ภาพรวม
- ในบทนี้ อ.เปาโล อธิบายให้คริสตจักรกาลาเทีย เข้าใจว่า โดยความเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ เราทั้งหลายได้พ้นจากการอยู่ใต้กฏของธรรมบัญญัติแล้ว
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1# อ.เปาโล เตือน คริสตจักรกาลาเทีย ว่า
พระวิญญาณบริสุทธิ์เข้ามาในชีวิตของเรา เมื่อเราเชื่อข่าวประเสริฐแล้วต้อนรับพระเยซูเข้ามาในชีวิตของเรา
ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการทำตามธรรมบัญญัติเลย
บัดนี้ เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสถิตในเราแล้ว
ทำไมเราถึงจะละทิ้งการพึ่งพาพระวิญญาณบริสุทธิ์
แล้วย้อนกลับไปพึ่งพาการทำตามธรรมบัญญัติ เพื่อให้พระเจ้าทรงพอพระทัยอีกเล่า?
1.@ วันนี้ เราเป็นคนชอบธรรมแล้ว โดยการเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสถิตกับเรา
ดังนั้นการดำเนินชีวิตเพื่อให้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า จึงไม่ใช่การพยายามทำตามกฏเกณฑ์ต่างๆ แต่เป็นการดำเนินชีวิตตามการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์
2.# ใน กท. 3:9 “คนที่เชื่อจึงได้รับพรร่วมกับอับราฮัมผู้ซึ่งเชื่อ”
เมื่ออับราฮัมเชื่อวางใจในพระเจ้าผู้ทรงเปิดเผยพระองค์เองแก่อับราฮัม เขาจึงได้รับพระพร
เมื่อเราเชื่อวางใจในพระเยซูผู้ทรงสำแดงพระบิดาแก่เรา เราจึงได้รับพระพร เช่นเดียวกับอับราฮัม
2.@ วันนี้ เราสามารถได้รับพระพรได้ ไม่ขึ้นอยู่กับการกระทำ แต่ขึ้นอยู่กับความเชื่อว่า โดยพระเยซูเราจึงเป็นผู้ชอบธรรมแล้ว และโดยความเชื่อเช่นนั้นเอง จะสะท้อนออกมาเป็นการกระทำที่ชอบธรรมสมกับที่เชื่อ
3.# ใน กท. 3:12 กล่าวว่า “ธรรมบัญญัติไม่ได้อาศัยความเชื่อ เพราะผู้ที่ประพฤติตาม ธรรมบัญญัติ ก็จะมีชีวิตอยู่โดยธรรมบัญญัตินั้น”
หมายถึง การทำตามธรรมบัญญัติไม่ต้องอาศัยความเชื่อวางใจในพระเจ้าว่าจะทรงเมตตาเขา เพราะเขาจะได้รับเมตตาและพ้นการลงโทษแน่ หากเขาทำตามธรรมบัญญัติได้ครบถ้วน
ด้วยเหตุนี้ การพยายามทำตามกฏกติกาของศาสนา ในมุมหนึ่งดูเหมือนเป็นสิ่งที่ดีมาก
แต่ในอีกมุมหนึ่ง สะท้อนให้เห็นถึงความเย่อหยิ่งยโสอย่างยิ่ง ที่คิดว่า ตนเองจะสามารถทำตามธรรมบัญญัติได้
3.@ เราควรถ่อมใจลง ยอมรับความจริงว่า
เราไม่มีปัญญาทำตามกฏเกณฑ์ของธรรมบัญญัติได้ เราตายแน่ เราต้องถูกพิพากษาลงโทษแน่ หากไม่ได้รับพระคุณของพระเจ้า
จากนั้นเราก็หันมาเชื่อวางใจในพระเยซูผู้ทรงสัญญาว่า ใครก็ตามวางใจในพระองค์จะรอดพ้นการพิพากษาลงโทษ
4.# กท. 3:15 “…ถึงแม้เป็นพันธสัญญาของมนุษย์ เมื่อได้รับรองกันแล้ว ไม่มีใครจะล้มเลิกหรือเพิ่มเติมขึ้นอีก” ยิ่งกว่านั้น สิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญาแล้วจะเป็นจริงอย่างแน่นอน
พระเจ้าทรงสัญญาว่า พระเจ้าประทานมรดกนั้นให้แก่อับราฮัมและเชื้อสายของเขา
ซึ่งเชื้อสายของอับราฮัม หมายถึงผู้เชื่อวางใจในพระเจ้าเหมือนอับราฮัม
4.@ เราผู้เชื่อวางใจในพระเยซูจะได้รับพระพรอย่างแน่นอน
วันนี้ เราวางใจในพระเยซูหรือไม่ว่า สิ่งที่กำลังเกิดกับเราวันนี้ อยู่ในขั้นตอนแห่งพระพรที่พระเจ้ากำลังจะประทานให้แก่เรา
5.# กท. 3:21 กล่าวว่า “…ธรรมบัญญัติที่ถูกตั้งไว้นั้นสามารถให้ชีวิต ความชอบธรรมก็จะมีได้โดยธรรมบัญญัตินั้นจริง”
หากมนุษย์ทำตามธรรมบัญญัติได้ทั้งหมด ก็จะรอดตายได้จริง จะได้รับพระพรจากทำตามธรรมบัญญัติได้จริง
เนื่องจากมนุษย์ทุกคนเป็นคนบาป จึงไม่ได้รับพระพรจากธรรมบัญญัติ แต่ได้รับคำแช่งสาปและความตาย จากการละเมิดธรรมบัญญัติ แทน
บัดนี้พระเยซูเสด็จมาเพื่อช่วยมนุษย์ ประทานพระคุณให้แก่ทุกคนที่เชื่อวางใจในพระองค์ ได้พ้นจากกฏกติกาแห่งธรรมบัญญัติ เข้าสู่กติกาใหม่ กติกาแห่งความเชื่อ
กติกาแห่งธรรมบัญญัติ : ใครทำตามได้รับพระพร ใครละเมิดถูกแช่งสาป
กติกาแห่งความเชื่อ : ใครเชื่อวางใจได้รับพระพรและพ้นจากกติกาธรรมบัญญัติ ใครไม่เชื่อก็อยู่ในกติกาเดิมต่อไป
5.@ โดยความเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ เราได้พ้นจากกติกาของธรรมบัญญัติแล้ว เราถกนับว่าเป็นคนชอบธรรมแล้ว เราได้เป็นทายาทของพระเจ้าแล้ว
ใครก็ตามที่เชื่อเช่นนี้จริงๆใน ต่อให้เขาต้องสูญเสียทุกอย่างที่เขามีไปในวันนี้
แน่นอนเขาก็ยังจะมีความชื่นชมยินดีและสันติสุขในพระเจ้าอยู่ดี
วันนี้คุณมีความชื่นชมยินดีและสันติสุขในพระเจ้าหรือไม่????
คำคม
“ ถ้าเลือกอยู่ในกติกาของธรรมบัญญัติ เราจะถูกแช่งสาป
ถ้าเลือกอยู่ในกติกาของความเชื่อ เราจะได้รับพระพร ”