ขุมทรัพย์ 1ทิโมธี 6

ภาพรวม

  • ในบทนี้ อ.เปาโลสอนทิโมธี ให้ยึดมั่นในความเชื่อในข่าวประเสริฐ และสอนคนทั้งหลายให้ดำเนินชีวิตตามความเชื่อในข่าวประเสริฐนั้น

# แนวคิด

@ การประยุกต์ใช้

1# 1ทธ. 6:1-2 สอนว่า ผู้ที่เป็นลูกน้อง สมควรให้เกียรติเจ้า​นาย​ของ​ตน​ทุก​อย่าง เพราะการกระทำเช่นนี้จะทำให้พระเจ้าได้รับเกียรติ
ยิ่งถ้าเจ้านายเป็นคริสเตียน ยิ่งต้องเคารพ เพราะนอกจากถวายเกียรติแด่พระเจ้าแล้ว ยังถือว่าเป็นการปรนนัติลูกของพระเจ้าไปในตัวด้วย

1.@ วันนี้ไม่ได้บังเอิญที่ คนๆนั้นได้มาเป็นหัวหน้าของเรา แต่เป็นการจัดเตรียมของพระเจ้า เพื่อเราจะถวายเกียรติแด่พระองค์ด้วยการให้เกียรติแก่เขา แม้เขาทำตัวไม่น่าจะได้รับเกียรติก็ตาม

2.# ใน 1ทธ. 6:3-4 ชี้ให้เห็นว่า คนที่ไม่ยอมเห็น​ด้วย​กับ​พระ​วจนะ​ของพระ​เจ้า เป็นคนยโส และไม่เข้าใจอะไรเลย
เขาเพียงแต่พยายามหาเรื่องโต้เถียงในเรื่องคำพูดหรือเรื่องที่ไม่มีสาระ เพื่ออวดความเก่งของตนเอง ซึ่งจะนำไปสู่การอิจฉา การทะเลาะ และการไม่ไว้วางใจกัน เสียมากกว่า

2.@ วันนี้ เราเชื่อและยอมรับพระคำของพระเจ้าอย่างจริงใจแล้วหรือยัง?
การโต้เถียงกันในเรื่องหยุมหยิม ของถ้อยคำที่เราพบในพระคัมภีร์ ไม่ทำให้เกิดประโยชน์ฝ่ายวิญญาณ แต่จะทำให้เกิดความแตกแยก ดังนั้นเราไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องกับการโต้เถียงเหล่านั้น

3.# ใน 1ทธ. 6:6 ชี้ให้เห็นว่า การ​อยู่​ใน​ทาง​พระ​เจ้า​จะนำผล​ประ​โยชน์​อย่าง​มากมายมาสู่ชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่พอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่

3.@ การดำเนินชีวิตตามทางของพระเจ้า จะนำพระพรฝ่ายวิญญาณมหาศาลมาสู่ชีวิตของเรา

4.# ใน 1ทธ. 6:7 ชี้ให้เห็นถึงความจริงฝ่ายวิญญาณว่า เรา​ไม่​ได้​นำ​สิ่งใด​ติด​ตัว​เข้า​มา​ใน​โลก และ​เรา​ก็​นำ​อะไร​ออก​ไป​ได้
ดังนั้นทุกสิ่งที่เราได้รับในโลกนี้ ไม่สำคัญอะไรเลย
แต่สิ่งที่เราจะได้รับเมื่อจากโลกนี้ไปต่างหากที่สำคัญอย่างยิ่ง

4.@ วันนี้เรากำลังจดจ่ออยู่กับสิ่งใด?
จดจ่อกับสิ่งที่จะได้รับในโลกนี้ หรือ สิ่งที่จะได้รับหลังจากโลกนี้ไป

5.# ใน 1ทธ. 6:9-10 ชี้ให้เห็นว่า การ​อยาก​รวย​ เป็นกับดักของ​การ​ทดลอง ที่จะดึงคนไปสู่​ความ​ชั่วร้ายและ​โง่เขลา ซึ่ง​ทำ​ให้​มนุษย์​จม​ลง​สู่​ความ​พินาศ​ย่อยยับ
หากใครทุ่มเททุกอย่างเพื่อเงิน จะพลัดหลงไปจากความเชื่อ และพบกับความทุกข์ตรอมตรมมากมาย

