ขุมทรัพย์ โคโลสี 3

ภาพรวม

  • ในบทนี้ อ.เปาโล สอนคริสเตียนโคโลสีให้ดำเนินชีวิตใหม่ในพระเจ้า และทำทุกอย่างอย่างดีที่สุดโดยเห็นแก่พระเจ้า

# แนวคิด

@ การประยุกต์ใช้

1# ใน คส. 3:1-2 ในเมื่อเราเป็นขึ้นมามีชีวิตใหม่ในพระเยซูคริสต์แล้ว เราก็ควรดำเนินชีวิตแบบคนใหม่ โดย​​แสวงหาและเอาใจใส่ ​สิ่ง​ซึ่ง​อยู่​เบื้อง​บน​ ไม่ใช่​สิ่ง​ซึ่ง​อยู่​ที่​แผ่นดิน​โลก​

1.@ วันนี้ เราใช้เวลาและพลังงาน ในการแสวงหาและเอาใจใส่ กับสิ่งของในโลกนี้มากเพียงใด?
เราเหลือเศษเวลากี่นาทีต่อวัน ในการแสวงหาและเอาใจใส่ สิ่งซึ่งอยู่เบื้องบน?
ได้เวลาแล้วที่ คนที่เป็นขึ้นมาจากความตายอย่างเรา จะดำเนินชีวิตให้สมกับที่ได้เป็นขึ้นมาแล้ว

2.# ใน คส. 3:5 กล่าวว่า การ​ล่วง​ประเวณี การ​โสโครก ราคะ​ตัณหา ความ​ปรารถนา​ชั่ว และ​ความ​โลภซึ่ง​เป็น​การ​นับ​ถือ​รูป​เคารพ​นั้น จะนำพระ​อาชญา​ของ​พระ​เจ้า​ก็​จะ​ลง​มา

เมื่อก่อนเราเคยดำเนินชีวิต แบบนำการลงโทษของพระเจ้าเข้ามาสู่ชีวิต
บัดนี้เรามีชีวิตใหม่แล้ว จึงควรละทิ้งความคิดที่อยากจะทำเช่นนั้นเสีย

รวมทั้งทิ้งนิสัยเก่าๆ ได้แก่ ​การโกรธ ​การโมโหร้าย การ​คิด​ปอง​ร้าย การ​พูด​ให้​ร้าย การสาปแช่ง การพูดคำ​หยาบ(ข้อ8) และการพูดโกหก​ (ข้อ9)

แต่​รับนิสัยใหม่ ที่พระเจ้า​กำลัง​ทรง​สร้าง​ขึ้น​ใหม่ในเรา โดยเมื่อเรา​รู้จัก​พระ​เจ้า​มากขึ้น นิสัยใหม่ก็ยิ่งพัฒนาขึ้น(ข้อ10)
เพราะยิ่งรู้จักพระเจ้า เราก็ยังยิ่งรู้ตัวว่า เรา​เป็นผู้ที่พระ​เจ้า​ทรง​เลือก​ไว้ เป็น​ผู้​ที่​บริสุทธิ์​และ​เป็น​ผู้ที่​ทรง​รัก

แล้วโดยการรู้จักพระเจ้า เราก็จะได้รับการ​สวม​ใจ​เมตตา ใจ​ปรานี ใจ​ถ่อม ใจ​อ่อน​สุภาพ ใจ​อดทน​นาน​(ข้อ12)

2.@ วันนี้ เราเป็นคนใหม่แล้ว เราควรดำเนินชีวิตใหม่ เราเป็นลูกของพระเจ้าแล้ว เราสมควรดำเนินชีวิตอย่างลูกของพระเจ้า ไม่ใช่อย่างลูกของมาร
ยิ่งเราใกล้ชิดติดสนิทกับพระเจ้า เราก็จะยิ่งรู้จักพระองค์ และรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจภายในของเราให้จำเริญขึ้นมากขึ้นทุกที

น่าเสียดายที่มีคริสเตียนมากมาย พยายามอย่างสุดกำลังที่จะเป็นคริสเตียนที่ดำเนินชีวิตถวายเกียรติแด่พระเจ้า แต่พวกเขาละเลยที่จะมีความสัมพันธ์กับพระองค์
พวกเขาลืมไปว่า ไม่มีใครสามารถทำตัวถวายเกียรติแด่พระเจ้าได้ โดยปราศจากการช่วยเหลือจากพระเจ้า

“… ท่าน​ทั้ง​หลาย​ก็​จะ​เกิดผล​ไม่ได้ นอก​จาก​จะ​เข้า​สนิท​อยู่​ใน​เรา​…” ยน. 15:4

3.# ในฐานะที่เราเป็นลูกของพระเจ้า สมควรทำตัวแบบเดียวกับพระเจ้า คือ ​อด​ทน​ต่อ​ผู้ทำผิด และ​​ให้​อภัย​แก่เขาเหมือนที่พระเจ้าทรง​ให้​อภัย​เรา (ข้อ13)

3.@ พระเจ้าชอบให้เรา อดทนและให้อภัยผู้อื่น
วันนี้ เราได้ทำสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัยแล้วหรือยัง?

