ภาพรวม
- บทนี้ชี้ให้เห็นว่าทุกคนที่มาหาพระเยซูด้วยความปรารถนาอยากจะเข้าใจ ได้พบความเข้าใจ มาหาพระเยซูด้วยความปรารถนาการช่วยกู้จะได้รับการช่วยกู้
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1.# ในสมัยของพระเยซู ผู้หญิงมีความสำคัญน้อยกว่าผู้ชายมาก แต่โดยคนไม่สำคัญเหล่านั้นเป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญสำหรับพระราชกิจของพระเยซู
1.@ สิ่งที่สำคัญกว่า “เราเป็นใคร” ก็คือ “เรากำลังทำเพื่อใคร”
ผู้เล็กน้อยที่กำลังทำเพื่อพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด ก็เป็นผู้เล็กน้อยที่ยิ่งใหญ่
2.# พระเยซูทรงใช้คำอุปมาในการสอน ไม่ใช่เพื่อให้คนฟังเข้าใจง่ายขึ้น แต่เพื่อให้คนฟังไม่เข้าใจ
“…ทรงให้เป็นอุปมาสำหรับคนอื่น เพื่อว่า เมื่อพวกเขาดู ก็จะไม่เห็น และเมื่อพวกเขาฟัง ก็จะไม่เข้าใจ”
คำอุปมาถูกใช้เพื่อ แยกผู้ฟังออกเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มที่ไม่สนใจฟังเท่าไหร่ก็จะไม่เข้าใจ
กลุ่มที่สนใจ(มีหู) ฟังแล้วก็จะไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่พวกเขาจะมาถามพระเยซู เหมือนพวกสาวก แล้วพระเยซูจึงทรงอธิบายความล้ำลึกแห่งสวรรค์ให้พวกเขาฟัง
2.@ วันนี้เราไม่สามารถเข้าใจความล้ำลึกแห่งพระคำของพระเจ้าได้โดยปราศจากการช่วยเหลือของพระวิญญาณบริสุทธิ์
ทุกครั้งที่เราอ่านหรือฟังพระคำของพระเจ้า จำเป็นเหลือเกินที่เราจะรับฟังการสอนจากพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่พระบิดาประสงค์จะบอกแก่เรา
3.# คำอุปมาเรื่องผู้หว่านพืชนั้น ชี้ให้เห็นว่าคนที่จะเกิดผลในแผ่นดินของพระเจ้านั้น การได้ยินพระคำเป็นสิ่งจำเป็น แต่การได้ยินนั้นจะไร้ค่า หากไม่ได้เชื่อแล้วลงมือกระทำตามด้วยความสัตย์ซื่อ
3.@ วันนี้ เราเป็นเพียงผู้ได้ยินพระคำของพระเจ้า หรือเป็นผู้ได้ยินแล้วยึดมั่นที่จะกระทำตามพระคำของพระองค์?
ผู้ทำตามพระคำของพระเจ้า จะใช้พระคำของพระเจ้า ในการตัดสินใจทำหรือไม่ทำอะไรๆก็ตามในชีวิตของเขา
4.# พระเยซูทรงสอนให้เรา เอาใจจดจ่อต่อสิ่งที่เราได้ยินได้ฟังจากพระคำของพระเจ้า
เพราะยิ่งจดจ่อพระเจ้าจะทรงเพิ่มเติมความเข้าใจให้อีก
แต่หากไม่สนใจก็จะไม่เข้าใจ และที่คิดว่าเข้าใจกลับยิ่งกลายเป็นไม่เข้าใจ
4.@ วันนี้ เรารับฟังพระวจนะของพระเจ้าด้วยท่าทีอย่างไร?
หากเอาใจใส่และจดจ่อ พระคำของพระเจ้า พระองค์จะทรงเพิ่มเติมความเข้าใจให้เราอีก
แต่หากฟังแบบขอไปที ความเข้าใจที่มีก็จะถูกนำออกไป
5.# พระเยซูทรงสอนว่า คนที่จะเป็นคนในครอบครัวของพระเจ้านั้น ต้องเป็นผู้ที่รับฟังพระวจนะและกระทำตาม เท่านั้น
5.@ วันนี้ เราทำตัวสมกับคนในครอบครัวของพระเจ้าแล้วหรือยัง?
เราเต็มใจจะเชื่อฟังพระคำ เมื่อพระคำสั่งให้ทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับความปรารถนาของเราหรือไม่?
6.# เมื่อพวกสาวกเจอกับพายุในทะเล พระเยซูบอกพวกเขาว่า สิ่งที่พวกเขาทำหายไป จนทำให้ไม่สามารถยืนหยัดต่อพายุนั้นได้ ก็คือ ความเชื่อ
พระเยซูถามว่า “ความเชื่อของท่านทั้งหลายอยู่ที่ไหน?”
6.@ ท่ามกลางสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญวันนี้ สิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ ที่เราต้องมีเพื่อจะผ่านเหตุการณ์นี้ไปอย่างสง่างาม ก็คือ ความเชื่อ
จงกล้าเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ท่ามกลางเหตุการณ์นี้เถิด
7.# ชาวเมืองเก-ราซาและทุกคนที่อยู่ตามชนบทโดยรอบเมื่อเห็นสิ่งยิ่งใหญ่ที่พระเยซูทรงกระทำ พวกเขากลัวมาก
แล้วแทนที่พวกเขาจะยิ่งยำเกรงพระองค์ ขอพระองค์ทรงโปรดช่วยพวกเขาด้วย
แต่พวกเขากลับขอให้พระเยซูไปเสียจากพวกเขา
7.@ เมื่อเราเห็นสิ่งที่พระเยซูทรงกระทำในชีวิตของเรา ในอดีตที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้แล้ว เราจะตอบสนองอย่างไร?
แบบชาวเมืองเก-ราซา ยิ่งถอยห่างจากพระองค์
หรือ แบบชายที่เคยถูกผีสิงที่ยิ่งอยากใกล้พระองค์ อยากรับใช้พระองค์
8.# ชาวเมืองเก-ราซา ไม่ต้อนรับพระเยซู พวกเขาจึงไม่ได้เห็นการอัศจรรย์ในชีวิตของพวกเขา
แต่ไยรัส และ หญิงโลหิตตก พวกเขาแสวงหาที่จะพบและรับการช่วยเหลือจากพระเยซู พวกเขามาหาพระเยซูด้วยความเชื่อ และพวกเขาก็ไม่ผิดหวัง
8.@ ทุกคนที่มาหาพระเยซูด้วยความเชื่อ เขาจะได้รับการช่วยกู้อย่างแน่นอน
คำคม
“ผู้ยึดมั่นในความเชื่อ จะพบการอัศจรรย์ ”