ภาพรวม
- ในบทนี้บรรยายถึงสิ่งที่พระเยซูทรงกระทำ ที่มีมุมมองแตกต่างจากความเข้าใจเดิมของพวกนักศาสนาของยิว ทั้งการอภัยบาป การให้โอกาสคนบาปคนชั่ว การอดอาหาร และธรรมเนียมในวันสะบาโต
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1.# คนง่อยที่ถูกหย่อนจากหลังคามาให้พระเยซูรักษา พระองค์พูดกับเขาว่า “บาปของเจ้าได้รับการอภัยแล้ว”
อะไรเป็นเหตุให้บาปของเขารับการอภัย?
ก็คือ ความเชื่อของเขา เขาเชื่อวางใจในพระเยซูว่าทรงช่วยเขาได้แน่ๆ
เขามาเพื่อให้พระเยซูรักษาความเจ็บป่วยทางร่างกายของเขา
แต่พระองค์ทำมากยิ่งกว่านั้นอีก
พระองค์ทรงเยียวยารักษาความเจ็บป่วยทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณของเขา
1.@ เมื่อเรามาหาพระเยซูด้วยความเชื่อวางใจอย่างสุดใจ
เราจะพบการช่วยกู้จากพระองค์ อย่างดีเลิศมากยิ่งกว่าที่เราคาดหมายไว้เสียอีก
วันนี้ จงนำปัญหาของเรา มาหาพระเยซู ด้วยความเชื่ออย่างสุดใจว่า
พระเยซูช่วยฉันได้แน่ๆ
คลิปคำเทศนา พระเยซู ช่วยด้วย
https://www.youtube.com/watch?v=pGFRpmpPT8c
2.# พระเยซูถามพวกธรรมาจารย์ผู้คิดว่า พระเยซูกำลังหมิ่นประมาทพระเจ้า ว่า
แบบไหนจะง่ายกว่ากัน ระหว่าง
‘การอภัยบาปต่างๆ’ กับ ‘การทำให้คนคนง่อยลุกขึ้นยกแคร่เดินไปเถิด’
สำหรับมนุษย์แล้ว ยากมาก จนทั้งสองอย่างเป็นไม่ได้
แต่สำหรับพระเยซูแล้ว ทำให้เกิดขึ้นได้ทั้งสองอย่าง
2.@ พระเยซูไม่เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาที่เรามองเห็นได้เท่านั้น
พระองค์ทรงฤทธิ์สามารถแก้ปัญหาที่เรามองไม่เห็นหรือแม้กระทั่งเรายังไม่รู้เลย ได้อีกด้วย
เมื่อเรามาหาพระเยซู ปรารถนาให้พระองค์แก้ไขปัญหาในชีวิตของเรา
จงยอมให้พระองค์แก้ไขด้วยวิธีการของพระองค์
แม้สิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะดูไม่ถูกใจเราเท่าใดนัก
แต่ผลสุดท้ายจะเป็นสิ่งดี พระพรซ้อนพระพรในชีวิตของเรา
3.# พระเยซูมีสิทธิอำนาจที่จะยกโทษอภัยบาปของเราทั้งสิ้นได้
3.@ วันนี้ ไม่ว่า เราจะผิดพลาดพลั้งบาปไปแล้ว มากสักเพียงใด
จงรีบกลับมาหาพระเยซู
มาหาพระองค์ตามความอ่อนแอของเรา
สารภาพบาปต่อพระองค์
แล้วรับการอภัยอย่างสิ้นเชิง
และรับการรักษาให้หาย
4.# พระเยซูทรงเรียก เลวี (มัทธิว) ให้ติดตามพระองค์ เขาตอบสนองทันที
ละทุกสิ่งติดตามพระองค์ไป
หลังจากนั้นชีวิตของคนเก็บภาษี คนขายชาติ ผู้เห็นแก่ตัว ผู้เห็นแก่เงิน อย่างมัทธิว
ก็กลายเป็นพระพรนำพระเยซูไปสู่คนเก็บภาษีและคนบาปอื่นๆอีกมากมาย
4.@ เพราะมัทธิวเป็นคนชั่ว เมื่อเขาต้อนรับพระเยซูเข้ามาในชีวิต
พระเยซูจึงใช้สถานะคนชั่วที่เขาเคยเป็นนั้น
เป็นสะพานทอดนำความรักและพระเมตตาของพระเจ้า
ไปสู่คนชั่วอย่างเขาอีกมากมาย
ไม่สำคัญว่า เราเคยชั่วขนาดไหน
แต่ถ้าวันนี้ เรามอบถวายชีวิตให้พระเยซูจริงๆ
ให้พระองค์เข้ามาครอบครองในชีวิตของเราจริงๆ
