ภาพรวม
- เมื่อพระเยซูออกจากแคว้นกาลิลี มาทางใต้ เข้าสู่ยังแคว้นยูเดีย พวกฟาริสีในกรุงเยรูซาเล็มก็เริ่มส่งคนมาทดลองพระเยซู เพื่อจะจับผิดพระเยซู
- มาถึงตอนนี้การติดตามพระเยซูดูเหมือนไม่ได้มีแต่คนชื่นชม แต่มีคนคอยตำหนิแล้วต่อต้านเพิ่มขึ้นด้วย พระองค์จึงสอนสาวกว่า การที่พวกเขาติดตามพระเยซูจะได้รับรางวัลทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1.# พวกฟาริสีมาถามพระเยซูว่า ผู้ชายจะหย่าภรรยาของตนได้หรือไม่
พระเยซูตอบว่า ไม่ได้
พวกเขาจึงถามว่า แล้วทำไมโมเสสบอกว่าหย่าได้ ถ้าทำหนังสือหย่า
พระเยซูตอบว่า ก็เพราะพวกเขาใจแข็งกระด้าง ยังไงก็จะหย่า ดังนั้นโมเสสจึงเพิ่มขั้นตอนการหย่าให้ยุ่งยากขึ้นเพื่อจะได้มีเวลาคิดทบทวนก่อนจะหย่าจริงๆ
ในสมัยนั้นมีผู้ชายหลายคน หย่าภรรยาของตนเพราะเบื่อแล้ว จึงหย่าเพื่อจะได้ไปแต่งงานกับคนใหม่ เพราะเยซูตรัสว่า การทำเช่นนั้น เป็นการผิดประเวณี
1.@ บางครั้งพระเจ้าอนุญาตให้บางอย่างเกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะพระเจ้าเห็นชอบด้วย แต่เพราะถึงยังไงเราก็จะทำตามความดื้อดึงแห่งจิตใจของเราเอง แต่ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังทรงเมตตาให้เราเกิดผลเสียหายให้น้อยที่สุด
วันนี้ หากสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับเรา เกิดจากความดื้อรั้นดันทุรังของเรา จนเกิดปัญหาเช่นนี้ สิ่งที่เราควรทำอย่างเร่งด่วน คือ สารภาพต่อพระเจ้า ขอโทษพระองค์ และกลับใจใหม่จากการกระทำนั้นๆ แล้วในไม่ช้าสถานการณ์จะคลี่คลาย
2.# เมื่อสาวกถามพระเยซูว่า ไม่แต่งงานดีกว่าแต่งงานใช่ไหม?
พระเยซูตอบว่า การยอมไม่แต่งงานเพื่อเห็นแก่แผ่นดินของพระเจ้าเป็นสิ่งที่ประเสริฐมาก แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนสามารถทำได้ คนที่สามารถทำได้ก็จงทำเถิด
2.@ การแต่งงานเป็นสิ่งที่ดี แต่การยอมเป็นโสดเพื่อเห็นแก่แผ่นดินของพระเจ้าเป็นสิ่งดียิ่งกว่า
(ไม่เกี่ยวกับเป็นโสดเพราะยังหาคู่พระพรไม่เจอนะครับ 555)
3.# พระเยซูเพิ่งสอนสาวกไปไม่นาน ใน มธ. 18:5 “และถ้าใครจะยอมรับเด็กเล็กๆ อย่างนี้สักคนหนึ่งในนามของเรา คนนั้นก็ยอมรับเราด้วย” ปรากฏว่า ในบทนี้ สาวกกลับห้ามเด็กเล็กๆมาเฝ้าพระเยซู คงเพราะคิดว่า พวกเด็กเล็กๆพวกนี้คงวุ่นวาย ส่งเสียงรบกวน แล้วก็คงฟังพระเยซูสอนไม่รู้เรื่องหรอก
3.@ การได้ยินพระคำของพระเจ้าเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การนำพระคำของพระเจ้ามาใช้จริงในชีวิตเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เราได้นำพระคำของพระเจ้าที่ได้ยิน มาใช้จริงในชีวิตประจำวันของเรา กี่เรื่องบ้าง ในวันนี้?
