ภาพรวม
- พระเจ้าทรงอนุญาตให้ซาตานทำให้โยบเป็นฝีทั้งตัว ถึงกระนั้นโยบก็ไม่ได้ทำบาปด้วยริมฝีปากของตน และสหาย 3 คนของโยบก็เดินทางมาร่วมไว้ทุกข์กับโยบ
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
โยบ บทที่ 2 เมื่อพระเจ้าทรงอนุญาตให้ซาตานนำทุกสิ่งที่โยบมีไปจากเขา ถึงกระนั้นโยบก็ไม่ทำบาปหรือกล่าวโทษพระเจ้า
ต่อมาเมื่อซาตานมารายงานตัวต่อพระเจ้าอีก
พระเจ้าตรัสกับซาตานว่า
โยบ เป็นคนดีพร้อมและเที่ยงธรรม เป็นผู้ยำเกรงพระเจ้าและหันจากความชั่วร้าย
เขายังยึดมั่นในความซื่อสัตย์ของเขาอยู่ ถึงแม้ว่าสิ่งที่เขามีถูกทำลายโดยไม่มีเหตุ
แล้วซาตานทูลพระเจ้าว่า
ร่างกายของโยบเจ็บป่วย แล้วเขาจะแช่งพระเจ้า
พระเจ้าจึงอนุญาตให้ซาตาน โจมตีร่างกายของโยบได้ แต่ห้ามฆ่าโยบ
ซาตานจึงทำให้โยบเป็นฝีร้าย ตั้งแต่ฝ่าเท้าจนถึงกระหม่อม
จนโยบต้องเอาชิ้นหม้อแตกมาขูดตัว
ภรรยาของโยบ กล่าวว่า
“เธอยังจะยึดมั่นในความซื่อสัตย์อยู่อีกหรือ?
จงแช่งพระเจ้าและตายเสียเถอะ”
แต่โยบตอบนางว่า
เราจะรับสิ่งดีจากพระเจ้า และจะไม่รับสิ่งไม่ดีบ้างหรือ?
ในเหตุการณ์นี้ทั้งสิ้น โยบไม่ได้ทำบาปด้วยริมฝีปากของตน
เมื่อสหายทั้งสามของโยบได้ยินเรื่องของโยบ
พวกเขาก็มาเพื่อร่วมในความทุกข์ใจและปลอบโยนโยบ
พวกเขาเปล่งเสียงร้องไห้ ฉีกเสื้อคลุมของตน และซัดผงคลีดินเหนือศีรษะ
พวกเขานั่งบนพื้นดินกับโยบ 7 วัน 7 คืน ไม่มีใครพูดกับโยบสักคำ
เพราะเห็นว่าความทุกข์ระทมของโยบนั้นใหญ่ยิ่งนัก
1. ซาตานใส่ร้ายโยบ และพระเจ้าทรงทราบว่าโยบเป็นเช่นไร
พระเจ้าจึงทรงอนุญาตให้ซาตาน ทำให้เกิดความทุกข์ยากกับโยบ
เพื่อจะทำให้ความชอบธรรมและความสัตย์ซื่อของโยบ
ได้ฉายแสงออกมาอย่างชัดเจน จนเป็นที่ประจักษ์ไม่เพียงต่อซาตาน
แต่ต่อคนอีกหลายพันล้านคนในยุคต่อๆมาที่ได้อ่านเรื่องของโยบ
เปรียบเสมือนกับ สมมติว่า ตัวโยบคำด้วยทองคำบริสุทธิ์
มองเผินอาจจะพอเห็นทองคำในตัวโยบบ้าง
แต่ก็มีเศษไม้ ตะไคร่ และอีกบางอย่างปิดบังไว้อยู่
พระเจ้าทรงอนุญาตให้เอาไปเผาโยบได้
เพราะพระองค์ทรงทราบว่า ไฟนั้นจะไม่สามารถทำลายโยบได้
แต่ตรงกันข้ามจะทำให้ความเป็นทองคำบริสุทธิ์ในตัวโยบ
ฉายแสงงออกมา เป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคน
ซึ่งจะนำศักดิ์ศรีมาสู่โยบ ให้สมกับที่เขาเป็นจริงๆ
ในอีกมุมหนึ่งการที่พระเจ้าอนุญาตให้ซาตานทำเช่นนั้นแก่โยบ
นอกจากจะเป็นผลดี ไม่เป็นผลร้ายต่อโยบแล้ว
กลับเป็นผลร้ายต่อซาตานเอง
ซึ่งพระเจ้าจะลงโทษมันในวันแห่งการพิพากษา
เพราะมันบังอาจใส่ร้ายผู้ชอบธรรม ว่า เขาจะแช่งพระเจ้า
ทั้งที่เขาไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย
ผู้ใส่ร้ายป้ายสีผู้ชอบธรรม ย่อมต้องพบกับการพิพากษาของพระเจ้าผู้ทรงยุติธรรม
เหตุการณ์นี้นอกจากจะแสดงให้เห็นความชอบธรรมของโยบแล้ว
ยังแสดงให้เห็น ความชั่วร้ายของซาตาน ที่ถูกเปิดเผยให้ประจักษ์ แก่ผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลกอีกด้วย
ดังนั้นที่พระเจ้าอนุญาตให้ซาตานทำสิ่งนั้นกับโยบ
ช่างเป็นพระสติปัญญาอันล้ำเลิศของพระเจ้ายิ่งนัก
2. เมื่อความทุกข์ยากเกิดขึ้น
สำหรับภรรยาของโยบ มองอย่างโง่เขลาว่า ไม่ควรสัตย์ซื่อต่อพระเจ้าอีกต่อไป
เพราะดูเหมือนพระเจ้าหมดประโยชน์แล้ว ที่จะทำให้ชีวิตพบสิ่งดีๆ
สำหรับโยบ มองอย่างมีปัญญาว่า ควรสัตย์ซื่อต่อพระเจ้าต่อไป
เพราะเขาไม่ได้สัตย์ซื่อตราบเท่าที่พระเจ้าทำประโยชน์ให้แก่เขาได้
แต่เขาสัตย์ซื่อต่อพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า ผู้ที่เขาควรยำเกรงและสัตย์ซื่อ
3. เพื่อน 3 คนของโยบ มีน้ำใจมาก เดินทางมาจากเมืองของตน
มาร่วมไว้ทุกข์ ร้องไห้ และอยู่เคียงข้างโยบ แบบไม่พูดอะไรเลย ถึง 7 วัน
น่าเสียดายที่เมื่อเขาเริ่มพูด พวกเขากลับทำร้ายโยบ แทนที่จะปลอบโยน
การให้ความคิดของตนเป็นใหญ่ โดยไม่ใส่ใจว่าพระเจ้าทรงรู้สึกเช่นไรในเหตุการณ์นั้นๆ
จะทำลายสิ่งดีทั้งหมดที่ เราพยายามทำในเหตุการณ์นั้นๆ
คำคม
“ พระเจ้าจะอนุญาตให้เฉพาะสิ่งที่เป็นประโยชน์เท่านั้น เกิดขึ้นกับลูกของพระองค์ ”