ภาพรวม
- บทนี้พูดถึงการที่พระวิญญาณทรงนำพระเยซูเข้าไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อประกาศชัยชนะเหนือการทดลองของมาร แล้วพระองค์ก็เริ่มพระราชกิจของพระองค์ในการประกาศข่าวประเสริฐและรักษาโรคด้วยสิทธิอำนาจ
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1.# เมื่อมารมาทดลองพระเยซูในถิ่นทุรกันดาร ขณะที่พระเยซูทรงหิว มารบอกว่า ให้พระเยซูสั่งก้อนหินให้เป็นขนมปังสิ จะได้หายหิว
แต่พระเยซูตอบมารว่า ต้องรอคำสั่งจากพระบิดาก่อนเท่านั้น จะไม่ทำตามใจปรารถนาของพระองค์เอง
1.@ พระเยซูวางแบบอย่างแก่เราไว้ ในการทำทุกสิ่งเพื่อวัตถุประสงค์เดียวคือ ทำตามพระทัยพระบิดา
วันนี้ เราเลือกเดินในทางใด ทำตามใจตนเอง หรือ ทำตามพระทัยพระบิดา?
2.# มารเสนอเส้นทางลัดในการได้ครอบครองโลกนี้ ให้แก่พระเยซู เพียงแค่ทรยศพระบิดาเท่านั้นก็จะได้ทุกสิ่ง
แต่พระเยซูตอบว่า จะไม่มีวันทรยศพระบิดา
2.@ วันนี้ มารอาจกำลังทดลองเรา ด้วยการเสนอทางลัดของความสำเร็จสมปรารถนา โดยไม่ต้องรอคอย หรือเหนื่อยยาก
เราจะเลือกเส้นทางใด สัตย์ซื่อเชื่อฟังทำตามพระเจ้า หรือ รับข้อเสนอของมาร?
3.# มารท้าให้พระเยซูพิสูจน์ตนเองให้ทุกคนประจักษ์ ว่าเป็นบุตรของพระเจ้าด้วยการกระโดดลงจากหลังคาพระวิหาร
แต่พระเยซู ทรงเลือกที่จะสำแดงพระองค์เองให้คนทั้งปวงประจักษ์ด้วยวิธีที่พระบิดาทรงกำหนดเท่านั้น ไม่ใช่ด้วยวิธีอื่น
3.@ วันนี้ อาจมีวิธีมากมายที่จะทำให้เราได้รับในสิ่งที่ปรารถนา และหลายวิธีก็ดูเหมือนไม่น่าจะผิดอะไร
แต่พระเยซูวางแบบอย่างแก่เราไว้ว่า พระองค์จะไม่ใช้วืธีอื่น นอกจากวิธีของพระบิดาเท่านั้น
ในการตัดสินใจทำหรือไม่ทำอะไร เราควรใช้พระคำของพระเจ้าเท่านั้นเป็นตัวชี้ขาดว่าเราจะทำหรือไม่ทำ
4.# เมื่อพระเยซูเริ่มทำพระราชกิจ ด้วยการสั่งสอนและรักษาโรค พระองค์ได้รับการยอมรับจากผู้คนมากมาย และตอนแรกในเมืองนาซาเร็ธเมืองที่พระองค์เติบโตขึ้นมา ก็ดูเหมือนพวกเขาจะชื่นชมพระองค์ จนกระทั่งพระองค์เริ่มชี้ให้เห็นถึงใจที่แข็งกระด้างของพวกเขา
ในทันใดนั้นพวกเขาก็โกรธแค้นพระองค์ จนถึงกับคิดจะฆ่าพระองค์เสีย
4.@ เหตุที่พวกเขาโกรธมาก เพราะใจที่เต็มไปด้วยทิฐิของพวกเขา รับไม่ได้ที่ชายหนุ่มคนนี้ ที่พวกเขาเห็นมาตั้งแต่เด็ก วันนี้ มาพูดแทงใจดำพวกเขา ซึ่งเป็นความจริงที่พวกเขาเถียงไม่ได้ จึงต้องใช้ศาลเตี้ยตอบโต้พระเยซูด้วยการฆ่าพระองค์เสีย
วันนี้ กำแพงใหญ่ที่ขวางกั้นคนมากมายไม่ให้พบความจริงในพระคำของพระเจ้า ก็คือ ทิฐิ การถือดี
พวกนาซาเร็ธถือว่าเห็นพระเยซูโตมาตั้งแต่เป็นเด็ก หนอยแน่ บังอาจมาตำหนิพวกเขาเชียวหรือ
หากเรามีทิฐิ ก็จะปิดตาฝ่ายวิญญาณของเราไม่เห็นความจริงแห่งพระคำของพระเจ้าได้
เช่น เรื่องนี้รู้แล้วอ่านมาตั้งหลายครั้งแล้ว หรือ ไม่รู้เหรอฉันเป็นใคร เด็กเมื่อวานซืนแบบนี้คิดจะมาสอนฉัน หรือ อะไรอื่นๆทำนองนี้
5.# พระเยซูเสด็จมาเพื่อประกาศปีแห่งความโปรดปรานของพระเจ้า ที่มีต่อมนุษย์ทั้งปวง
วาระที่พระเจ้าสำแดงความโปรดปรานแก่มนุษย์ ผ่านทางพระเยซูมาถึงแล้ว
5.@ วันนี้ เราสามารถเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าได้แล้ว โดยทางการเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์
ไม่ขึ้นอยู่กับการกระทำของเราเอง แต่เป็นพระคุณของพระเจ้าที่ประทานแก่เราทางพระเยซูคริสต์
“บัดนี้ ฉันเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าแห่งฟ้าสรรค์แล้ว”
สรรเสริญพระเจ้า
6.# พระเยซูทรงสั่งสอนและรักษาโรค ด้วยสิทธิอำนาจ แต่ไม่ใช่สิทธิอำนาจของพระองค์เอง เพราะช่วงเวลาที่พระองค์เสด็จมาบังเกิดบนโลกนี้ เพื่อเป็นตัวแทนของมนุษย์นั้น พระองค์ทรงงดใช้สิทธิความเป็นพระเจ้าของพระองค์
สิทธิอำนาจที่พระเยซูใช้ คือสิทธิอำนาจของพระบิดาเพราะพระองค์ทรงเชื่อฟังทำตามพระทัยพระบิดา พระองค์กำลังทำพระราชกิจของพระบิดา จึงมีสิทธิอำนาจของพระบิดา
6.@ เมื่อพระเยซูเป็นขึ้นมาจากความตาย ใน มธ.28:18 พระบิดามอบสิทธิอำนาจทั้งสิ้นในสวรรค์และบนแผ่นดินโลก แด่พระเยซูผู้เป็นตัวแทนของมนุษย์
เพื่อพระองค์จะให้สิทธิอำนาจอย่างเดียวกันนั้น แก่ผู้ที่ทำพระราชกิจของพระองค์บนโลกนี้
วันนี้ พระเยซูทรงมอบหมายให้เราออกไปประกาศข่าวประเสริฐนำความรอดไปถึงคนทั่วโลก ดังนั้นหากเราเชื่อฟังพระองค์และทำตามพระราชกิจพระองค์มอบหมาย
เราจึงสามารถใช้สิทธิอำนาจอย่างเดียวกันที่พระองค์ทรงกระทำขณะอยู่บนโลกนี้ได้
คำคม
“ พระเยซูชนะการทดลองของมารด้วยพระคำ แล้วเราคิดจะชนะด้วยอะไร? ”