ภาพรวม
- มาระโกบรรยายเรื่องข่าวประเสริฐของพระเยซู โดยเริ่มต้นจากการประกาศของยอห์นผู้ให้บัพติศมา แล้วบอกถึงพระราชกิจและการอัศจรรย์ที่พระเยซูทรงกระทำ โดยเน้นย้ำว่า ราชกิจของพระองค์ในช่วงต้น คือการประกาศเรื่องแผ่นดินของพระเจ้า โดยทำหมายสำคัญการอัศจรรย์ควบคู่กันไป
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1.# ข่าวประเสริฐเริ่มจาก พระเจ้าได้ทรงสัญญาเอาไว้ แล้วพระเจ้าก็ทำตามสัญญา พระองค์ส่งยอห์นผู้ให้บัพติศมามาเตรียมหนทาง สำหรับการเริ่มพระราชกิจของพระเยซู
1.@ ความรอดเริ่มต้นมาจากพระเจ้า และพระองค์จะทำตามสัญญาอย่างแน่นอน
เราเพียงวางใจในพระเยซู พระองค์เป็นผู้ทรงกระทำให้เรารอดพ้นบาปด้วยพระองค์เอง
2.# ยอห์นบอกกับประชาชนว่า พวกเขากลับใจจากบาป แล้วมาหายอห์น
ยอห์นจึงให้เขารับบัพติศมาด้วยน้ำ
ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการกลับใจ
แต่เมื่อพวกเขากลับใจจากบาป แล้วมาหาพระเยซู
พระเยซูจะให้พวกเขารับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์
ซึ่งแสดงว่าพวกเขาสะอาดบริสุทธิ์แล้ว พระวิญญาณบริสุทธิ์จึงสถิตในพวกเขาได้
2.@ ผู้ที่กลับใจใหม่ มาหาพระเยซูด้วยจริงใจ พระองค์จะทรงให้เขารับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์
รายละเอียดคำสอนเรื่อง การบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์
สามารถรับชมได้จากที่นี่ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=3iQ622YZjGw
3.# เมื่อพระเยซูเชื่อฟังพระบิดา มารับบัพติศมาในน้ำจากยอห์น แล้วพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็เสด็จลงมาบนพระองค์ทันที
นับตั้งแต่นั้นมา พระราชกิจทั้งสิ้นที่พระเยซูทรงกระทำ
พระองค์ทำตามการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์
และด้วยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์
เพราะเมื่อพระเยซูมาบังเกิดเป็นมนุษย์ พระองค์ยังคงเป็นพระเจ้า 100%
แต่พระองค์งดใช้ความเป็นพระเจ้าของพระองค์ รับความเป็นมนุษย์ 100%
มนุษย์นามว่า “พระเยซู” นี้ พระองค์ทรงกระทำหมายสำคัญและการอัศจรรย์ต่างๆ
โดยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ทรงสถิตกับพระองค์
3.@ ตั้งแต่วันที่เราต้อนรับเชื่อพระเยซูคริสต์ พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสถิตอยู่กับเราเสมอมา
พระองค์พร้อมแล้วที่จะทำพระราชกิจของพระองค์ผ่านชีวิตของเรา
ปัญหาของเราคือ
เรามักจะพยายามทำกิจการของเรา โดยผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์
แทนที่จะให้ พระวิญญาณบริสุทธิ์ทำพระราชกิจผ่านชีวิตของเรา
4.# พระวิญญาณก็ทรงเร่งเร้าพระเยซูให้เข้าไปในถิ่นทุรกันดาร
เพื่อประกาศชัยชนะเหนือการทดลองของมาร
แล้วหลังจากนั้นทูตสวรรค์ก็มาปรนนิบัติพระองค์
4.@ วันนี้ หากเราเชื่อฟังพระเจ้า แต่กลับกำลังพบกับปัญหา
จงอดทนไว้ วางใจในพระองค์
เหล่าทูตสวรรค์ของพระเจ้ากำลังรอปรนนิบัติเราอยู่ หลังจากเราผ่านพ้นการทดลองนี้
5.# เมื่อยอห์นผู้ให้บัพติศมาทำภารกิจสำเร็จ เขาก็ถูกจับ แล้วพระเยซูก็เริ่มพระราชกิจของพระองค์
5.@ เราแค่ทำหน้าที่ที่พระเจ้ามอบหมายให้เราทำอย่างสัตย์ซื่อก็พอ เมื่อถึงเวลาพระเยซูจะทรงกระทำให้สิ่งที่เราได้ทำไปนั้นกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่
เหมือนพระเยซูทรงกระทำสิ่งที่ยอห์นผู้ให้บัพติศมาได้ทำลงไปในเวลาไม่กี่เดือนนั้น กลายเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์คนใดเคยทำมา
คือ นำหน้าการเสด็จมาขององค์พระผู้เป็นเจ้า
วันนี้ อะไรคือสิ่งที่พระเจ้ามอบหมายให้เราทำ?