4.# คส.3:14 “…ความ​รัก​ผูก​พัน​ทุก​สิ่ง​ไว้​อย่าง​สม​บูรณ์…”
การกระทำใดๆก็ตามที่มีความรักแท้เป็นแรงบันดาลใจ จะได้ผลออกมาอย่างดี
แม้ผลออกมาไม่สมบูรณ์ แต่ด้วยท่าทีแห่งความรักที่ทำนั้น ทำให้สิ่งที่ทำมีค่าอย่างยิ่ง
และโดยความรักนั้นจะนำการพัฒนาไปสู่การกระทำที่สมบูรณ์

4.@ สิ่งที่เราทำในวันนี้ เราทำด้วยความรักที่มีต่อใคร?
ต่อตัวเอง หรือ ต่อพระเจ้า ?
จงทำทุกสิ่งด้วยความรักที่มีต่อพระเจ้า ซึ่งจะไหลล้นออกมาเป็นการกระทำด้วยความรักต่อพี่น้อง และคนอื่นๆ

5.# ใน คส. 3:15-17 สอนเราว่า เราควรจะ
– ​ให้​สันติ​สุข​ของ​พระ​คริสต์​ครองใจของเราอยู่เสมอ
– ​มี​ใจ​ขอบ​พระ​คุณทุกเวลา
– ​ให้​พระ​วจนะ​ของ​พระ​คริสต์​อยู่​ใน​พวก​ท่าน​อย่าง​บริ​บูรณ์
– ​สั่ง​สอน​และ​เตือน​สติ​กัน​และกัน
– ร้อง​นมัส​การและ​ขอบ​พระ​คุณ​พระ​เจ้าบ่อยๆ
– ​ทำ​ทุกสิ่ง ทั้งทาง​วา​จา​และ​การ​ประ​พฤติ โดยเห็นแก่พระ​เยซู​ เป็นหลัก
– ​ขอบ​พระ​คุณ​พระ​เจ้า​พระ​บิดา โดย​ทาง​พระเยซู อยู่เรื่อยไป

5.@ เราควรให้พระคริสต์ทรงครองจิตใจ ทรงควบคุมคำพูด และทรงนำการกระทำของเราอยู่ตลอดเวลา เสมอไป

6.# พระคัมภีร์ สอนท่าทีในการดำเนินชีวิตดังนี้
– ​ภรรยา ​จง​ยอม​ฟัง​สามี​ของ​ตน
– ​สามี​ จง​รัก​ภรรยา​ของ​ตน และ​อย่า​มี​ใจ​ขม​ขื่น​ต่อ​นาง​
– บุตร​ จง​เชื่อ​ฟัง​บิดา​มารดา​ของ​ตน​ทุก​อย่าง
– ​บิดา ​​อย่า​ยั่ว​บุตร​ของ​ตน​ให้​ขัด​เคือง​ใจ
– ทาส จง​เชื่อ​ฟัง​ผู้​ที่​เป็น​นาย​ของ​ตน​ทุก​อย่าง ​ด้วย​น้ำ​ใส​ใจ​จริง ด้วย​ความ​เกรง​กลัว​พระ​เจ้า​

นั่นคือ
ไม่​ว่า​​จะ​ทำ​อะไร ​จงทำเหมือนทำ​ถวายพระเจ้า ทำอย่างเต็มใจ
แล้วทุกอย่างที่ทำก็จะได้รับบำเหน็จจาก​​พระ​​เจ้า​ เพราะสิ่งเหล่านั้นจะถูกนับว่าเป็นการ​ปรนนิบัติ​พระ​คริสต์

6.@ วันนี้ ไม่ว่าเราเป็นใคร อยู่ในฐานะใด หรือกำลังทำอะไร เราสามารถรับใช้พระเจ้าได้ทั้งสิ้น
ด้วยการทำสิ่งที่เราต้องทำนั้นๆ อย่างเต็มใจ เพราะเห็นแก่พระเยซู

คำคม

“ ทุกอย่างที่เราทำ เพราะเห็นแก่พระเยซู เป็นการรับใช้พระเยซู ”