ขุมทรัพย์ 1โครินธ์ 10

ภาพรวม

  • ในบทนี้ อ.เปาโล ตักเตือนให้พี่น้องในคริสตจักรโครินธ์ไม่ให้นับถือรูปเคารพ และควรถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยการกระทำของตน และทำทุกวิถีทางเพื่อให้คนทั้งหลายได้รับความรอด

# แนวคิด

@ การประยุกต์ใช้

1# บรรพบุรุษของคนอิสราเอล ได้มีประสบการณ์กับพระเจ้ามากมาย ได้เดินผ่านทะเลแดงที่แหวกออก , ได้อยู่ใต้เสาเมฆและเสาไฟ , ได้กินมานาอาหารจากสวรรค์ , ได้ดื่มน้ำที่ไหลออกมาจากหิน
ถึง​กระ​นั้น​ก็​ดี​ พวกเขา​ส่วน​มากก็ได้ทำให้​พระ​เจ้า​ไม่​พอ​พระ​ทัย

พวกเขาละทิ้งพระเจ้าหันไปกราบไหว้รูปเคารพ
พวกเขาล่วงประเวณี
พวกเขาลองดีกับพระเจ้า
พวกเขาบ่นต่อว่าพระเจ้า

สิ่งเหล่านี้ทำให้พวกเขาล้มตายมากมายในถิ่นทุรกันดารนั้น
สิ่งเหล่านี้จึงเป็นสิ่งเตือนสติเรา ผู้อยู่ในยุคสุดท้าย ที่จะไม่ลบหลู่พระเจ้า ไม่ละทิ้งความยำเกรงพระองค์

1.@ เราได้รับประสบการณ์การช่วยกู้มากมายในอดีตที่ผ่านมา
วันนี้ให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกอิสราเอลเตือนสติเราว่า
การช่วยกู้ที่ผ่านทั้งหมดจะสูญเปล่าไป หากวันนี้เราละทิ้งพระองค์ ผู้เป็นแหล่งแห่งการช่วยกู้ไปเสีย

เหมือนคนอิสราเอลบางคน อุตส่าห์รอดตายจากกองทัพฟาโรห์ และจากการอดตาย แต่แล้วก็ตายอยู่ดี เพราะพวกเขาละทิ้งพระเจ้า

2.# ความจริง 3 อย่างเกี่ยวกับการทดลอง
1. ไม่​มี​การ​ทด​ลอง​ใดๆ เกิด​ขึ้น​กับ​เรา ที่ไม่​เคย​เกิด​กับ​มนุษย์คนอื่นมาก่อน
ดังนั้น เราไม่ได้พบเจอสิ่งนี้แต่คนเดียว มีคนอื่นเคยเจอมาเหมือนกัน

2. พระ​เจ้า​จะ​ไม่​ทรง​ให้​เราต้อง​ถูก​ทด​ลอง​เกิน​กว่า​ที่​เราจะ​ทน​ได้
ดังนั้น การทดลองนี้ เราผ่านมันได้แน่

3. ทุกการ​ทด​ลอง​มี​ทาง​ออก​
ดังนั้น หาให้ดีๆ พึ่งพาพระเจ้าแล้วเราจะพบทางออกเสมอ

2.@ เมื่อพบกับการทดลอง หรือความทุกข์ยากลำบาก ใดๆก็ตาม จงมั่นใจเถิดว่า เราทนได้และมีทางออกเสมอ เมื่อเราหันมาพึ่งพาพระเจ้าอย่างสุดกำลัง

3.# การละทิ้งพระเจ้า หันไปพึ่งพาสิ่งอื่น อย่างเช่นอิสราเอลหันไปนับถือรูปเคารพ เป็นเหมือนการยั่วยุพระเจ้า
เพราะทั้งที่พวกเขาก็รู้แล้วว่า พระเจ้ารักพวกเขามากมาย ทรงช่วยพวกเขามากมาย
แต่ก็ยังละทิ้งพระองค์ แล้วยกการนับถือที่พวกเขาสมควรมีต่อพระเจ้า
นำไปยกให้รูปเคารพ ซึ่งไม่ได้รักพวกเขาเลยเพราะรักไม่ได้ และไม่ได้ช่วยอะไรพวกเขาเลยเพราะช่วยไม่ได้