5.@ มีเงินได้ หาเงินได้ แต่อย่ารักเงิน
อย่ารักมัน จนยอมทำทุกอย่างเพื่อมัน จนยอมทิ้งทุกสิ่งเพื่อมัน
เงินเป็นทาสที่สัตย์ซื่อ แต่เป็นนายที่โหดร้าย

6.# ใน 1ทธ. 6:11 สอนว่า เรา​ผู้​เป็น​คน​ของ​พระ​เจ้า ควร​หลีก​หนี​จาก​การรักเงินทอง และมุ่ง​หา​ความ​ชอบ​ธรรม​ ความ​เชื่อ ความ​รัก ความ​อด​ทน และ​ความ​อ่อน​สุภาพ จากสถานการณ์ต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา

6.@ ในทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรา เราควรถามตัวเองว่า
“ในเหตุการณ์เราจะพัฒนา การดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรม พัฒนาความเชื่อ พัฒนาความรัก พัฒนาความอดทน หรือพัฒนาความอ่อนสุภาพ ได้อย่างไร?”

7.# ใน 1ทธ. 6:12-14 อ.เปาโลสอนทิโมธี ว่า
ให้​ต่อ​สู้​อย่าง​เต็ม​ที่​เพื่อ​รักษาความ​เชื่อเอาไว้
ให้ยึดมั่นความเชื่อในข่าวประเสริฐที่จะนำไปถึง​ชีวิต​นิรันดร์​ให้​มั่น
ให้​รัก​ษา​คำสั่งในพระคำของพระเจ้าให้ดี​โดย​ไม่​ด่าง​พร้อย และ​ไม่​มี​ที่​ติ จน​กว่า​พระ​เยซู​จะ​เสด็จ​มา

7.@ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเราก็ตาม ให้เรายึดความเชื่อในข่าวประเสริฐเอาไว้ให้มั่นตลอดวันคืนแห่งชีวิตของเรา
จะเสียอะไรก็ให้มันเสียไป แต่อย่าเสียความเชื่อในข่าวประเสริฐ

8.# ใน 1ทธ. 6:17-19 สอนว่า คนที่ร่ำรวยควรให้เขาระวังตัวไม่​ให้​เย่อ​หยิ่ง หรือ​​หวัง​ใน​ทรัพย์​สมบัติที่​ไม่​ยั่ง​ยืน
แต่​ให้​เขา​หวัง​ใน​พระ​เจ้า​ผู้​ประทาน​ทุก​สิ่ง​แก่​เรา​อย่าง​บริ​บูรณ์
และควร​ให้เขา​ทำ​การ​ดี ให้​​มากๆ ให้​เอื้อ​เฟื้อ​เผื่อ​แผ่​และ​แบ่ง​ปันแก่ผู้อื่น
เพราะว่านั่นจะ​เป็น​การ​สะ​สม​ทรัพย์​ไว้​ใน​ภาย​หน้า และยังเป็นการ​ยึด​มั่น​ใน​ชีวิต​ที่​แท้​จริง อีกด้วย

8.@ การรวยไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่ก็ทำให้ง่ายต่อการตกในบาปแห่งความเยิ่อหยิ่งยโส
ดังนั้นยิ่งรวย ก็ต้องยิ่งฝึกถ่อมใจ
การรวยสามารถเป็นพระพรแก่ตัวเราได้ โดยการใช้การรวยของเราไปเป็นพระพรแก่ผู้อื่น

9.# ใน 1ทธ. 6:20-21 สอนว่า เราควร​หลีก​หนี​จาก​​การ​โต้​แย้ง​เรื่องความคิดเห็น ที่บางคนเข้าใจผิดคิด​ว่า นั่น​เป็น​ความ​รู้
เพราะยิ่งทำเช่นนั้น ยิ่งจะทำให้​หลง​ไป​จาก​ความ​เชื่อได้ง่าย

9.@ เราควรหลีกเลี่ยงการโต้เถียงที่ไม่ก่อให้เกิดการเติบโตฝ่ายวิญญาณ

คำคม

“ รักเงินทำลายชีวิต รักพระเจ้าเสริมสร้างชีวิต ”

ขุมทรัพย์ 1ทิโมธี 5

ภาพรวม

  • ในบทนี้ อ.เปาโลแนะนำทิโมธีในการปฏิบัติต่อผู้อื่น และต่อตัวเอง อย่างถวายเกียรติแด่พระเจ้า