เราทำสิ่งนั้นแบบขอไปที หรือ ได้ทำอย่างสุดกำลังของเราแล้ว?
6.# พระเยซูประกาศให้คนทั้งหลายรู้ว่า เมื่อแผ่นดินของพระเจ้ามาใกล้แล้ว
สิ่งที่คนทั้งหลายควรต้องรีบทำ คือ
จงกลับใจใหม่ และเชื่อข่าวประเสริฐ
6.@ วันนี้ เราเข้าใกล้แผ่นดินของพระเจ้า มากยิ่งกว่าวันนั้นมากกว่า 2,000 ปี แล้ว
ด้วยเหตุนี้ สมควรอย่างที่สุดที่ ในวันนี้ เราควรกลับใจใหม่
และ วันนี้เราควรเชื่อข่าวประเสริฐอย่างสุดใจ
จะต้องรออีกกี่วัน เราจึงจะตัดสินใจว่า จะกลับใจจากบาปที่กำลังเกี่ยวข้องอยู่นี้อย่างจริงจังเสียที?
และ วันนี้ เชื่อมั่นอย่างไม่สงสัยแล้วหรือยังว่า เราได้รอดพ้นการพิพากษาแล้วอย่างสิ้นเชิง ด้วยการเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์?
7.# พระเยซูทรงเรียก ชาวประมงนักจับปลา เพื่อเปลี่ยนให้เขาเป็นผู้จับคนเข้าสู่แผ่นดินของพระเจ้า
วิธีเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้นักจับปลา กลายเป็น นักจับคน คือ
“จงตามเรามา”
ใช้ชีวิตตามอย่างพระเยซู ในทุกพื้นที่ของชีวิต ทั้งคำพูด ความคิด และการกระทำ
7.@ พระเยซูประสงค์ที่จะเปลี่ยนเรา ผู้จับปลาเพื่อตนเอง มาเป็นผู้จับคนเพื่อพระเจ้า
จากผู้ที่ดำเนินชีวิตเพื่อประโยชน์ของตนเอง
มาเป็น ผู้มีชีวิตอยู่เพื่อพระองค์ผู้ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราแต่เพียงผู้เดียว
การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นได้ เมื่อเราเชื่อฟังพระคำของพระองค์
นำพระคำของพระเจ้ามาใช้จริงๆในชีวิตแต่ละวันของเรา
8.# คนที่มีผีสิงเข้ามาในธรรมศาลา(โอ้ว..ธรรมศาลาก็มีคนผีสิง ซ่อนตัวอยู่ได้ 555)
แล้วร้องตะโกนว่า พระเยซูเป็นองค์บริสุทธิ์ของพระเจ้า
แทนที่พระเยซูจะเห็นชอบ แต่กลับสั่งมันให้เงียบ แล้วขับมันออกจากตัวของคนนั้น
ที่เป็นเช่นนั้นน่าจะเพราะว่า พระองค์ไม่ต้องการให้วิญญาณชั่วมีส่วนในการประกาศแผ่นดินของพระเจ้า
8.@ เราไม่สามารถรับใช้พระเจ้า ด้วยวิธีของมารได้
เมื่อเรารับใช้พระเจ้า เราจำเป็นต้องใช้วิธีของพระเจ้าเท่านั้น
