ภาพรวม
- ในบทนี้พูดถึงอิสราเอล ชนชาติที่พระเจ้าทรงเลือก เพื่อจะประทานความรอดผ่านทางพวกเขาไปยังประชาชาติ แต่พวกเขาเองกลับปฏิเสธความรอดจากพระเจ้า ด้วยการไม่เชื่อวางใจในพระเยซู ดังนั้นพวกเขาเองจึงมีคนได้รับความรอดนั้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1# รม. 9:6 “…ไม่ใช่ทุกคนที่เกิดมาจากอิสราเอลนั้น เป็นคนอิสราเอลแท้”
เฉพาะผู้เชื่อวางใจในพระเจ้า เหมือนอย่างอับราฮัมเท่านั้น ถึงจะนับว่าเป็นอิสราเอลแท้ เป็นผู้มีสิทธิมีส่วนในพระสัญาของพระเจ้า
1.@ วันนี้ โดยความเชื่อเราจึงมีสิทธิในพระสัญญาของพระเจ้า
นั่นคือ หากเราไม่เชื่อพระคำของพระเจ้า เราจะไม่ได้รับตามพระสัญญาในพระคำของพระองค์
วันนี้ เราเชื่อจริงๆหรือไม่ว่า สิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้กับเราในพระคัมภีร์นั้น จะเกิดขึ้นเป็นจริงอย่างแน่นอน
2.# รม. 9:15-16 … พระเจ้าตรัสว่า “เราประสงค์จะกรุณาใคร เราก็จะกรุณาคนนั้น และเราจะเมตตาใคร เราก็จะเมตตาคนนั้น เพราะฉะนั้น ทุกสิ่งจึงไม่ขึ้นกับความตั้งใจหรือความมานะของมนุษย์ แต่ขึ้นอยู่กับพระเมตตาของพระเจ้า”
พระเมตตาจากพระเจ้า ที่เราได้รับในวันนี้ ไม่เกี่ยวกับ คุณสมบัติของเรา หรือ ความพยายามของเรา แต่เป็นพระคุณของพระเจ้าล้วนๆที่ทรงเลือกและเรียกเรา
2.@ เรามีวันนี้ได้ เพราะพระคุณของพระเจ้า อย่าเย่อหยิ่งไปเลย
เรามีเพราะเราได้รับมา เพราะพระเมตตาของพระเจ้าที่ประทานแก่เรา
3.# พระเจ้าทรงเมตตาแก่ทุกคน แต่คนจำนวนหนึ่งไม่รับพระเมตตาจากพระองค์ พระองค์ก็ยังคงอดทนต่อพวกเขา(ข้อ22) จนกระทั่งหมดเวลา พวกเขาจะได้รับ พระพิโรธจากพระเจ้า ผู้ทรงพิพากษาอย่างยุติธรรมแทน
แต่คนอีกจำนวนหนึ่ง ตอบรับพระเมตตา จึงได้รับพระเมตตา แล้วพบพระคุณมากมาย ที่ทรงมีต่อพวกเขา ประทานเกียรติและศักดิ์ศรียิ่งใหญ่แก่พวกเขา
จึงกล่าวได้ว่า
ฝ่ายหนึ่งเกิดมาเพื่อรับพระพิโรธ
อีกฝ่ายหนึ่งเกิดมาเพื่อรับพระเมตตา
3.@ วันนี้ พระเจ้าทรงสำแดงพระเมตตาของพระองค์แก่เราแล้ว โดยการส่งพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ ลงมาตายแทนเรา
เราจะตอบสนองต่อพระเมตตาที่พระเจ้าประทานให้นี้อย่างไร?
เชื่อ และวางใจในพระองค์ แล้วดำเนินชีวิตตามที่เชื่อนั้น
หรือ
บอกว่าเชื่อวางใจ แต่ดำเนินชีวิตสวนทางกับที่พูดว่าเชื่อนั้น
หรือ
ปฏิเสธ ไม่ต้องการรับพระเมตตานั้น
4.# ลูกหลานของอับราฮัมทางสายเลือดมีมากมาย แต่เพราะความไม่เชื่อในพระเจ้า พวกเขาพ่ายแพ้ศัตรู บ้านเมืองถูกทำลาย ประชาชนจากหลายล้านคน เหลือเพียงแค่ไม่กี่หมื่นคน แล้วถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยในบาบิโลน (586 ก.คศ.)
ต่อมาพระเจ้าเมตตาให้พวกเขากลับมายังบ้านเมืองของตนอีกครั้ง แล้วทวีประชากรมากขึ้น
แต่เมื่อพระเยซูคริสต์เสด็จมาเพื่อช่วยพวกเขาให้รอด พวกเขากลับปฏิเสธพระองค์และจับพระองค์ไปตรึงเสียที่กางเขน (คศ.33)
ลูกหลานของอับราฮัมทางสายเลือด มีมากมาย ความรอดจากพระเจ้ามาถึงพวกเขาแล้ว
แต่น่าเสียดายที่มีเพียงเล็กน้อยในพวกเขาเท่านั้นที่ได้ความรอดที่พระเจ้าประทานให้ เพราะว่ามีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่เชื่อวางใจในพระเยซู
4.@ วันนี้ ความรอดมาถึงเราแล้ว เราตอบสนองอย่างไร?
ลูกหลานของอับราฮัมทางสายเลือดไม่ได้รับความรอดเพราะพวกเขาไม่เชื่อฉันใด
หากเราไม่เชื่อวางใจในพระเยซูจริงๆ เราก็จะไม่มีส่วนในความรอดที่มาจากพระเจ้าฉันนั้น
วันนี้ หากเราเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์แล้ว ความรอดจากพระเจ้าเป็นของเราแล้ว
เราควรจะทำอย่างไรต่อความรอดนี้?
ควรหรือที่เราจะเก็บเรื่องที่แสนดีนี้ไว้แต่ลำพัง แทนที่จะบอกเรื่องนี้ออกไปยังผู้คนอีกมากมายที่ยังไม่ได้รับความรอดจากพระเจ้า
คำคม
“พระเจ้าได้ทรงประทานพระเมตตาแก่เราแล้ว
เราสามารถยื่นมือรับเอาได้เลยด้วยความเชื่อ”