# แนวคิด

@ การประยุกต์ใช้

1# ใน 1ทธ. 5:1-2 สอนท่าทีที่เราควรมีต่อพี่น้องคริสเตียน ไว้ดังนี้
– สำหรับผู้อาวุโส จงให้เกียรติพวกเขา ถือพวกเขาเป็นเหมือนบิดา มารดา หากพบว่าพวกเขาทำผิด ก็อย่าต่อว่าตรงๆแต่ควร​ขอ​ร้อง​เขา ​เหมือน​ขอร้องบิดา มารดา ที่กำลังทำผิด
– สำหรับคนรุ่นราวคราวเดียวกัน ให้ถือว่าพวกเขา​เป็น​เหมือน​พี่​หรือ​น้อง รักพวกเขา และมีใจ​บริ​สุทธิ์ต่อพวกเขา

1.@ เราสมควรปฏิบัติต่อพี่น้องฝ่ายวิญญาณ อย่างเหมาะสม เป็นเหมือนดังเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดเดียวกับเรา

2.# ใน 1ทธ. 5:3-16 อ.เปาโลแนะนำทิโมธี ในการปฏิบัตอต่อหญิงม่าย ดังนี้
– จง​ให้​เกียรติเป็นพิเศษ​แก่​บรร​ดา​แม่​ม่าย​ไร้​ที่​พึ่ง ที่ไม่มีลูกหลาน
– จงให้ลูกหลานแม่ม่ายทั้งหลาย เลี้ยงดู แม่ม่ายเหล่านั้นอย่างดี เพราะนั้่นเป็นการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าอย่างหนึ่ง
– จงกำชับให้แม่ม่ายทั้งหลาย เฝ้าวิงวอนและอธิษฐานอยู่เสมอ
– แม่ม่ายที่ต้องการแต่งงานใหม่ ควรสนับสนุนให้พวกเธอแต่งงาน เพื่อจะได้มีสามีคอยดูแล
– แม่ม่ายอายุ 60 ปีขึ้นไป ไม่อยากแต่งงานใหม่ คริสตจักรควรช่วยเหลือ ดูแล พวกเธอ
– จงเตือนให้แม่ม่ายทั้งหลาย อย่าอยู่อย่างเกียจคร้าน และอย่าชอบซุบซิบนินทาผู้อื่น

2.@ หลักการในการดูแล ผู้ยากไร้ คือ ช่วยเหลือคนที่ทำตัวเหมาะสมก่อน ส่วนคนที่ทำตัวไม่เหมาะสมควรตักเตือนพวกเขา เมื่อพวกเขากลับใจแล้ว ก็จึงช่วยเหลือพวกเขา
ด้วยวิธีนี้จะทำให้การช่วยเหลือทางร่างกาย นำไปสู่การพัฒนาจิตวิญญาณของผู้คน

3.# ใน 1ทธ. 5:8 สอนว่า การ​ไม่​เลี้ยง​ดู​ญาติ​พี่น้อง โดย​เฉพาะ​คน​ใน​ครอบ​ครัว​ นั้น เป็นการสิ่งชั่วร้าย และเป็นการกระทำที่สวนทางกับ​ความ​เชื่อในพระเยซูคริสต์

3.@ เราสมควรดูแล พ่อแม่ พี่น้อง ของเราอย่างเต็มที่
และสมควรให้ความช่วยเหลือแก่ญาติๆของเรา ตามกำลังที่เราพอจะทำได้
เพราะการกระทำเช่นนั้น เป็นการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า

4.# ใน 1ทธ. 5:17 สอนเราว่า สมควรให้เกียรติแก่​ผู้​ปก​ครองหรือผู้นำคริสตจักร​ทั้ง​หลาย​ โดย​เฉพาะ​อย่าง​ผู้นำที่ตราก​ตรำ​ใน​การ​เทศ​นา​และ​สั่ง​สอน

4.@ เราสมควรให้เกียรติแก่ผู้ที่พระเจ้ามอบเกียรติแก่พวกเขา

5.# ใน 1ทธ. 5:18 สอนเราว่า “คน​งาน​ก็​สม​ควร​จะ​ได้​รับ​ค่า​จ้าง​ของ​ตน” เป็นการดีที่จะให้สิ่งดีแก่ ผู้ที่ทำงานปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า

5.@ เราสมควรมอบสิ่งดี เช่น คำอธิษฐานเผื่อ ความรัก ความห่วงใย หรือ สิ่งดีใดๆ แก่ผู้นำในคริสตจักรของเราหรือผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณของเรา

6.# ใน 1ทธ. 5:19-20 สอนว่า อย่ายอมรับคำกล่าวหาต่อผู้นำง่าย นอกจากจะมีพยานหลักฐานอย่างชัดเจน
ซึ่งถ้าพบว่าเขาทำผิดจริง ก็ควรเตือนเขา และถ้ายัง​คง​ทำ​บาป​​นั้นต่อไป จง​ตัก​เตือน​เขา​​ต่อ​หน้า​ทุก​คน เพื่อ​คนอื่น​จะ​ได้​เกรง​กลัว​ด้วย

6.@ เราให้เกียรติผู้นำ โดยการไม่ยอมเชื่อคำกล่าวหาต่อท่านง่ายๆ
แต่ขณะเดียวกัน ถ้าผู้นำทำผิดจริงก็จำเป็นที่จะต้องใช้ทุกมาตรการเพื่อช่วยให้เขากลับใจ

7.# ใน 1ทธ. 5:22 แนะนำว่า อย่า​รีบ​แต่ง​ตั้ง​ใครเป็นผู้นำ ไม่เช่นนั้น เราเองจะ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​บาป​ของ​เขาด้วย

7.@ คนที่แต่งตั้งผู้อื่น ต้องรับผิดชอบต่อ ผลของการกระทำของคนที่เขาแต่งตั้งนั้นด้วย

8.# ใน 1ทธ. 5:23 “อย่า​ดื่ม​แต่​เพียง​น้ำ​อีก​ต่อ​ไป จง​ใช้​เหล้า​องุ่น​บ้าง​เล็ก​น้อย เพื่อ​ประ​โยชน์​กับ​กระ​เพาะ​อา​หาร​ของ​ท่าน และ​โรค​ที่​ท่าน​เป็น​อยู่​บ่อยๆ”

ในเวลานั้นทิโมธีเป็นโรคกระเพาะ การรักษาโรคตามวิทยาการสมัยนั้นใช้เหล้าองุ่นเป็นยารักษา
เดิมทิโมธี ไม่ยอมใช้เหล้ารักษา เพราะเกรงจะไม่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า
แต่อ.เปาโล แนะนำเขาว่า ควรดื่มยา(เหล้าองุ่นบ้าง) เพื่อจะได้หายดี

8.@ เราควรดูแลรักษาสุขภาพของเราให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันมียาที่ใช้ในการรักษาโรคแล้ว ดังนั้นใช้ยาแทนเหล้า น่าจะเหมาะสมกว่า

9.# ใน 1ทธ. 5:24-25 สอนว่า บาป​และความดี ของทุกคน ในที่สุด​ก็​จะปรา​กฏ​ชัด
เพียงสำหรับบางคนปรากฏก่อน แต่ของบางคนจะตามมาปรากฏภายหลัง แม้จะช้ากว่าแต่ก็จะปรากฏแน่นอน

9.@ แม้วันนี้คนชั่วยังลอยนวล แต่ในไม่ช้าความชั่วของเขาจะปรากฏแจ้ง
ในอีกมุมหนึ่ง วันนี้ถ้าเรายังทำชั่วอยู่ ควรรีบกลับใจก่อนที่มันจะถูกทำให้ปรากฏแจ้ง

แม้วันนี้ความดีที่เราทำยังไม่มีใครรู้ แต่ในไม่ช้าก็จะปรากฏแจ้งอย่างแน่นอน

คำคม

“ จงกลับใจ ก่อนบาปจะปรากฏ
จงสัตย์ซื่อต่อไป ขณะที่ความดียังไม่ปรากฏ ”

ขุมทรัพย์ 1ทิโมธี 4

ภาพรวม

  • ในบทนี้ อ.เปาโลสอนทิโมธี ให้ยืนหยัดต่อต้านคำสอนเท็จ และขณะเดียวกันตัวของทิโมธีเอง นอกจากจะสอนอย่างถูกต้องแล้ว ก็ต้องทำตัวให้เป็นแบบอย่างให้แก่ผู้อื่นด้วย

# แนวคิด

@ การประยุกต์ใช้

1# ใน 1ทธ. 4:1-3 เตือนว่า ต่อ​ไป​ภาย​หน้า​จะ​มี​บาง​คน​ละ​ทิ้ง​ความ​เชื่อ โดย​หัน​ไป​เชื่อ​ฟัง​​คำ​สอน​เท็จ โดยสอนว่าถ้าจะได้รับความรอด ต้องไม่แต่งงาน หรือห้ามกินอาหารบางอย่าง

