ขุมทรัพย์ ลูกา 18

ภาพรวม

  • ในบทนี้ทั้งบทผูกกันอย่างสวยงามดังนั้น
  • พระเจ้าจะประทานความยุติธรรมให้แก่ผู้ที่ขอแน่นอน
  • แต่เมื่อความยุติธรรมเกิดขึ้น เราจะได้พรหรือการลงโทษกันแน่
  • ฟาริสี เข้าใจผิดคิดว่าเขาชอบธรรม แต่คนเก็บภาษีรู้ตัวว่าเขาอธรรม จึงขอความเมตตาแทนความยุติธรรม
  • คนที่จะรับพระเมตตา คือ คนที่เชื่อเหมือนเด็กเล็กๆ
  • ขุนนางที่ร่ำรวยไม่ได้เชื่อเหมือนเด็กๆ จึงไม่อาจเข้าสวรรค์ได้
  • พวกสาวกเชื่อวางใจในพระเยซูเหมือนเด็กเล็กๆ สละทุกสิ่งตาม พระเยซูมา พวกเขาจึงเข้าสวรรค์ได้
  • แต่การที่พวกเขาจะได้สิทธิเข้าสวรรค์นี้ ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ เกิดจากการที่พระเยซูต้องสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนและเป็นขึ้นมาจากความตายในวันที่สาม
  • ดังนั้น ใครก็ตามที่เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด ร้องทูลขอพระเมตตาจากพระองค์(เหมือนชายตาบอดนั้น) และติดตามพระองค์ไป จะเข้าในแผ่นดินสวรรค์ได้

# แนวคิด

@ การประยุกต์ใช้

1.#  พระเยซูยกตัวอย่างคำอุปมาเรื่องหญิง​ม่ายและ​ผู้​พิพาก​ษา​อธรรม เพื่อสอนว่า ​ควร​อธิษ​ฐาน​อยู่​เสมอ​และ​ไม่​อ่อน​ระอา​ใจ

1.@  ใน มธ. 6:7 “แต่​เมื่อ​พวก​ท่าน​อธิษ​ฐาน อย่า​พูด​พล่อยๆ ซ้ำ​ซาก เหมือน​บรร​ดา​คน​ต่าง​ชาติ​เพราะ​เขา​คิด​ว่า​พูด​มาก​หลาย​คำ พระ​จึง​จะโปรด​ฟัง”

ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ควรอธิษฐานบ่อยๆ
พูดพล่อยๆซ้ำซาก เหมือนคนต่างชาติ หมายถึง อธิษฐานแบบสวดมนต์ซ้ำไปซ้ำมา แต่ก็ไม่เข้าใจความหมายที่สวดนั้น หรือต่อให้เข้าใจก็ไม่ได้คิดหรือรู้สึกตามที่พูด จึงเรียกว่าพูดพล่อยๆ

ในลก.บทที่ 18 นี้ ชี้อย่างชัดเจนว่า เราควรอธิษฐานบ่อยๆไม่ลดละ

2.# คำอุปมาเรื่องหญิง​ม่ายและ​ผู้​พิพาก​ษา​อธรรมนั้น พระเยซูชี้ให้เห็นว่า ขนาดผู้พิพากษาอธรรม ยังทนไม่ได้เลย หากถูกขอร้องอย่างไม่ลดละ
ดังนั้นพระบิดาผู้ที่รักเราอย่างที่สุด มีหรือจะรอช้าที่จะตอบคำอธิษฐานของเรา

2.@ ให้เราอธิษฐานอย่างไม่ลดละ เพราะพระเจ้าจะประทานความยุติธรรมแก่เราอย่างแน่นอน
นั่นคือ ถ้าสิ่งที่เราทูลขอนั้นเราสมควรจะได้รับหรือมีสิทธิที่จะได้รับ พระองค์จะประทานให้แก่เราอย่างแน่นอน

3.# พระเจ้าจะประทานความยุติธรรมแก่ผู้ที่ร้องทูลขอต่อพระองค์อย่างแน่นอน
ปัญหาสำคัญไม่ใช่อยู่ตรงที่ พระเจ้าจะไม่ประทานความยุติธรรมให้ แต่อยู่ตรงที่หากตัดสินอย่างยุติธรรม เราจะพ้นโทษได้หรือ?
หากปราศจากพระคุณของพระเจ้าซึ่งได้รับโดยทางความเชื่อในพระเยซูคริสต์ เราคงไม่สมควรที่จะได้รับพระพรอย่างแน่นอน
พระเยซูจึงสอนว่า สิ่งที่ขาดหายไปไม่ใช่ความสัตย์ซื่อของพระเจ้า แต่เป็นความเชื่อของมนุษย์

3.@ วันนี้ เมื่อเราอธิษฐานทูลขอสิ่งใด ถ้าคิดดีๆอย่างเป็นธรรมแล้ว เราจะพบว่าเราไม่คู่ควรที่จะได้รับสิ่งนั้นจากพระเจ้า
แต่หากเราเชื่อวางใจในพระเยซู เชื่อว่าโดยทางพระเยซูเราได้รับความชอบธรรมและได้สิทธิเป็นลูกของพระเจ้าแล้ว
โดยความเชื่อเช่นนั้น จะทำให้เราสามารถได้รับคำตอบจากพระบิดาได้

