ภาพรวม
- ในบทนี้กล่าวถึงฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทรงกระทำผ่านทางอัครทูต รวมถึงการที่อัตรทูตเผชิญหน้ากับการข่มเหงอย่างกล้าหาญและสง่างามด้วยความช่วยเหลือของพระวิญญาณบริสุทธิ์
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1# เรื่องของอานาเนียกับสัปฟีรา ที่ล้มลงตายเมื่อพวกเขาพูดโกหกต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ คล้ายกับเรื่องของชายอวดดีที่ไปเก็บฟืนในวันสะบาโตทั้งที่โมเสสเพิ่งประกาศบัญญัติของพระเจ้าไปไม่นาน โมเสสจึงให้ประชาชนเอาหินขว้างเขาจนตาย( กดว. 15:32-36 ) แล้วความเกรงกลัวที่จะทำตามบัญญัติของพระเจ้าก็เกิดขึ้นอย่างมากท่ามกลางประชาชน
เรื่องของอานาเนียกับสัปฟีรา ก็เช่นกัน หลังจากเกิดขึ้นแล้วก็เกิดความเกรงกลัวพระเจ้าอย่างยิ่งท่ามกลางคนทั้งหลาย
1.@ พระเจ้ามีเวลาของพระองค์ในแผนการของพระองค์ ที่จะจัดการกับสิ่งที่ไม่ถูกต้องทันทีในบางกรณี และบางกรณีทรงชะลอการจัดการเอาไว้ก่อนจนถึงเวลาที่เหมาะสม
วันนี้ หากเราเดินในทางที่ไม่ถูกต้อง แล้วดูเหมือนพระเจ้าไม่ได้จัดการอะไรกับเราเลย ไม่ได้หมายความว่าพระบิดาผู้รักเราจะปล่อยปละละเลยเราในเรื่องนั้น เพราะความรักไม่ชื่มยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด พระบิดาจะไม่ปล่อยให้เรายังคงเดินต่อไปในทางที่ผิดโดยไม่จัดการอะไรเป็นปน่ เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลาที่พระองค์จะจัดการในบางเรื่อง
ดังนั้น วันนี้ยังมีเวลาที่จะกลับใจ ก่อนที่ไม้เรียวจะมาถึง
2.# เนื่องจากมีการต่อต้านจากผู้นำศาสนาทำให้หลายคนไม่กล้าเข้ามาร่วมฟังการเทศนาของพวกอัครทูต แต่ก็มีคนมากมายนำคนป่วยมาให้อัครทูตรักษา คนป่วยเหล่านั้นก็หายดีทุกคน และมีคนกลับใจมาเชื่อจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
2.@ การต่อต้านไม่อาจหยุดยั้งข่าวประเสริฐได้ แต่ตรงกันช้ามกลับทำให้เห็นฤทธิ์เดชของข่าวประเสริฐมากยิ่งขึ้นไปอีก
หากเราถูกต่อต้านเพราะข่าวประเสริฐ ไม่ต้องตกใจ พระเจ้ากำลังมีแผนการที่ดีเลิศที่มนุษย์คิดไม่ถึงเตรียมไว้ในเหตุการณ์เหล่านั้น
3.# อัครทูตถูกพวกผู้นำศาสนาจับไปขังคุก ด้วยข้อหา ดันมาทำให้พวกเขาอิจฉา(ข้อ17) แต่ทูตสวรรค์ก็มาปล่อยอัครทูตออกจากคุก
เมื่อออกจากคุกแทนที่จะหวาดกลัว แต่พวกเขากลับไปที่พระวิหารแล้วเทศนาสั่งสอนต่อไป
จนผู้นำศาสนาให้คนพาตัวพวกเขามาอีกครั้งแล้วเฆี่ยนตีพวกเขา แทนที่พวกเขาจะหลาบจำ แต่พวกเขากลับเต็มไปด้วยความยินดี เพราะถือว่าพวกเขาได้รับเกียรติยิ่งใหญ่ ได้สิทธิถูกเฆี่ยนเพื่อพระเยซู
จากนั้นพวกเขาก็กลับไปเทศนาสั่งสอนในพระวิหารอีก อย่างปราศจากความหวาดกลัว
3.@ สำหรับอัครสาวก ถือว่าการถูกต่อต้านหรือถูกทำร้าย ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หรือน่าอับอาย แต่เป็นความภาคภูมิใจที่ได้ทนทุกข์เพื่อพระคริสต์ อันเป็นศักดิ์ศรียิ่งใหญ่
วันนี้ หากเราถูกดูถูก ถูกใส่ร้าย ถูกประนาม หรือแม้แต่ถูกทำร้ายเพราะความเชื่อในพระเยซูคริสต์ จงภาคภูมิใจและยินดีเถิด เพราะเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่และจะนำบำเหน็จใหญ่ยิ่งมาสู่ชีวิตของเราด้วย
4.# กามาลิเอล กล่าวเตือนผู้นำศาสนาว่า ถ้าความคิดหรือกิจการใดมาจากมนุษย์ มันจะล่มสลายไปเอง แต่ถ้ามาจากพระเจ้า จะไม่มีใครสามารถทำลายได้
4.@ อะไรที่มาจากพระเจ้ามันจะคงอยู่
บางอย่างเราไม่อาจสรุปได้ชัดเจนว่า สิ่งนี้มาจากพระเจ้าหรือไม่ แต่กาลเวลาและผลที่เกิดขึ้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง
อย่าด่วนตัดสินก่อนเวลา จงรอคอยการเปิดเผย การสำแดงจากพระเจ้าเถิด
คำคม
“ การถูกดูถูกเหยียดหยามเพื่อพระคริสต์ เป็นเกียรติและศักดิ์ศรีอันยิ่งใหญ่”