ภาพรวม
- บทนี้พูดถึงการรายงานของเปโตรต่อพี่น้องที่เยรูซาเล็มเกี่ยวกับความรอดที่ไปถึงคนต่างชาต แล้วข่าวประเสริฐก็เริ่มแพร่ไปในหมูคนต่างชาติเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยมีอันทิโอกเป็นศูนย์กลาง
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1# เมื่อเปโตรกลับมาที่เยรูซาเล็ม พวกพี่น้องได้ทราบเรื่องว่าคนต่างชาติได้ต้อนรับเชื่อพระเยซูด้วย พี่น้องบางคนจึงตำหนิเปโตรว่า ทำไมไปหาพวกคนต่างชาติที่ไม่ได้เข้าสุหนัต (มีคนต่างชาติบางคนเข้าสุหนัดเพื่อเข้ามาในศาสนายิว แต่พวกที่เปโตรไปหายังไม่ได้เข้าสุหนัต) ซึ่งเป็นการทำผิดกฏเกณฑ์ ธรรมเนียมของยิวที่ได้ถือปฏิบัติกันมายาวนาน
1.@ กฏกติกา หรือธรรมเนียมปฏิบัติต่างๆ เป็นสิ่งที่ดี แต่หากสิ่งเหล่านั้นขัดแย้งกับน้ำพระทัยของพระเจ้าที่ปรากฏในพระคัมภีร์แล้ว การทำตามพระคำของพระเจ้าย่อมสำคัญกว่าแม้มันจะเป็นการกระทำที่ขัดแย้งกับกฏกติกาหรือธรรมเนียมต่างๆก็ตาม
2.# เปโตรตอบคนเหล่านั้นที่ตำหนิเขาว่า ถ้าพระเจ้าจะประทานให้ใคร เปโตรเป็นใครเล่าจึงกล้าจะไปขัดขืนพระเจ้าได้
2.@ เมื่อเราเห็นพระเจ้าอวยพรใคร หรือทรงกระทำสิ่งดีใดๆกับใครเป็นพิเศษ
ไม่ใช่ธุระของเราที่จะไปก้าวก่ายในเรื่องนี้
ขอให้เราสำรวจดูตัวเราเอง เราก็จะพบว่า พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อและอวยพระพรแก่เราเสมอ แม้เราเองจะไม่สมควรจะได้รับพระพรนั้นก็ตาม
และครั้งพระเจ้าจะอวยพระพรคนอื่นอย่างไร ก็จงรู้ว่า ไม่ใช่ธุระของเรา
3.# เมื่อข่าวประเสริฐมาถึงเมืองอันทิโอก อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการข่มเหงที่เกิดขึ้นในเยรูซาเล็ม บารนาบัสได้ไปชวนเซาโล มาร่วมกันรับใช้พระเจ้าที่เมืองนั้น เมื่อเขาทั้งสองสั่งสอนพระคำของพระเจ้ามากมายแก่ผู้เชื่อที่นั่น จึงทำให้คริสตจักรที่อันทิโอกเข้มแข็งมาก จนกลายเป็นศูนย์กลางการส่งมิชชันนารีในช่วงเวลาต่อมา
3.@ การปลูกฝังพระคำของพระเจ้าแก่ผู้เชื่อ เป็นรากฐานสำคัญของการเจริญเติบโตของคริสตจักร
วันนี้ เราให้ความสำคัญแก่การปลูกฝังพระคำของพระเจ้าในชีวิตของเราและแก้ผู้เชื่อในคริสตจักรมากเพียงใด?
คำคม
“ถ้าพระเจ้าจะทำ เราเป็นใครจึงจะไปขัดขวางพระองค์”