ภาพรวม
- บทนี้การเป็นขึ้นมาจากความตายของพระเยซู ว่าเป็นผลแรก และเราทั้งหลายผู้เชื่อวางใจในพระองค์จะเป็นผลที่ตามมา จะมีสภาพเป็นเหมือนพระองค์
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1# ข่าวประเสริฐ คือ ข่าวที่บอกว่า “พระเยซูคริสต์วายพระชนม์เพราะบาปของเรา และทรงถูกฝังไว้ แล้ววันที่สามพระองค์ทรงถูกทำให้เป็นขึ้นมา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปตามคำสัญญาของพระเจ้าที่พยากรณ์ไว้ในพระคัมภีร์”
1.@ พระเยซูตายเพื่อบาปของเราเรียบร้อยแล้ว และ พระเยซูทรงเป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว ด้วยเหตุนี้เราสามารถรับสิทธิพ้นบาปและมีชีวิตใหม่ได้แล้ว
ใครเชื่อข่าวนี้ จริงๆ คนนั้นจะปรารถนาที่จะได้รับสิทธินี้อย่างแน่นอน
เมื่อเขาวางใจว่า “ใช่แล้ว ข่าวนี้เป็นความจริง พระเยซูสามารถทำให้ฉันพ้นบาปและมีชีวิตใหม่ได้”
เขาก็จะยื่นมือออกไปรับสิทธินั้น ด้วยการต้อนรับพระเยซูเข้ามาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดและเป็นเจ้านายในชีวิตของเขา
และนั่นเอง เขาได้รับความรอดแล้ว
2.# เมื่อเราเชื่อในข่าวประเสริฐแล้ว เราจำเป็นต้องยึดมั่นในความเชื่อนั้นจนถึงวันสุดท้ายในชีวิตของเรา(ข้อ2) เพราะว่าเราได้รอดความรอดโดยความเชื่อในข่าวประเสริฐ
หากเราโยนความเชื่อนั้นทิ้งไป เราจะรอดได้อย่างไร?
2.@ การเชื่อในข่าวประเสริฐเป็นสิ่งสำคัญมาก แต่การยึดมั่นในข่าวประเสริฐจนวันตายก็สำคัญไม่แพ้กัน
3.# อ.เปาโล กล่าวว่า พระคุณของพระเจ้าที่ อ.เปาโลได้รับ ไม่ไร้ประโยชน์ เพราะเป็นเหตุให้ อ.เปาโลตรากตรำอย่างสุดกำลังเพื่อข่าวประเสริฐ ซึ่งไม่ใช่เพราะตัวเขาเองดีหรือเก่ง แต่เพราะพระคุณของพระเจ้านั้นแสนประเสริฐ
3.@ ยิ่งเราทราบซึ้งในพระคุณของพระเจ้า มากเท่าใด เราก็ยิ่งจะทุ่มเทในการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้ามากขึ้นเท่านั้น
วิธีวัดว่า เราซาบซึ้งพระคุณของพระเจ้ามากเพียงใด ไม่ได้วัดที่คำพูดหรือการร้องเพลง แต่วัดที่เราได้ทุ่มเทชีวิตในการปรนนิบัติพระองค์มากเพียงใด
4.# ข่าวประเสริฐ กล่าวว่า พระเยซูเป็นขึ้นมาจากความตาย ซึ่งเรื่องนี้ ทำให้ผู้เชื่อมีความหวังว่าจะได้เป็นขึ้นมาจากความตายเหมือนพระองค์
4.@ การไม่เชื่อว่า การเป็นขึ้นมาจากความตายมีอยู่จริง ก็เท่ากับไม่เชื่อข่าวประเสริฐนั้นเอง
ดังนั้น ผู้เชื่อที่ไม่เชื่อว่าการเป็นขึ้นมาจากความตายมีจริง ก็คือผู้ไม่เชื่อนั่นเอง
ผู้ที่เชื่อจริงๆว่าเขาจะเป็นขึ้นมาจากความตาย ย่อมดำเนินชีวิตโดยรู้ตัวว่า ความตายไม่น่ากลัวเลยสำหรับเขา และ เขาจะรู้ตัวว่าสิ่งของในโลกนี้ทั้งหมดเป็นสิ่งชั่วคราวสำหรับเขา
5.# เพราะพระเยซูคริสต์เป็นขึ้นมาจากความตายเป็นผลแรก เราทั้งหลายที่เชื่อวางใจในพระองค์จะเป็นผลที่ตามมา ซึ่งจะมีลักษณะแบบเดียวกับผลแรกนั้น
5.@ เราจะมีกายทิพย์(กายวิญญาณ)เหมือนพระเยซู เมื่อเราเป็นขึ้นมาจากความตาย
แต่ร่างกายสำหรับสวรรค์ และร่างกายสำหรับโลก คนละอย่างกัน แตกต่างกัน (1คร. 15:40)
เรายังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก คงต้องรอพบของจริงด้วยตนเองในเวลาอีกไม่นาน
6.# วันที่พระเยซูคริสต์เสด็จกลับมา เมื่อเป่าแตรครั้งสุดท้าย หากเรายังมีชีวิตอยู่ในวันนั้น เราจะถูกเปลี่ยนใหม่ ในพริบตาเดียว แต่หากเราตายไปก่อนหน้านั้นแล้ว เราจะถูกทำให้เป็นขึ้น แล้วเราจะถูกเปลี่ยนใหม่ รับสภาพใหม่ สภาพอมตะชั่วนิรันดร์ (ข้อ 51-52)
แล้วความตายก็จะไม่มีอิทธพลต่อเราอีกเลย ตลอดกาล (ข้อ54)
6.@ ในไม่ช้า เราจะรับสภาพอมตะชั่วนิรันดร์
อย่าให้เราสนใจ ใส่ใจ กับสิ่งของชั่วคราวในโลกนี้ จนละเลยตระเตรียมสำหรับโลกหน้า
7.# 1คร. 15:58 “…จงมั่นคงอยู่ อย่าหวั่นไหว จงทำงานขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้บริบูรณ์ทุกเวลา ท่านทั้งหลายพึงรู้ว่า ในองค์พระผู้เป็นเจ้า การตรากตรำของท่านจะไม่ไร้ประโยชน์”
7.@ พระเจ้าทรงสัญญาว่า ทุกสิ่งที่เราทำเพื่อพระเจ้าจะไม่ไร้ผล
คำคม
“โดยความเชื่อ
อนาคตในสวรรค์เป็นสิ่งที่แน่นอนยิ่งกว่าสิ่งที่จะเกิดกับเราในวันพรุ่งนี้เสียอีก”