ภาพรวม
- โยบบอกเพื่อทั้งสามว่า พวกเขาไม่ควรพูดใส่ร้ายป้ายสีโยบ แล้ว๋ก็หันไปอธิษฐานร้องทูลต่อพระเจ้า
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
โยบ บทที่ 13 เมื่อโยบโต้แย้งเพื่อนทั้งสามของเขาว่า คนอธรรมอาจไม่พบกับความทุกข์เสมอไป บางครั้งพระเจ้าก็ทรงให้คนอธรรมจำเริญขึ้นชั่วคราวด้วยพระประสงค์พิเศษของพระองค์
โยบก็กล่าวต่อไปว่า
สิ่งที่เพื่อนทั้งสามรู้ โยบก็รู้ด้วยเหมือนกัน
แต่ตอนนี้ โยบจะทูลพระเจ้าอยู่ดี ว่า
เขาปรารถนาจะสู้ความกับพระเจ้า
ส่วนพวกเขานั้น เต็มไปด้วยการโกหก เป็นเหมือนแพทย์ที่ใช้ไม่ได้
ดังนั้นพวกเขาน่าจะนิ่งเสีย และความนิ่งนั้นจะเป็นปัญญาของพวกเขา
พวกเขาไม่ควรพูดเท็จ หรือพูดหลอกลวง หรือลำเอียง เพื่อพระเจ้า
เพราะนั่นจะทำให้พระเจ้าไม่พอพระทัย
แล้วคำพูดและการกระทำของพวกเขาก็จะไร้ค่า
พวกเขาอาจหลอกมนุษย์ได้ แต่ไม่มีทางหลอกลวงพระเจ้าได้
โยบขอเสี่ยงชีวิตพูดสิ่งต่อไปนี้
คือ เขาขอสู้ความเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า
นี่จะเป็นความรอดของเขา คือคนที่ไม่นับถือพระเจ้าจะไม่ได้เข้ามาอยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์
วันนี้เขามาสู้ความ เฉพาะพระพักตร์ ก็เพราะว่าเขานับถือพระองค์
โยบขอพระเจ้าทรงเรียกเถิด แล้วเขาจะทูลตอบ
หรือขอให้เขาร้องทูล และขอพระองค์ทรงตอบเขาเถิด
โยบทูลว่า
ขอพระเจ้าทรงให้ข้าพระองค์ทราบถึงความผิดความบาปของเขาด้วยเถิด
ขออย่าทรงซ่อนพระพักตร์ เหมือนทรงถือว่าเขาเป็นศัตรู
เพราะเขาช่างเล็กน้อยเมื่อเทียบกับพระองค์ อย่าถือสาเขาเลย
อย่าถือสาความผิดที่ทำเมื่อเยาว์วัยเลย
เพราะเขากำลังโทรมไปเหมือนไม้ผุ หรือเหมือนเครื่องแต่งกายที่ตัวแมลงกิน
1. เพื่อนของโยบ พยายามช่วยพระเจ้า ด้วยการกล่าวหาโยบในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง
โยบจึงเตือนพวกเขาว่า การกล่าวหาเช่นนั้นไม่เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า
อีกทั้งพระเจ้าไม่จำเป็นต้องให้พวกเขาช่วย
เราไม่สามารถรับใช้พระเจ้า ด้วยวิธีของมารได้
มีบางคนพยายามบิดเบือนคำพยาน เพื่อให้ดูสิ่งที่พระเจ้าทำนั้นยิ่งใหญ่กว่าที่เกิดขึ้นจริง
การกระทำเช่นนั้น นอกจากจะไม่เป็นพระพรแล้ว ยังเป็นสิ่งที่พระเจ้าไม่พอพระทัยอีกด้วย
2. คนโง่เขลาที่ยับยั้งไม่ให้พูดอะไรเลย ให้อยู่นิ่งๆ
ก็นับว่าเขามีปัญญาอยู่พอสมควร
สภษ. 17:28 “แม้คนโง่หากนิ่งเสียก็นับว่ามีปัญญา เมื่อเขาปิดปากของตนก็นับว่ามีความคิด”
หากเราไม่รู้หรือเข้าใจสิ่งนั้นดีพอ จะเป็นการฉลาดมากที่เราจะนิ่งไว้
แทนที่จะพูดสำแดงความโง่ออกมา
3. บางคนอาจหลอกมนุษย์ได้ แต่พวกเขาไม่มีทางหลอกพระเจ้าได้
และพระเจ้าจะตอบแทนการกระทำของพวกเขา อย่างยุติธรรมเสมอ
4. เมื่อโยบจะขอสู้คดีกับพระเจ้า ว่า เขาไม่ได้ทำบาป
เขารู้ดีว่า นั่นเขากำลังทำสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง
ที่เขารู้ตัวเช่นนั้น ก็เพราะเขายำเกรงพระเจ้า รู้ว่าพระเจ้าทรงใหญ่ยิ่งสูงส่งสักเพียงใด เมื่อเทียบกับเขา
และเพราะเขาทำสิ่งอันตรายนี้ ด้วยความเกรงกลัวพระเจ้า
สิ่งที่เขาทำจึงไม่เป้นอันตรายต่อเขา
การกระทำใดๆที่ทำด้วยความยำเกรงพระเจ้า
จะพบพระเมตตาของพระเจ้าในการกระทำนั้นเสมอ
5. ในการสนทนากับพระเจ้า โยบร้องทูลต่อพระองค์ ขณะเดียวกันก็พร้อมฟังสิ่งที่พระองค์จะตรัส
ในการอธิษฐานของเรา เราควรทั้งทูลต่อพระเจ้า และ เปิดใจรับฟังสิ่งที่พระองค์จะบอกกับเรา
6. พระเจ้าทรงซ่อนพระพักตร์พระองค์ จากคำร้องทูลของศัตรู ของพระองค์
นั่นคือ คนที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับพระเจ้า คำอธิษฐานของเขาจะไม่ได้รับคำตอบ
ยก. 4:4 “คนไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า ท่านทั้งหลายรู้ว่าการเป็นมิตรกับโลกนั้นคือการเป็นศัตรูกับพระเจ้าไม่ใช่หรือ? เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่ต้องการเป็นมิตรกับโลก ก็ตั้งตัวเป็นศัตรูกับพระเจ้า “
คำคม
“ คนที่ยำเกรงพระเจ้า จะได้รับพระเมตตาเสมอ ”