3.@ การวางใจสิ่งอื่นมากกว่าวางใจพระเจ้า เป็นการยั่วยุพระเจ้า เพราะกำลังบอกว่า พระเจ้าสู้สิ่งนั้นไม่ได้หรอก สิ่งนั้นช่วยฉันได้มากกว่าพระเจ้า

วันนี้ ในการเผชิญกับปัญหาของเราในวันนี้ เราวางใจในสิ่งใด?

4.# เรา​ทำ​ทุก​สิ่ง​ได้ แต่​ไม่​ใช่​ทุก​สิ่ง​นั้น​จะ​เป็น​ประ​โยชน์
เรา​ทำ​ทุก​สิ่ง​ได้ แต่​ไม่​ใช่​ทุก​สิ่ง​นั้น​ทำ​ให้​เจริญ​ขึ้น
อย่า​ให้​ใคร​เห็น​แก่​ประ​โยชน์​ส่วน​ตัว แต่​จง​เห็น​แก่​ประ​โยชน์​ของ​คน​อื่นๆ

ดังนั้น ในการตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร มีหลักการง่ายๆก็คือ
1. สิ่งนั้นเป็นประโยชน์และทำให้จำเริญขึ้นในฝ่ายวิญญาณหรือไม่?
2. การทำสิ่งนั้น คนอื่นจะได้ประโยชน์หรือจำเริญขึ้นในฝ่ายวิญญาณมากกว่ายิ่งกว่าตัวเราเองหรือไม่?
ถ้าทั้ง 2 ข้อ ตอบว่าใช่ โดยทั่วไปแล้วสามารถทำได้
(อย่างไรก็ดีคงต้องพิจารณาบริบทของเรื่อง ตามแต่ละกรณีด้วย ว่าพระคำของพระเจ้า สอนอย่างไรในเรื่องนั้นๆ)

4.@ เราจะทำอะไร หรือ ไม่ทำอะไร ควรพิจารณาประโยชน์ของคนอื่นเป็นสำคัญ
เพราะว่า ยังไงๆเราก็จะได้รับพระพรจากพระเจ้ามากมายอยู่แล้ว ดังนั้นประโยชน์ของตนเองไม่ต้องห่วงมากก็ได้
ยิ่งทำเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น โดยเฉพาะพี่น้องในพระคริสต์ ยิ่งทำให้พระบิดาชื่นใจ

5.# ไม่ว่าเราจะ​ทำ​อะไร​ก็​ตาม จง​ทำ​เพื่อ​ถวาย​พระ​เกียรติ​แด่​พระ​เจ้า
อย่า​เป็น​ต้น​เหตุ​ที่​ทำ​ให้​ผู้อื่นสะดุดหรือ​หลง​ผิด​ไป
ควรพยา​ยาม​ทำ​ทุก​สิ่ง โดยไม่​ได้​เห็น​แก่​ประ​โยชน์​ส่วน​ตัว แต่​เห็น​แก่​ประ​โยชน์​ของ​คนอื่น ว่าทำอย่างไรพวกเขาจึงจะได้​รับ​ความ​รอด

5.@ พระคำของพระเจ้า สอนว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกทำสิ่งใดๆ ควรคำนึงถึงการถวายเกียรติแด่พระเจ้า และคำนึงว่าจะช่วยคนอื่นให้ได้รับความรอดได้อย่างไร

คำคม

“การยอมไม่ทำ ทั้งที่มีสิทธิทำ เพราะเห็นแก่พี่น้อง
นั่นเป็นการสำแดงความรักแท้ต่อพระเจ้า”