วันนี้ ใครก็ตามที่รับใช้พระเจ้า ด้วยท่าทีที่ขัดกับผลของพระวิญญาณ (ใน กท.5:22-23) สมควรอย่างยิ่งที่จะหยุดการรับใช้นั้นไว้ก่อน
แล้วนั่งลง หาเวลาสงบกับพระเจ้า
ให้พระองค์ทรงสอนและทรงเปลี่ยนท่าทีในจิตใจของเรา
กท. 5:22-23
ส่วนผลของพระวิญญาณนั้น คือ ความรัก ความยินดี สันติสุข ความอดทน ความกรุณา ความดี ความซื่อสัตย์ ความสุภาพอ่อนโยน การรู้จักบังคับตน
9.# บ้านของเปโตรพบกับปัญหาคือ แม่ยายป่วย
แต่เมื่อเขาเชิญพระเยซูเข้ามาในบ้าน นอกจากแม่ยายจะหายป่วยแล้ว
บ้านของเขากลับเป็นพระพรแก่คนทั้งเมือง
9.@ วันนี้ ปัญหาของเราถูกแก้ไขได้ และกลับกลายเป็นพระพรมากมายได้
เมื่อเราเชิญพระเยซูเข้ามาครอบครองในหัวใจของเราอย่างแท้จริง
บางคนมีปัญหา อยากให้พระเยซูแก้ไข แต่ไม่ยอมจำนนต่อพระองค์อย่างสิ้นเชิง
ปัญหานั้นจึงยังไม่ถูกแก้ไขเปลี่ยนเป็นพระพรเสียที
10.# เมื่อพระเยซูต้องการอยู่แต่ลำพัง แต่พวกประชาชนแสวงหาที่จะพบกับพระองค์
สิ่งที่พระองค์ทรงทำคือ ไปหาพวกเขา สั่งสอน รักษาโรค และขับผีออกให้พวกเขา
10.@ ผู้ที่มาหาพระเยซู พระองค์จะไม่ปฏิเสธเลย
สำหรับพระองค์ ไม่มีคำว่า “ยุ่งเกินไป” เมื่อเรามาหาพระองค์ด้วยจริงใจ
มีแต่เรายุ่งเกินไป เกินกว่าที่จะมาหาพระองค์ แต่พระองค์ไม่เคยยุ่งเกินไปที่จะต้อนรับเรา
11.# พระเยซูทรงรักษาคนโรคเรื้อนให้หายแล้ว
สั่งเขาว่าอย่าไปบอกใครนอกจากปุโรหิต
แต่เขาไม่เชื่อฟัง กลับป่าวประกาศไปทั่ว จนสร้างปัญหาให้กับพระเยซู
จนพระองค์ไม่สามารถเข้าไปในเมืองอย่างเปิดเผยได้อีกต่อไป
ทั้งที่พระองค์ทราบอยู่แล้วว่า เขาจะไม่เชื่อฟัง และจะสร้างปัญหาให้กับพระองค์
แต่เพราะเขามาหาพระเยซูด้วยความเชื่อ
และปรารถนาอยากให้พระเยซูช่วยเขาและเขาเชื่อว่าพระองค์ทรงรักษาเขาให้หายได้
ดังนั้นพระองค์จึงยังคงเมตตาเขา รักษาเขาให้หาย
11.@ แม้เราจะมีจุดอ่อนมากมาย ขาดคุณสมบัติของคนดีมากมายหลายประการ หรือค่อนข้างจะชั่วด้วยซ้ำไป
แต่ถ้าเรามาหาพระองค์ด้วยใจจริงและด้วยความเชื่อ นั่นก็มากพอที่จะทำให้เราพบพระเมตตาและความช่วยเหลือจากพระองค์
คำคม
“ ผู้มาหาพระองค์ด้วยจริงใจ จะได้พบพระองค์แน่นอน ”