ภาพรวม
- บทนี้กล่าวถึงคนยิวว่า การที่พวกเขาปฏิเสธพระเยซู ทำให้ข่าวประเสริฐแพร่ออกไปทั่วโลก แต่ในที่สุดแล้ว สักวันหนึ่งพระเจ้าจะทรงนำพวกเขาให้กลับมาเชื่อวางใจในพระเยซู
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1# ในท่ามกลางคนยิวที่ส่วนใหญ่ปฏิเสธพระเยซูนั้น มียิวบางคนที่เชื่อวางใจในพระเยซู แล้วได้รับความรอด
1.@ ท่ามกลางคนที่ดูเหมือนจะไม่ยอมเชื่อนั้น มีบางคนที่พร้อมที่จะเชื่ออยู่
ดังนั้นถ้าเราคิดว่า คนกลุ่มนี้พวกเขาคงไม่เชื่อหรอก จึงไม่บอกเรื่องความรอดแก่เขา จะทำให้คนที่จะเชื่อนั้นพลาดโอกาสของการได้ยินข่าวประเสริฐนั้นไป
จงประกาศข่าวประเสริฐแก่ทุกคนที่เราสามารถทำได้ เพราะเราไม่รู้หรอกว่า เขาเป็นกลุ่มที่จะเชื่อหรือจะไม่เชื่อ
2.# การที่พวกยิวไม่เชื่อ และปฏิเสธพระเยซูนั้น เป็นเหตุให้ความรอดแพร่ไปถึงคนทั้งโลก ทำให้คนมากมายได้มีโอกาสกลับคืนดีกับพระเจ้า
2.@ การที่พวกยิวเลือกปฏิเสธพระเยซู เป็นสิ่งผิดพลาดใหญ่หลวงของพวกเขา
แต่พระเจ้าก็ทรงสามารถใช้ความผิดพลาดนั้นกลายเป็นพระพรแก่ผู้คนมากมายได้
วันนี้ ความผิดพลาดพลั้งไปของเรานั้น พระเจ้าทรงสามารถใช้ให้กลายเป็นพระพรได้
โดยที่ ถ้าเรากลับมาหาพระเจ้า พระองค์จะทรงใช้ความผิดพลาดนั้นเป็นพระพรต่อทั้งตัวเราเองและผู้อื่น
แต่ถ้าเราไม่ยอมกลับมาหาพระองค์ ความผิดพลาดนั้นจะเป็นพระพรแก่ผู้อื่นเท่านั้น
จงกลับมาหาพระเจ้าเถิด
3.# รม. 11:22 “…จงพิจารณาดูทั้งพระกรุณาและความเข้มงวดของพระเจ้า …”
พระเจ้าทรงพระกรุณาแก่คนหลงผิด ที่กลับใจ
พระเจ้าทรงเข้มงวดต่อคนหลงผิดที่ไม่ยอมกลับใจ
3.@ คนยิวพลาดไปจากพระสัญญาของพระเจ้า เพราะเขาไม่เชื่อ
เราได้รับตามพระสัญญา เพราะเราเชื่อ
ดังนั้น จนยึดมั่นความเชื่อเอาไว้ อย่าปล่อยให้หลุดมือไป
4.# ความไม่เชื่อฟังของพวกยิว ทำให้ข่าวประเสริฐมาถึงคนต่างชาติที่ไม่เชื่อฟัง
แล้ว คนต่างชาติก็เชื่อ ทำให้พวกเขาได้รับพระเมตตา
โดยพระเมตตานั้น ทำให้พวกยิวที่ไม่เชื่อฟังนั้น ได้รับพระเมตตาด้วย
จนพวกยิวกลายมาเป็นผู้ที่เชื่อ
ดังนั้นในที่สุดแล้วพระเจ้าได้ทรงพระเมตตาแก่เขาทุกคน ที่ไม่เชื่อฟังนั้น
4.@ พระปัญญาและความรอบรู้ของพระเจ้านั้น ช่างล้ำลึกเกินกว่าจะเข้าใจได้
ข้อตัดสินของพระองค์นั้น ลึกซึ้งเกินกว่าที่จะเข้าใจได้หมด
ทางของพระองค์นั้น ซับซ้อนเกินกว่าที่จะค้นพบได้ด้วยตนเอง
5.# รม. 11:35 “…ใครได้ถวายสิ่งหนึ่งสิ่งใดแก่พระองค์ ที่พระองค์จะต้องตอบแทนเขา? ”
ในเมื่อทุกสิ่งเป็นของพระองค์ มาจากพระองค์
5.@ สิ่งใดๆที่เราถวายแด่พระเจ้านั้น ความจริงแล้วเราก็แค่ถวายของพระองค์ กลับคืนแด่พระองค์
ดังนั้นเราไม่ได้มีบุญคุณอะไรกับพระองค์เลย
เป็นพระคุณของพระเจ้าต่างหากที่ประทานให้เรามีสิ่งเหล่านั้น เพื่อเราจะได้รับเกียรติได้ถวายแด่พระองค์
คำคม
“เราได้รับพระเมตตา เพื่อพระเจ้าจะทรงสำแดงพระเมตตาผ่านเราไปสู่ผู้อื่น”