ้า ให้เธอรอจังหวะที่เหมาะสม
ถ้าทูลขอในวันนั้นเลย อาจจะช่วยพวกยิวรอดพ้น ไป 1 ครั้ง
แต่ฮามานก็คงจะหาทางฆ่าพวกยิวอีก
แต่เมื่อทูลขอในวันที่เหมาะสม
– ตะแลงแกง สำหรับทำลายฮามาน ก็พร้อมแล้ว
– ความดีของโมรเดคัย ก็ถูกเปิดเผยแล้ว(บทที่ 6)
– ความโปรดปรานของกษัตริย์ในตัวเอสเธอร์ที่ช่วยจัดงานเลี้ยงให้ มีมากมายเพียงพอแล้ว(บทที่ 7)
การลงมือทำในเวลาที่เหมาะสม จึงจะทำให้ปัญหาหมดไปอย่างสิ้นเชิง
ทุกครั้งที่ประตูเปิดออก ไม่ได้หมายความว่า เราต้องรีบก้าวเข้าไป
จงเรียนรู้ที่จะคอยฟัง คอยสังเกต การสอนและการนำของพระเจ้า
ในการเดินไปในทางนั้น
3. ฮามานวางแผนชั่วร้าย สร้างตะแลงแกงเพื่อแขวนคอโมรเดคัย ผู้ไม่ยอมคำนับเขา
แต่สิ่งนั้นกลับเป็นเหตุให้กษัตริย์ โมโหอย่างมาก
และนำหายนะมาสู่ฮามานเองในที่สุด
แผนที่คนชั่วร้ายวางไว้ จะตกใส่ตัวเขาเอง
สภษ. 26:27 “คนที่ขุดหลุมพรางจะตกลงไปเอง คนที่กลิ้งก้อนหินขึ้นไป มันจะกลิ้งกลับมาทับเขาเอง”
คำคม
“ เมื่อเราทำส่วนของเราอย่างสัตย์ซื่อ พระเจ้าจะทรงทำให้ส่วนที่เกินความสามารถของเราเกิดขึ้น ”