ภาพรวม
- ในบทนี้กล่าวถึงการอัศจรรย์ที่เปโตรทำที่ประตูงาม จนเป็นเหตุให้เขาได้โอกาสเทศนาให้คนทั้งหลายได้ฟังข่าวประเสริฐเรื่องของพระเยซูคริสต์
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1# ชายขอทานง่อยที่ประตูงามได้ขอความเมตตาจากเปโตรและยอห์นที่กำลังเดินผ่านไป เปโตรจึงบอกความจริงแก่ชายคนนั้นว่า เขาไม่มีเงิน แต่เขามีสิ่งที่ดีกว่าเงินที่จะให้ คือ พวกเขามีฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าอยู่กับพวกเขา และโดยฤทธิ์อำนาจนั้นเปโตรจึงทำให้ชายคนนั้นลุกขึ้นเดินได้
ฤทธิ์อำนาจนั้นไม่ใช่เปโตรสร้างขึ้นมาเอง แต่เป็นฤทธิ์อำนาจเขาได้รับจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้สถิตในเขา และเขาใช้ฤทธิ์อำนาจนั้นในพระนามพระเยซู ด้วยความเชื่อ
1.@ เปโตรผู้อ่อนแอและขลาดกลัว ได้รับฤทธิ์เดชและความกล้าหาญ เมื่อเขามีแล้วเขาได้ใช้เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า
วันนี้ พระเจ้าประทานสิ่งต่างๆให้เรามากมาย เราใช้สิ่งนั้นเพื่ออะไร? เพื่อเราเอง หรือเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า
2.# เมื่อคนทั้งหลายเห็นเปโตรทำอัศจรรย์ทำให้คนง่อยแต่กำเนิดเดินได้ พวกเขาพากันมารุมล้อม จับจ้องที่เปโตร ราวกับเปโตรเป็นผู้วิเศษ
แต่เปโตรกลับกล่าวว่า “ทำไมท่านทั้งหลายจ้องดูเราราวกับว่าเราทำให้คนนี้เดินได้โดยฤทธิ์เดชหรือความชอบธรรมของเราเอง?”
เปโตรอธิบายให้คนทั้งหลายรู้ว่าการอัศจรรย์นี้ ไม่เกี่ยวกับความเก่งกาจของตัวเขา แต่เกิดขึ้นโดยพระเยซูคริสต์
ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ เปโตรปฏิเสธว่าเขาไม่รู้จักพระเยซู เพราะเขารักตัวเขาเองมากกว่าพระเยซู
วันนี้ เปโตรปฏิเสธว่าเขาไม่ได้ทำการอัศจรรย์นี้ เพราะเขารักพระเยซูมากกว่าตัวเขาเอง
2.@ ผู้รับใช้พระเจ้าที่สัตย์ซื่อ เมื่อโอกาสที่จะได้รับเกียรติจากมนุษย์มาถึง เขาจะถวายเกียรตินั้นแก่พระเจ้า แล้วพระเจ้าเองจะเป็นผู้ประทานเกียรติให้แก่เขา
3.# เปโตรเทศนาว่า “จงกลับใจและหันมาหาพระเจ้า” แล้วสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น คือความผิดบาปของเขาจะได้รับการลบล้าง , วาระแห่งการฟื้นชื่นจะได้มาถึงเขา และเขาจะได้รับพระเยซูคริสต์เขามาในชีวิตของเขา
3.@ เมื่อเรากลับใจและหันมาหาพระเจ้า สิ่งที่เกิดขึ้นคือ บาปของเรารับการอภัย ความฟื้นชื่นทั้งร่างกาย จิตใจ จิตวิญญาณ จะเกิดขึ้น และพระเยซูคริสต์จะเสด็จเข้ามาเป็นพระเจ้าในชีวิตของเรา
หากวันนี้ บาปที่เราฟ้องผิดในใจของเรา หรือ ความชื่นบานจางหายไปจากชีวิต หรือ พระเยซูไม่ใช่เจ้านายของเราแต่เราเป็นเจ้านายของตัวเอง
ถ้าเราเป็นเช่นนั้น จงรีบด่วนที่สุด กลับใจและหันมาหาพระเจ้า
4.# เปโตรเทศนาว่า ถ้าใครไม่เชื่อฟังพระเยซู เขาจะต้องถูกตัดขาดให้พินาศไปจากชนชาติของพระเจ้า
นั่นคือ ถ้าใครเชื่อวางใจในพระเยซู จะถูกนับเข้าเป็นชนขาติของพระเจ้า
ดังนั้นการเป็นชนชาติของพระเจ้าตั้งแต่พระเยซูเป็นขึ้นมาจากความตาย ไม่ได้นับด้วยเชื้อชาติแต่นับด้วยความเชื่อวางใจในพระเยซู เพราะต่อให้เป็นเชื้อสายของอิสราเอลแต่ไม่เชื่อวางใจในพระเยซูก็จะถูกตัดออกจากการเป็นชนชาติของพระเจ้า
4.@ วันนี้ เราได้มาเป็นชนชาติของพระเจ้าแล้ว โดยพระคุณของพระเจ้า ผ่านทางความเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ ด้วยเหตุนี้พระสัญญาของพระเจ้าสำหรับชนชาติของพระองค์ในพระคัมภีร์นั้น จึงเป็นพระสัญญาสำหรับเรา
คำคม
“จงกลับใจและหันมาหาพระเจ้า ในขณะที่ยังมีโอกาส”