ภาพรวม
- บทนี้กล่าวว่า เราทุกคนเป็นอวัยวะในพระกายของพระคริสต์ ซึ่งทุกคนได้รับของประทานที่แตกต่างกัน จากพระวิญญาณองค์เดียวกัน เราต้องการกันและกัน ทุกคนสำคัญ จะขาดคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1# ไม่มีใครสามารถต้อนรับพระเยซูเข้ามาเป็นพระเจ้าเป็นเจ้านายในชีวิตของเขาอย่างจริงใจได้ โดยปราศจากการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตของเขา
1.@ วันนี้ ที่เราต้อนรับพระเยซูเข้ามาในใจของเรา ไม่ใช่เพราะความดี ความถ่อม หรือความฉลาดใดๆของเราเลย แต่เป็นพระคุณของพระเจ้า ที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงทำให้เราเปิดใจต้อนรับพระองค์เข้ามาในชีวิต
การที่จะให้ใครสักคน ต้อนรับพระเยซูเข้ามาในชีวิตของเขาอย่างแท้จริง จำเป็นหรือเกินที่ต้องมีใครบางคนอธิษฐานเผื่อเขา
2.# พระวิญญาณองค์เดียวกันทรงประทาน ของประทาน ความสามารถ ให้แก่แต่ละคน แตกต่างกัน ตามชอบพระทัยพระองค์
2.@ ความสามารถทุกอย่างที่เรามี ความจริงแล้วพระเจ้าทรงประทานให้
เราควรขอบคุณพระเจ้า ถ่อมใจลง และใช้สิ่งเหล่านั้นเพื่อพระเจ้า
พระเจ้าทรงประทานตามชอบพระทัยของพระองค์
พระองค์ตัดสินเองว่า ใครควรจะมีความสามารถอะไรอย่างไร
เราจึงไม่ควรอิจฉา หรือ น้อยเนื้อต่ำใจ หากเราไม่ได้มีความสามารถบางอย่างเหมือนบางคน
เพราะพระเจ้าผู้ทรงสรรพัญญู ทรงทราบดีว่าจะประทานความสามารถอะไรที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเรา
พระวิญญาณองค์เดียวกันเป็นผู้ประทาน ดังนั้นเราควรเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
และควรภาคภูมิใจ แม้ว่าของประทานของเราไม่เหมือนกบของอีกคน เพราะของประทานที่เราและของคนอื่นๆที่ได้รับมานั้น ก็เป็นของประทานจากพระวิญญาณผู้เดียวกันนั่นเอง เพียงแค่พระองค์ประทานในลักษณะที่แตกต่างกันเท่านั้นเอง
3.# 1คร. 12:7 “การสำแดงของพระวิญญาณนั้น พระองค์ประทานแก่แต่ละคนเพื่อประโยชน์ร่วมกัน”
3.@ สิ่งที่พระเจ้าประทานให้แก่เรานั้น เพื่อเราจะใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น
การนำเอาของประทานความสามารถ มาใช้เพื่อประโยชน์ของตนเองเท่านั้น จึงถือว่าเป็นการใช้งานผิดประเภท
เหมือนเอาน้ำจากสายดับเพลิงมาอาบน้ำตัวเอง ขณะไฟกำลังไหม้บ้านเพื่อนบ้านอยู่
4.# แม้เราแต่ละคนจะมีความสามารถที่แตกต่างกัน
แต่ก็มาจากพระวิญญาณองค์เดียวกัน
เราอยู่ในพระวิญญาณองค์เดียวกัน
เราจึงเป็นกายเดียวกันโดยทางพระวิญญาณ
แม้จะแตกต่างกัน แต่ทุกคนล้วนสำคัญ เป็นเหมือนอวัยวะในร่างกายที่ทุกส่วนล้วนสำหรับ ประกอบกันเข้าเป็นร่างกายที่สมบูรณ์ หากขาดอวัยวะใดไป ก็เรียกได้ว่าเป็นร่างกายพิการ
4.@ เราต้องการกันและกัน ทุกคนสำคัญ ไม่ว่าเขาจะรู้สึกว่าเขาไม่สำคัญสักเพียงใดก็ตาม
หากขาดใครไป หรือคนใดไม่ได้ทำหน้าที่ของตน คริสตจักรจะไม่สมบูรณ์ เปรียบเสมือนกับคริสตจักรพิการ
น่าเศร้าที่ ทุกวันนี้ หลายคริสตจักร ไม่ได้พิการแค่อวัยวะอย่างเดียวด้วยซ้ำ
แต่พิการซ้ำซ้อนหลายอวัยวะ
คริสตจักรซึ่งเป็นพระกายของพระคริสต์ ที่ควรเต็มไปด้วยฤทธานุภาพของพระเจ้า
จึงกลายเป็นคริสตจักรที่อ่อนแอ ไม่อาจมีอิทธิพลต่อสังคมได้
เพราะอวัยวะจำนวนมาก ไม่ได้ทำงานตามหน้าที่ของตน
คำคม
“ จำนวนสมาชิกที่ไม่มีส่วนร่วมในการรับใช้ตามของประทาน
เป็นตัวชี้วัดความพิการของคริสตจักร”