ภาพรวม
- เยเรมีย์ บทที่ 37 เยเรมีย์ถูกใส่ร้ายและจับขังคุกมืด ต่อมาเศเดคียาห์ก็เรียกเยเรมีย์มาถามเรื่องคำพยากรณ์ แล้วส่งไปกักบริเวณที่บริเวณทหารรักษาพระองค์ แทน
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
เยเรมีย์ บทที่ 37
เนบูคัดเนสซาร์ ได้ทรงตั้ง เศเดคียาห์ ให้เป็นกษัตริย์ในแผ่นดินยูดาห์
แทนโคนิยาห์(เยโคนียาห์)โอรสของเยโฮยาคิม (เหตุการณ์นี้เกิดหลัง จากบทที่ 36)
เศเดคียาห์ และข้าราชการ และประชาชน ก็ไม่ได้ฟังพระวจนะของพระเจ้า ซึ่งตรัสผ่านทางเยเรมีย์
ได้กบฏต่อบาบิโลน บาบิโลนจึงยกทัพออกมาล้อมเยรูซาเล็ม ไว้
แต่เมื่อพวกเคลเดีย(บาบิโลน) ได้ยินว่ากองทัพอียิปต์ ได้ยกทัพออกมาเพื่อช่วยเยรูซาเล็ม
พวกเขาจึงถอยทัพออกไป
เศเดคียาห์ได้ใช้คนไปหาเยเรมีย์ เพื่อขอให้อธิษฐานต่อพระเจ้า ไม่ให้กองทัพบาบิโลนกลับมาอีก
พระเจ้าทรงใช้เยเรมีย์ให้ไปบอกเศเดคียาห์ ว่า
กองทัพของฟาโรห์ จะกลับไปยังอียิปต์
และคนเคลเดียจะกลับมา ยึดเมืองนี้ และเผาเสียด้วยไฟ
ช่วงนั้นมีการแบ่งปันอาหารท่ามกลางประชาชน
เยเรมีย์ก็ออกไปจากกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อไปรับส่วนแบ่ง
ขณะกำลังจะออกจากเมือง ทหารยาม ชื่ออิรียาห์ ผู้หลานของฮานันยาห์
(ฮานันยาห์ น่าจะเป็นคนเดียวกับ ที่ต่อต้านเยเรมีย์ แล้วตาย ใน 2 เดือน ใน ยรม. 28:16
จึงเป็นเหตุให้ ทหารยามคนนี้ แค้นเยเรมีย์)
เขาได้จับเยเรมีย์ แล้วใส่ร้ายว่า เยเรมีย์กำลังหนีไปหาคนเคลเดีย
เมื่อบรรดาเจ้านายทราบเรื่องก็โมโหเยเรมีย์มาก
และพวกเขาก็ตีเยเรมีย์ และขังไว้ในบ้าน ซึ่งดัดแปลงให้เป็นคุกมืด
และเยเรมีย์ก็อยู่ที่นั่นหลายวัน
ต่อมากษัตริย์เศเดคียาห์ทรงใช้ให้คนไปเอาตัวเยเรมีย์มา เพื่อถามว่า
มีพระวจนะมาจากพระเจ้าบ้างหรือไม่?
เยเรมีย์ จึงตอบว่า
มี คือเศเดคียาห์จะถูกมอบไว้ในมือของกษัตริย์แห่งบาบิโลน
เยเรมีย์ได้ทูลเศเดคียาห์ ว่า
เยเรมีย์ได้ทำผิดอะไร จึงได้ถูกขังไว้ในคุก?
พวกผู้เผยพระวจนะเท็จ ที่บอกว่า บาบิโลนจะไม่มาต่อสู้แผ่นดินนี้ หายไปไหนหมด?
เยเรมีย์ขอเศเดคียาห์ อย่าส่งเขากลับไปที่คุกมืดนั้นอีก ไม่งั้นเขาคงจะตายที่นั่นแน่
เศเดคียาห์จึงกักตัวเยเรมีย์ไว้ที่บริเวณทหารรักษาพระองค์
และเขาให้ขนมปังแก่เยเรมีย์วันละก้อน จนขนมปังในกรุงนั้นหมด
1. เศเดคียาห์ไม่เชื่อฟัง พระวจนะของพระเจ้า
ขณะเดียวกันก็ รู้ว่า ทุกคำที่เยเรมีย์พูดเกิดขึ้นเป็นจริงทั้งหมด
ส่วนพวกผู้เผยพระวจนะปลอมที่พูดเอาใจเขา พูดแล้วไม่เกิดขึ้นจริงเลยสักอย่าง
ตัวเขาเอง อยากได้ยินพระวจนะของพระเจ้า แบบที่เขาฟังแล้วสบายใจ
จึงพยายามถามเยเรมีย์หลายครั้ง ทั้งส่งคนไปถาม ทั้งเรียกมาถามด้วยตนเอง
แต่เมื่อเยเรมีย์บอกข่าวร้าย เขาเองไม่ยอมเชื่อ ไม่ยอมกลับใจ
จนในที่สุด ต้องพินาศตามคำพยากรณ์นั้น
อย่าให้เราเลือกเชื่อฟังพระเจ้า เฉพาะที่เราชอบหรือสบายใจเท่านั้น
แต่ให้เชื่อฟังพระเจ้าในทุกสิ่ง แม้ว่าสิ่งนั้นจะขัดใจของเราก็ตาม
2. เยเรมีย์ถูกใส่ร้าย ถูกกลั่นแกล้ง ถูกทุบตีทำร้าย และถูกขังในคุกมืด
เพราะว่าเขาเชื่อฟังทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า
ต่อมากษัตริย์ได้ให้เขาไปถูกกักตัวที่บริเวณทหารรักษาพระองค์ แทน
และได้รับขนมปังวันละก้อน แม้ไม่มากแต่ก็พอประทังชีวิตได้ ในยามที่ทั้งเมืองขาดแคลนอาหารเช่นนั้น
เยเรมีย์ได้รับบำเหน็จมากมายในสวรรค์ เพราะทนทุกข์จากเชื่อฟังพระเจ้า
ขณะเดียวกันในโลกนี้ ท่ามกลางการกันดารอาหารที่คนทั้งเมืองแทบไม่มีอะไรจะกิน
เยเรมีย์ยังคงได้ขนมปังกินทุกวัน โดยไม่ต้องไปดิ้นรนกระเสือกกระสนหาจากที่ใดเลย
เมื่อเราเชื่อฟังพระเจ้า แล้วมีเหตุการณ์ที่ดูเหมือนเป็นสิ่งไม่ดีเกิดขึ้น
ในท่ามกลางเหตุการณ์นั้น เราจะเห็นพระคุณและการจัดเตรียมของพระเจ้าสำหรับเรา
คำคม
“ การทนทุกข์เพราะเชื่อฟังพระเจ้า เป็นกุญแจเปิดประตูสู่พระพรยิ่งใหญ่ ”