พระเยซูสามารถใช้ชีวิตของเราเป็นเกลือและแสงสว่าง
เป็นพระพรสำหรับผู้คนมากมายได้
5.# พระเยซูตรัสว่า พระองค์มาไม่ใช่เพื่อช่วยคนที่หลงตัวเองคิดว่าตนเองชอบธรรม ทั้งที่จริงๆแล้วเป็นคนชั่ว
แต่มาเพื่อช่วยคนชั่วที่รู้ตัวเองและยอมรับว่าตนเองชั่ว ผู้ปรารถนาความช่วยเหลือจากพระองค์
ในโลกนี้มีคนแค่ 2 ประเภท
1.คนชั่วผู้ไม่ยอมรับว่าตนเองชั่ว
2. คนชั่วผู้ยอมรับว่าตนเองชั่ว
พระเยซูมาเพื่อช่วยคนประเภทที่ 2 นี้
5.@ วันนี้ หากเราไม่ยอมรับความจริงว่า เราทำผิดบาปใด
เราจะไม่มีวันกลับใจจากการทำผิดบาปนั้น
ขอให้เราถ่อมใจลง สำรวจตัวเราเอง
ขอพระเจ้าทรงช่วยเราค้นดู ตรวจสอบดูว่า
มีทางชั่วใดๆในเราอะไรบ้าง ที่เราต้องสารภาพและกลับใจในวันนี้
เมื่อพบแล้ว จงกลับใจเสียใหม่ สารภาพบาป แล้วรับการอภัยจากพระองค์
สดด. 139:23-24
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงตรวจค้นข้าพระองค์และทรงรู้จักจิตใจของข้าพระองค์
ขอทรงทดสอบข้าพระองค์และทรงรู้จักความคิดของข้าพระองค์
และขอทอดพระเนตรว่ามีทางชั่วใดๆ ในข้าพระองค์หรือไม่
และขอทรงนำข้าพระองค์ไปในทางนิรันดร์
6.# พระเยซูทรงสอนพวกศิษย์ของยอห์นและพวกฟาริสี ว่า
“เหล้าองุ่นหมักใหม่จะต้องใส่ไว้ในถุงหนังใหม่”
พระเยซูเสด็จมาเพื่อช่วยมนุษย์ ตามพระสัญญาของพระเจ้า เป็นสิ่งใหม่
ซึ่งไม่สามารถใช้กฏเกณฑ์ รูปแบบ และธรรมเนียมเก่าซึ่งพวกเขายึดถือกันมาได้
6.@ วันนี้ เราอยู่ในพระเยซูคริสต์แล้ว เราเป็นคนใหม่แล้ว
เราเข้ามาอยู่ในร่มพระคุณของพระเจ้าแล้ว
เราไม่ได้อยู่ภายใต้กฎแห่งธรรมบัญญัติอีกต่อไป
เราจึงสมควรดำเนินชีวิตด้วยวิถีใหม่
ไม่ใช่ตามกฎเกณฑ์ของศาสนา
แต่ตามพระวิญญาณ ซึ่งสอนเราและตรัสกับเรา ผ่านทางพระคำของพระองค์
ในศาสนา เราพยายามทำสิ่งดี ไม่ทำชั่ว เพราะกฎเกณฑ์สั่งเอาไว้
ในพระเยซูคริสต์ เราทำอะไร หรือไม่ทำอะไร ก็เพราะความรักที่มีต่อพระองค์
7.# พระเยซูสอนว่า “วันสะบาโตนั้นทรงตั้งไว้เพื่อมนุษย์ ไม่ได้ทรงสร้างมนุษย์ไว้เพื่อวันสะบาโต”
กฎเกณฑ์ต่างๆที่บัญญัติไว้ในพระคำของพระเจ้า
ก็เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่มนุษย์ที่พระองค์ทรงรัก
ดังนั้นการทำตามกฎเกณฑ์เหล่านั้น
ตามปกติแล้วจะนำประโยชน์มหาศาลมาสู่มนุษย์
แต่หากบางคนตีความหมายของกฎเกณฑ์เหล่านั้นผิดไป
แล้วนำมาสร้างเป็นกติกาทำให้เกิดโทษแก่มนุษย์ที่พระเจ้าทรงรัก
การไม่ทำตามกติกาเหล่านั้น
เป็นสิ่งถูกต้องแล้ว
7.@ การตีความหมายพระคำของพระเจ้าที่ถูกต้อง
เมื่อคนนำไปทำตามจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้กระทำตาม
โดยจะทำให้เขาเข้าใกล้พระเจ้ามากขึ้น เชื่อฟังพระองค์มากยิ่งขึ้น
แต่หากเมื่อเราทำตามการตีความใดๆแล้ว
ผลออกมาตรงกันข้ามกับข้างต้น
สันนิษฐานไว้ก่อนได้เลยว่า น่าจะเป็นการตีความที่ผิดพลาดไป
คำคม
“ ฉันมีสิทธิทำได้ แต่ฉันไม่ทำ เพราะฉันรักพระเยซู ”