4.# พระเยซูทรงกล่าวคำอุปมาเรื่อง ฟาริสีและคนเก็บภาษี เพื่อสอนว่า การเข้าหาพระเจ้านั้นควรเข้ามาด้วยท่าทีที่สำนึกผิดและถ่อมใจ
เพราะ​คน​ที่​ยก​ตัว​ขึ้น​ จะ​ถูก​เหยียด​ลง ​คน​ที่​ถ่อม​ตัว​ลง​จะ​ได้​รับ​การ​ยก​ขึ้น

4.@ ในการมาหาพระเจ้านั้น ไม่ใช่สาระสำคัญว่าเราทำดีมามากแค่ไหน หรือ เราทำผิดมากเพียงใด เพราะสิ่งสำคัญที่แท้จริงคือ ท่าทีในใจของเรา ที่ถ่อมตัวลง ยอมรับผิดในสิ่งที่ตนได้ทำไป แล้วร้องขอการอภัยจากพระองค์

ไม่ว่าเราทำดีแค่ไหน เราก็ยังเป็นคนบาปที่ต้องรับการอภัย
ไม่ว่าเราทำชั่วมากเพียงใด เราก็ยังเป็นคนบาปที่สามารถได้รับการอภัย

5.# พระเยซูทรงสอนว่า ใคร​ที่​ไม่​ยอม​รับ​แผ่น​ดิน​ของ​พระ​เจ้า​เหมือน​เด็ก​เล็กๆ จะ​เข้า​ใน​แผ่น​ดิน​นั้น​ไม่​ได้
คนที่จะเข้าสวรรค์ได้ ต้องเชื่อเหมือนเด็กเล็กๆ คือเชื่อพระคำของพระเจ้าอย่างจริงใจ เชื่ออย่างไม่สงสัย

5.@ เมื่อพ่อบอกเด็กเล็กๆ เด็กนั้นไม่เคยสงสัยที่พ่อบอกเลย
วันนี้ เราเชื่อสิ่งที่พระคำของพระเจ้าบอกแก่เรา อย่างไม่สงสัยหรือยัง?

เช่น อสย. 41:10 อย่า​กลัว​เลย เพราะ​เรา​อยู่​กับ​เจ้า อย่า​ขยาด เพราะ​เรา​เป็น​พระ​เจ้า​ของ​เจ้า เรา​จะ​เสริม​กำลัง​เจ้า เรา​จะ​ช่วย​เจ้า เรา​จะ​ชู​เจ้า​ด้วย​มือ​ขวา​อัน​ชอบ​ธรรม​ของ​เรา

เราเชื่อจริงๆหรือยัง?

6.# พระเยซูทรงสอนว่า คนที่รักทรัพย์สินเงินทองก็ยากเหลือเกินที่จะเข้าสวรรค์ได้ แต่ถึงกระนั้นพระเจ้าก็ทรงสามารถทำให้เกิดขึ้นได้

6.@ ในความอ่อนแอของมนุษย์ ทำให้มนุษย์ไม่สามารถทำตามมาตรฐานของพระเจ้าได้
แต่โดยพระคุณของพระเจ้า พระเจ้าทรงให้มนุษย์ผ่านมาตรฐานของพระเจ้าได้ ด้วยความเชื่อในพระเยซูคริสต์และการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์

ไม่ว่าเราจะอ่อนแอเพียงใด หากเราเข้ามาพึ่งพระคุณของพระเจ้า เราจะพบพระเมตตาอย่างแน่นอน

7.# พระเยซูทรงสอนว่า ใครก็ตามที่สละสิ่งใดๆเพื่อพระเจ้าก็ตาม พระเจ้าจะไม่ลืมเขา พระองค์จะเป็นผู้ตอบแทนแก่เขาเอง ทั้งในยุคนี้และยุคหน้า

7.@ พระเยซูทรงสละทุกสิ่ง แม้แต่ชีวิตของพระองค์เองเพื่อเรา
วันนี้ เราเต็มใจที่จะสละอะไรเพื่อพระองค์บ้าง?

8.# พระเยซูทรงพยากรณ์เป็นครั้งที่สาม ถึงการสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ แต่พวกสาวกก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี เพราะว่าพระเจ้าทรงปิดซ่อนความล้ำลึกนั้นไว้ จนกว่าจะถึงเวลาสมควรที่เขาจะเข้าใจ

8.@ วันนี้ อาจมีบางอย่างที่เรายังไม่เข้าใจ ให้เรารู้เถิดว่าพระเจ้าทรงมีเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะเปิดเผยให้เราเข้าใจ
จงรอคอย การเปิดเผยจากพระองค์อย่างวางใจ

9.# ชายตาบอดที่เมืองเยรีโค เชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นพระมาซีฮา(คนยิว เรียกว่า บุตรดาวิด) และเชื่อว่าพระเยซูทรงทำให้ตาของเขาหายบอดได้
ด้วยความเชื่อนี้ พระองค์ทรงรักษาเขาให้หาย

9.@ วันนี้ เราเชื่อจริงๆไหมว่า พระเยซูทรงเป็นพระเจ้าใหญ่ยิ่งสูงสุด ผู้ทรงสามารถกระทำทุกสิ่งได้? และเชื่อไหมว่า พระเยซูทรงช่วยเราผ่านพ้นปัญหาที่เผชิญอยู่นี้ได้?
หากเชื่อ จงร้องทูลต่อพระองค์ด้วยความเชื่อนั้นเถิด

คำคม

“สิ่ง​ที่​มนุษย์​ทำไม่ได้ พระ​เจ้า​ทรง​ทำ​ได้ “