ภาพรวม
- ในบทนี้ได้พูดถึงการข่มเหงที่เกิดขึ้นส่งผลให้ข่าวประเสริฐยิ่งแผ่กว้างออกไป ทั้งในสะมาเรียและในต่างประเทศอย่างเอธิโอเปีย
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1# เซาโลพยายามทำลายคริสตจักร โดยพรากสามีไปจากภรรยา พรากแม่ไปจากลูก จับผู้เชื่อวางใจในพระเยซูชายหญิง ไปให้มหาปุโรหิตลงโทษ
โดยที่เขาคิดว่าการทำเช่นนั้นเขากำลังรับใช้พระเจ้าอยู่
1.@ สำหรับบางคนสิ่งที่เขาคิดว่าเขากำลังทำเพื่อพระเจ้า แต่ความจริงอาจกำลังต่อต้านงานของพระเจ้าอยู่ก็เป็นไปได้
ดังนั้น ในการรับใช้พระเจ้า ควรถามพระเจ้าเสมอว่า ควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร ไม่งั้นต่อให้ไม่ใช่การขัดขวางพระเจ้า ก็อาจเป็นการเกะกะพระเจ้า ก็ได้
2.# หลังจากที่พระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จลงมาบนพวกสาวก พวกเขาก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เต็มไปด้วยความรักซึ่งกันและกัน ไม่อยากจากกันไปไหนอีกแล้ว
แต่พระเจ้ามีพระประสงค์ให้พวกเขาออกไปประกาศจนสุดปลายแผ่นดินโลก
ดังนั้นเมื่อการข่มเหงเกิดขึ้น ซึ่งดูเหมือนเป็นสิ่งไม่ดีที่เกิดจากการกระทำของคนชั่วร้าย ที่อิจฉาริษยา เหล่าสาวกจึงต้องออกจากกรุงเยรูซาเล็มและกระจัดกระจายไปยังที่ต่างๆ ซึ่งกลับเป็นผลดีอย่างมากในการขยายแผ่นดินของพระเจ้า ตามพระมหาบัญชาของพระเยซู
2.@ พระเจ้าทรงฤทธิ์สามารถใช้ การกระทำที่เห็นแก่ตัวของคนชั่วร้าย ให้กลายเป็นพระพรได้
เมื่อสิ่งร้ายเกิดขึ้น พระเจ้าไม่เพียงแต่ทรงสามารถหยุดสิ่งร้ายได้เท่านั้น แต่พระองค์สามารถเปลี่ยนสิ่งร้ายให้กลายเป็นพระพรได้
ขณะเดียวกัน เราพึงสังเกตว่า หากพระเจ้าประสงค์ให้เราทำสิ่งใด และเราก็รู้ว่านั่นเป็นพระประสงค์ของพระองค์ แต่เราอาจมีเหตุผลมากมายที่ทำให้เราไม่เชื่อฟัง ทำตาม หรือ เฉื่อยช้าในการทำตาม พระเจ้าจำเป็นต้องใช้วิธีการบางอย่างเพื่อให้เราเชื่อฟัง เพื่อให้ตัวเรารับพระพรและเป็นพระพรแก่ผู้คนมากมาย
3.# ฟีลิปไปประกาศในเมืองหนึ่งของแคว้นสะมาเรียและทำหมายสำคัญต่างๆในเมืองนั้น มีผู้คนมากมายมาเชื่อในพระเยซูคริสต์ รวมทั้งซีโมนนักวิทยาคมชื่อดังของเมืองนั้นด้วย
3.@ เมื่อข่าวประเสริฐถูกประกาศออกไป และมีหมายสำคัญการอัศจรรย์รับรองข่าวประเสริฐนั้น ไม่มีอำนาจใดๆที่ต่อต้านข่าวประเสริฐนั้นได้ ข่าวประเสริฐจะนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ผู้คนและสังคม
ให้เรากล้าประกาศข่าวประเสริฐ และกล้าที่จะอธิษฐานเผื่อคนเหล่านั้นที่เราประกาศกับเขา แล้วพระเจ้าเองจะเป็นผู้รับรองข่าวประเสริฐนั้นด้วยการอัศจรรย์ที่พระองค์ทรงกระทำ
พระเจ้าจะไม่ตอบคำอธิษฐาน ถ้าเราไม่อธิษฐาน
4.# ซีโมนอดีตคนทำวิทยาคม คิดว่าจะซื้อสิ่งที่พระเจ้าประทานให้ได้ด้วยเงิน เขาคิดว่าเงินมีอำนาจมากกว่าพระเจ้า สามารถสั่งการพระองค์ได้
เปโตรจึงเตือนเขาว่า เขากำลังไม่สัตย์ซื่อต่อพระเจ้า ซึ่งจะทำให้เขาได้รับความขมขื่น และติดกับแห่งความอธรรม
4.@ การใช้มุมมองของโลกนี้ มองดูสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำ จะทำให้เข้าใจผิดได้ง่าย เพราะการเข้าใจสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำนั้นต้องเข้าใจด้วยความเข้าใจในฝ่ายวิญญาณ มองด้วยมุมมองฝ่ายวิญญาณ
เราเข้าใจมุมมองฝ่ายวิญญาณได้ ก็ต่อเมื่อให้พระคำของพระเจ้าเป็นบรรทัดฐานในการมองดูสิ่งต่างๆเหล่านั้น
สิ่งที่สำคัญมากในเรื่องฝ่ายวิญญาณ ไม่ใช่พฤติกรรมภายนอกแต่เป็นท่าทีในจิตใจ เหมือนซีโมนที่ใจของเขาไม่สัตย์ซื่อต่อพระเจ้า จึงทำให้การกระทำของเขานั้น แทนที่จะเกิดผลดี แต่กลับทำให้เขาตรอมตรมด้วยความทุกข์
วันนี้ สิ่งที่เราทำนั้นเราทำเพื่ออะไร?
หากทำเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนจากโลกนี้ เป็นคำชื่นชมว่าเราเก่ง เราดี หรือเป็นทรัพย์สินเงิน และชื่อเสียงจอมปลอมที่โลกจะหยิบยื่นให้ การกระทำเหล่านั้นแทนที่จะเป็นพระแต่กลับทำให้เราตกดิ่งลงในทางแห่งโลกนี้มากยิ่งขึ้น
หากทำเพราะเห็นแก่ความรักที่เรามีต่อพระเยซู สิ่งเหล่านั้นไม่ว่าจะเล็กน้อยสักเพียงใด ก็เป็นสิ่งล้ำค่าในสายพระเนตรของพระเจ้า
5.# ในขณะที่งานรับใช้ของฟีลิปกำลังเกิดผลอย่างมาก พระวิญญาณบริสุทธิ์กลับนำฟีลิปไปในทางเปลี่ยว ที่ไม่น่าจะมีคนผ่านมาทางนั้น
แต่แล้วบนทางนั้นเขาได้พบกับขันทีชาวเอธิโอเปีย ฟีลิปได้ประกาศแก่เขา และให้บัพติศมาในน้ำแก่เขา
นั่นเป็นครั้งเดียวตลอดชีวิตของทั้งสองคน ที่ทั้งคู่ได้พบกัน
5.@ บางครั้งพระเจ้าทรงนำให้เราทำอะไรบางอย่างที่เมื่อคิดตามหลักการและเหตุผลแล้ว ดูไม่เข้าท่าเอาเสียเลย แต่เมื่อเราเชื่อฟัง กระทำตาม เราจะพบพระพรยิ่งใหญ่
ถ้าฟีลิปไม่ไปทางเปลี่ยวในวันนั้น ตลอดชีวิตเขาอาจจะไม่มีโอกาสประกาศกับขันทีชาวเอธิโอเปียคนนั้นก็เป็นได้
เนื่องจากขันทีคนนั้น เป็นข้าราชการของพระนางคานดาสี
คำว่า “คานดาสี” เป็นตำแหน่งที่ใช้เรียกพระมารดาที่ทำหน้าที่บริหารประเทศแทนกษัตริย์
ดังนั้นขันทีคนนี้น่าจะคนที่มีอิทธิพลมากคนหนึ่งของเอธิโอเปียในช่วงเวลานั้น
เอธิโอเปียในสมัยนั้น เป็นคนละที่กับเอธิโอเปียในปัจจุบัน
เอธิโอเปียในสมัยนั้น เป็นอาณาจักรในทวีปแอฟริกาที่มีอาณาเขตครอบคลุมทั่วบริเวณส่วนเหนือของซูดานและส่วนใต้ของอียิปต์ในปัจจุบัน
ในช่วงเวลาต่อมา เมื่อมิชชันนารีจากยุโรปเข้าไปประกาศในทวีปแอฟริกา ต้องพบกับความประหลาดใจที่ มีหลายเมืองที่นั่นที่มีคนเชื่อในข่าวประเสริฐอยู่ก่อนแล้ว
นักวิชาการบางท่านเชื่อว่า ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลพวงของเหตุการณ์ในวันนั้น วันที่ฟีลิปได้พบกับขันทีชาวเอธิโอเปีย
ถ้าฟีลิปไม่เชื่อฟังพระวิญญาณบริสุทธิ์ในวันนั้น ประวัติศาสตร์ของแอฟริกาน่าจะเปลี่ยนแปลงไป
การเชื่อฟังเล็กน้อยๆของเราในวันนี้ อาจสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่บางอย่างให้เกิดขึ้นก็เป็นไปได้
คำคม
“เมื่อเชื่อฟัง กระทำตามพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราจะได้พบกับนัดหมายแห่งสวรรค์”