ภาพรวม
- ในบทนี้ อ.เปาโล สอนคริสตจักรโครินธ์ ในเรื่องการปฏิบัติอย่างถวายเกียรติแด่พระเจ้าในคริสตจักร ในเรื่องการแต่งกายและเรื่องพิธีมหาสนิท
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1# อ.เปาโล บอกให้คริสตจักรโครินธ์ทำตามแบบอย่างของเขา เหมือนกับที่เขาทำตามแบบอย่างของพระคริสต์
คนที่สอนว่า อย่าทำตามอย่างผม แต่ให้ทำตามอย่างพระคริสต์ จึงเป็นคำสอนที่ขัดกับพระคำตอนนี้
ผู้สอนเรื่องพระคริสต์ ควรดำเนินชีวิตตามอย่างพระคริสต์ เพื่อให้ผู้รับคำสอนดำเนินตาม
หากเขาไม่พร้อมที่ดำเนินตามอย่างพระคริสต์ สรุปได้เลยว่า ไม่ว่าเขาจะมีความรู้มากเพียงใด เขายังไม่พร้อมสอน
1.@ เราต้องเอาใจใส่การดำเนินชีวิตของเรา ให้สอดคล้องกับสิ่งที่เราสอนผู้อื่น
ถึงแม้ว่ายังไม่สามารถทำได้ 100% แต่อย่างน้อยก็ควรดำเนินไปในทิศทางนั้น
2.# อ.เปาโลสอนว่า การมาร่วมประชุมของคริสตจักร ร่วมประชุมอธิษฐาน ทั้งชายและหญิง ควรแต่งตัวให้ถวายเกียรติแด่พระเจ้า สอดคล้องกับวัฒนธรรมของสังคมนั้นๆ
เช่น สังคมผู้เชื่อในสมัยนั้น ผู้ชายไม่ควรไว้ผมยาว และไม่ควรคลุมผม
ส่วนผู้หญิงไม่ควรตัดผมสั้นหรือโกนผม และควรคลุมผม เมื่อออกจากบ้าน และเมื่อร่วมประชุมในคริสตจักร
(เพราะผู้หญิงไม่คลุมผม เมื่ออกจากบ้าน ถือเป็นการแต่งกายไม่สุภาพของสังคมในเวลานั้น และพวกผู้หญิงขายบริการทางเพศแก่พวกกะลาสีเรือสมัยนั้น ก็ไม่คลุมผมแบบนั้นด้วย)
2.@ การกระทำใดๆของเรา ควรคำนึงการถวายเกียรติแด่พระเจ้าเสมอ
บางครั้งอาจจะเป็นสิทธิของเราที่จะทำเช่นนั้น
แต่หากการทำเช่นนั้น ทำให้พระนามของพระเจ้าเป็นที่ดูถูกดูหมิ่น
จงเลิกการกระทำนั้นเสีย
3.# ใน 1คร. 6:7 อ.เปาโลบอกให้อดทนต่อกันและกัน หากพี่น้องโกงเรา เรายอมให้เขาโกงโดยไม่ฟ้องก็เป็นการดี
แต่ใน 1คร. 11:19 อ.เปาโล กลับบอกว่า จำเป็นต้องมีการขัดแย้งกันในพวกเขา เพื่อฝ่ายถูกในพวกเขาจะปรากฏ
นั่นคือ ถ้าเป็นความขัดแย้งเรื่องทรัพย์สิน เงินทอง สิ่งของในโลกนี้ ดูเหมือน อ.เปาโล บอกยอมๆกันไปเถอะ
แต่ถ้าเป็นความไม่ถูกต้องในคริสตจักรของพระเจ้า อ.เปาโล ย้ำว่ายอมไม่ได้ ต้องยืนยันความถูกต้องเอาไว้ให้ได้ แม้จะต้องขัดแย้งกับบางคนก็ตาม
3.@ เมื่อมีสิ่งที่ขัดแย้งกับพระคำของพระเจ้า เกิดขึ้นในคริสตจักร
เราควรยืนหยัด เพื่อสิ่งที่ถูกต้องตามพระคำของพระเจ้า
ถึงแม้อาจจะต้องขัดแย้งกับบางคนในคริสตจักรก็ตาม
4.# พิธีมหาสนิทที่พระเยซูทรงตั้งขึ้นและสั่งให้เราทำเรื่อยไปนั้น เพื่อให้เราระลึกถึงพระสัญญาของพระองค์เสมอ และระลึกว่าเราเป็นที่รักของพระองค์มากเพียงใด และระลึกว่าเราเป็นกายเดียวกันในพระคริสต์ และย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าอีกไม่นานพระเยซูจะเสด็จกลับมาแล้ว
4.@ ความศักดิ์สิทธิ์ของพิธีมหาสนิท ไม่ได้อยู่ที่พิธี แต่อยู่ความหมายของพิธีนั้นต่างหาก
การร่วมพิธีมหาสนิท โดยไม่ซาบซึ้งความรักของพระเยซู และ ไม่รักกันและกัน เป็นการร่วมศาสนพิธีเท่านั้น
แต่การร่วมด้วยหัวใจที่รักพระเยซู และ รักกันและกัน พิธีนี้จะเป็นประโยชน์ยิ่งต่อชีวิตฝ่ายวิญญาณของเรา
5.# การเข้าร่วมพิธีมหาสนิทอย่างถูกต้องหรือไม่นั้น พระคำของพระเจ้าบอกให้เรา “จงสำรวจตัวเอง” (1คร. 11:28) ไม่ใช่มัวแต่คอยสำรวจคนอื่น
ตรวจสอบดูใจของเราว่า เราเข้าร่วมพิธีนี้โดยตระหนักถึงพระกายของพระคริสต์หรือไม่?
ถ้าใช่ การร่วมพิธีนี้จะนำพระพรมากมายมาสู่ชีวิต
ถ้าไม่ การร่วมพิธีนี้จะเป็นเหตุให้ตนเองถูกลงโทษ
ตระหนักถึงพระกาย หมายถึง คิดถึงสิ่งที่พระเยซูได้กระทำเพื่อเรา และ คิดถึงพี่น้องในพระคริสต์ว่าเราเป็นกายเดียวกัน
5.@ การร่วมพิธีมหาสนิท จะนำพระพร หรือ การตีสอน มาสู่ตัวเรา ขึ้นอยู่กับท่าทีในใจของเราต่อพระกายของพระคริสต์
6.# พระเจ้าทรงตีสอนเรา เพื่อไม่ให้เราถูกพิพากษาด้วยกันกับโลก
6.@ พระเจ้าทรงรักเราอย่างที่เราเป็น และ พระองค์ทรงรักเราจนไม่ยอมให้เราเป็นอย่างที่เราเป็น
เมื่อพระเจ้าทรงตีสอนเรานั้น เพราะพระองค์ทรงรักเรา พระองค์ปรารถนาให้เรากลับใจใหม่
หันออกจากทางหายนะ กลับมาสู่หนทางแห่งพระพร
คำคม
“ พระเจ้าตีสอนเรา เพราะรักเรา ”