4.# พระเยซูบอกว่า เศรษฐีหนุ่มผู้ทำตามธรรมบัญญัติอย่างครบถ้วน เข้าสวรรค์ไม่ได้ แต่เด็กเล็กๆเหล่านั้น ผู้ไม่ได้ทำคุณงามความดีอะไรเลย กลับได้มีส่วนในแผ่นดินสวรรค์
การเข้าสวรรค์ไม่ได้อาศัย คุณสมบัติการทำคุณงามความดีใดๆ แต่อาศัยการถ่อมใจ ยอมเชื่อฟังอย่างวางใจในพระเยซู เท่านั้น
เศรษฐีหนุ่มทำดีมากมาย ขาดแต่การยอมทิ้งทุกสิ่ง หันมาเชื่อวางใจในคำสั่งของพระเยซู เขาทำไม่ได้ ในทางตรงกันข้าม ถ้าพระเยซูบอกเด็กเล็กๆสักคนหนึ่ง ให้ตามพระเยซูไป เด็กคนนั้นคงไม่คิดอะไร วิ่งแจ้นตามพระเยซูไปเป็นแน่
4.@ วันนี้ อาจมีเหตุผลมากมายหลายอย่างที่ทำให้เรายากที่จะเชื่อฟังพระเยซูอย่างวางใจได้ ขอพระเจ้าทรงช่วยเราให้ก้าวข้ามเหตุผลเหล่านั้น แล้วตัดสินใจอย่างเด็ดขาดสักครั้งที่จะเชื่อฟังพระองค์อย่างวางใจ
5.# สำหรับคนยิวแล้ว พวกเขาเข้าใจคนรวยคือคนที่พระเจ้าอวยพร ดังนั้นเมื่อพระเยซูบอกว่า คนรวยเข้าสวรรค์ยากยิ่งกว่าอูฐลอดรูเข็ม พวกสาวกจึงงงมาก เพราะขนาดคนที่พระเจ้าอวยพรยังเข้าไม่ได้แล้วใครจะเข้าได้อีกเล่า
พระเยซูจึงเฉลยว่า ใช่แล้ว สำหรับมนุษย์เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าสวรรค์ได้ แต่โดยพระเจ้า พระองค์ทำให้มนุษย์ผู้ไม่อาจจะเข้าสวรรค์ได้ ได้เข้าสวรรค์โดยทางพระเยซูคริสต์
5.@ ไม่ว่าเราเป็นใคร เราก็เข้าสวรรค์ไม่ได้
แต่โดยพระเยซูคริสต์ ไม่ว่าเราเป็นใคร หากเชื่อวางใจในพระองค์ เราก็เข้าสวรรค์ได้
6.# พระเยซูทรงสัญญากับพวกสาวกว่า ผู้ที่สละสิ่งต่างๆเพื่อเห็นแก่พระองค์ จะได้รับผลตอบแทนทั้งในโลกนี้ (มก. 10:30 คนนั้นจะได้รับผลตอบแทนร้อยเท่าในยุคนี้…) และในโลกหน้า
6.@ พระเจ้าไม่เคยเป็นหนี้อะไรใคร สิ่งใดที่เรากระทำแด่พระองค์ด้วยความรักที่มีต่อพระองค์ พระองค์ผู้ทรงสัตย์ซื่อจะเป็นผู้ตอบแทนเราตามความสัตย์ซื่อของพระองค์
7.# พระเยซูเตือนว่า “หลายคนที่เป็นคนแรก จะกลับไปเป็นคนสุดท้าย และคนสุดท้ายจะกลับไปเป็นคนแรก”
7.@ คนที่เคยรักพระเจ้า วันนี้ ความรักที่ท่านมีต่อพระเจ้า ลดน้อยถดถอยลงไปมากเพียงใด จงกลับใจก่อนที่จะสายเกินไป
คนที่วันนี้ ถอยห่างจากพระเจ้า ไม่อธิษฐานอย่างหวานชื่นกับพระองค์อีกต่อไป ไม่อ่านพระคำของพระเจ้าด้วยใจที่หิวกระหายอยากรู้จักพระองค์อีกแล้ว จงกลับใจเสียใหม่ รีบกลับมาหาพระองค์ วันนี้ยังไม่สายเกินไป
คำคม
“ สำหรับมนุษย์มีสิ่งที่เป็นไปได้ และสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับพระเจ้าทุกสิ่งเป็นไปได้ ”