ภาพรวม
- บทนี้พูดถึงเหตุการณ์ต่างๆที่มีคนยอมรับและปฏิเสธ อยากพบและไม่อยากพบ พระเยซูด้วยเหตุผลต่างๆ สิ่งที่สำคัญมากที่เน้นในบทนี้คือ ความเชื่อในพระเยซู
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1.# ชาวนาซาเร็ธไม่เชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า
ดังนั้นพวกเขาไม่เพียงไม่เชื่อในคำสอนของพระเยซู
แต่พวกเขายังโกรธพระองค์อีกด้วย
1.@ สำหรับคนที่ไม่เชื่อ คำสอนอันล้ำค่าของพระเยซู ก็กลับกลายเป็นขยะไร้ค่าสำหรับเขา
วันนี้ หากเราอ่านหรือฟังพระคำ ด้วยความไม่เชื่อ พระคำนั้นจะไร้ค่าสำหรับเรา
2.# พระเยซูทรงทำการอัศจรรย์ที่นาซาเร็ธเพียงเล็กน้อย เพราะพวกเขาไม่เชื่อ
2.@ การอัศจรรย์ที่จะเกิดขึ้นในชีวิตของเรา ขึ้นกับขนาดความเชื่อวางใจที่เรามีต่อพระเยซู
วันนี้เรากล้าเชื่อวางใจในพระเยซูอย่างสุดหัวใจในเหตุการณ์ที่เรากำลังเผชิญหรือไม่?
3.# พระเยซูส่งสาวก 12 คนออกไปประกาศเป็นคู่ๆ ประทานสิทธิอำนาจให้แก่พวกเขา และให้พวกเขาไม่ต้องเตรียมสัมภาระหรือเสบียงไปด้วยเพื่อให้เขาเรียนรู้ที่จะไว้วางใจในพระเจ้า
3.@ วันนี้ พระเจ้าทรงใช้เรานำคนมาหาพระเจ้า พระองค์ประทานสิทธิอำนาจแก่เราแล้ว
เราสามารถใช้สิทธิอำนาจนั้นอย่างเต็มที่ด้วยความเชื่อ
ขณะเดียวกันพระองค์ก็ทรงอนุญาตให้เราเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องใช้ความเชื่อวางใจในพระองค์มากยิ่งขึ้น
เพื่อพัฒนาความเชื่อวางใจของเราที่มีต่อพระองค์ด้วย
4.# ตลอดชีวิตของยอห์น ผู้ให้บัพติศมา เขาอยู่เพื่อทำให้แผนการของพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์สำเร็จ แม้แต่การตายของเขา ก็ยังทำให้แผนการของพระเจ้าสำเร็จ
เพราะเฮโรดสั่งตัดศีรษะของยอห์น ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมากเพราะเขาเกรงกลัวยอห์น เนื่องจากทรงทราบว่าท่านเป็นคนชอบธรรม และบริสุทธิ์ (มก. 6:20)
ดังนั้นเมื่อมีคนบอกว่าพระเยซูอาจจะเป็นยอห์นเป็นขึ้นมาจากความตาย เขาจึงอยากพบพระเยซูมาก
แต่ก็ไม่มีโอกาสได้พบจนกระทั่งหลังจากที่พระเยซูถูกจับ และถูกปีลาตส่งมาพบเขา(ลก. 23:6-12)
และดูเหมือนเมื่อเขาไม่ได้คำตอบอะไรจากพระเยซู ก็ไม่อยากกักตัวพระองค์ไว้ แต่รีบส่งกลับไปหาปีลาต
เป็นไปได้ว่า คงเกรงว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ไม่อยากยุ่งกับเรื่องนี้แล้ว รีบส่งกลับไปดีกว่า
หากเฮโรดไม่รีบส่งกลับ แต่กักตัวพระเยซูไว้อีกสักวัน สองวัน จะผิดแผนการทั้งหมดเลยทีเดียว
4.@ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา พระเจ้าทรงสามารถใช้ให้ชีวิตของเราเป็นพระพรได้เสมอ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะดูเหมือนไม่ดีสักเพียงใดก็ตาม
ขอเพียงแต่เราตั้งใจที่จะใช้ชีวิตเพื่อพระองค์ เราก็จะพบวิธีของพระองค์
5.# พระเยซูทรงรักษาคนป่วยมากมายจนไม่มีเวลาทานข้าว จึงพาสาวกปลีกตัวออกมาหาที่สงบพักสักหน่อย
ปรากฏว่าประชาชนก็ตามมาอีก พระองค์ไม่ไล่พวกเขาไป
แต่กลับสั่งสอนและรักษาโรคของพวกเขา
แล้วยังทำการอัศจรรย์เลี้ยงเขาจนอิ่มอีกด้วย
5.@ ผู้ที่มาหาพระเยซูพระองค์จะไม่ปฏิเสธเลย และพระองค์จะปฏิบัติต่อเขาอย่างดีที่สุด
เชิญมาหาพระองค์เถิด พระองค์จะไม่ปฏิเสธเราแน่นอนไม่ว่าเราจะแย่หรืออ่อนแอสักเพียงใดก็ตาม
6.# ขณะที่สาวกกำลังประสบปัญหาพายุกลางทะเล พระเยซูก็เสด็จมาหาพวกเขา พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “ทำใจดีๆ เถิด นี่เราเอง อย่ากลัวเลย”
เมื่อพวกเขารู้ว่าเป็นพระเยซูและต้อนรับพระองค์ขึ้นเรือ
ปัญหาของพวกเขาทั้งหมดก็หมดไป
6.@ วันนี้ หากเรากำลังประสบปัญหาในชีวิต พระเยซูทรงอยู่เคียงข้างเรา
เพียงแค่เราจะตระหนักความจริงนี้ว่าพระเยซูทรงอยู่ใกล้เรา
และเชิญพระองค์ให้เป็นผู้จัดการกับปัญหาของเรานี้
ปัญหาทั้งหมดจะถูกคลี่คลายแล้วกลายเป็นพระพร
7.# ที่นาซาเร็ธ แทบไม่มีการอัศจรรย์อะไรเลย ที่พระเยซูทรงกระทำ
ที่เยนเนซาเร็ธ ซึ่งห่างจากนาซาเร็ธแค่ 30 ก.ม. พบการอัศจรรย์มากมาย
ความแตกต่างอย่างชัดเจน คือ
ที่เยนเนซาเร็ธ ผู้คนที่มาหาพระเยซูเชื่อว่าพระเยซูทรงรักษาเขาให้หายได้ หลายคนเชื่อว่าแค่แตะชายเสื้อของพระองค์ก็จะหายโรคได้ แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง
แต่ที่นาซาเร็ธพวกเขาไม่เชื่อ
7.@ วันนี้เราเชื่อจริงๆไหมว่า พระเยซูช่วยเราได้?
คำคม
“ สำหรับบางคนการได้พบพระเยซูอาจจะไม่ใช่จุดเปลี่ยนของชีวิตของเขา
แต่สำหรับผู้ที่เชื่อทุกคน การได้พบพระเยซูนั่นคือ
จุดเปลี่ยนของชีวิตของเขาไปอย่างสิ้นเชิง ”