1.@ มารซาตานจะพยายามทุกวิถีทางให้เราหันออกไปจากความเชื่อในข่าวประเสริฐ
เราจำเป็นต้องยึดความเชื่อในข่าวประเสริฐไว้ให้มั่น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ยังคงเชื่อว่าถ้าเราเชื่อวางใจในพระเยซูในการรอดพ้นบาปของเรา ต้อนรับพระเยซูเข้ามาเป็นพระเจ้า เป็นเจ้านายในชีวิตของเราจริงๆแล้ว เราจะได้รับความรอดอย่างแน่นอน

2.# ใน 1ทธ. 4:5 กล่าวว่า อาหารทั้งหลายสามารถได้​รับ​การ​ชำระ​ให้​บริ​สุทธิ์​ได้ ด้วย​พระ​วจนะ​ของ​พระ​เจ้า​และ​คำ​อธิษ​ฐาน

2.@ การทานอาหารด้วยท่าทีขอบพระคุณพระเจ้า จะทำให้อาหารนั้นเป็นพระพรสำหรับเรา
การทานอาหารด้วยท่าทีเชื่อฟังทำตามพระคำของพระเจ้า จะทำให้อาหารนั้นนำความเจริญมาสู่ชีวิตของเรา ทั้งร่างกายจิตใจและจิตวิญญาณ

3.# ใน 1ทธ. 4:6 กล่าวว่า คนที่​ให้​คำ​แนะ​นำที่ดีในทางของพระเจ้าแก่ผู้อื่น ผู้นั้น​ก็กำลัง​เป็น​ผู้​ปรน​นิบัติ​ที่​ดี​ของ​พระ​เยซู​คริสต์
ซึ่งคำแนะนำที่ดีนั้น ได้แก่ ​ถ้อย​คำ​แห่ง​ความ​เชื่อ และ​หลัก​คำ​สอน​อัน​ดี​ที่สอดคล้องกับชีวิตของผู้สอน​นั้น

3.@ ผู้รับใช้ที่ดี ไม่ใช่เพียงแต่ต้องมีคำสอนที่เต็มไปด้วยความเชื่อเท่านั้น แต่ต้องมีชีวิตสอดคล้องกับคำสอนนั้นด้วย

4.# ใน 1ทธ. 4:7=8 สอนเราให้ ​ฝึก​ตน​ใน​ทาง​พระ​เจ้า เพราะจะเป็นประโยชน์ทั้งในชีวิตปัจจุบันและในชีวิตนิรันดร์ในอนาคตด้วย

4.@ เราควรใช้เวลาที่เหลืออยู่ในโลกนี้ เพื่อพัฒนาชีวิตฝ่ายวิญญาณ เพื่อเตรียมสำหรับอนาคต
สามารถรับฟังเพิ่มเติมได้ ที่นี่ https://youtu.be/sYGD427zk_I

5.# ใน 1ทธ. 4:10 ชี้ให้เห็นว่า การมี​ความ​หวัง​ใน​พระ​เจ้า​ ทำให้สามารถ​ตราก​ตรำ​ทำ​งาน​และ​ทน​สู้ ในการรับใช้พระเจ้าได้เป็นอย่างดี

5.@ การยึดมั่นในความหวังในพระเจ้าอยู่เสมอ จะเป็นแรงผลักดันให้เราสามารถยืนหยัดและอดทนต่อสถานการณ์ต่างๆที่เราต้องพบเจอได้เป็นอย่างดี

6.# ใน 1ทธ. 4:12 อ.เปาโลสอนทิโมธีว่า แม้ว่าทิโมธียังอายุไม่มากนัก(ประมาณ 30ปี) แต่​ก็สามารถเป็นที่ยอมรับได้ด้วยการดำเนินชีวิตเป็นแบบ​อย่างดี​แก่​ผู้​เชื่อคนอื่น ​ทั้งใน​ด้าน​คำพูด​และ​การกระทำ​ โดยเฉพาะในเรื่อง​ความ​รัก ความ​เชื่อ และ​ความ​บริ​สุทธิ์

6.@ การเป็นผู้นำในฝ่ายวิญญาณหรือผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ การดำเนินชีวิตที่เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น

วันนี้ เมื่อคนอื่นเห็นการดำเนินชีวิตของเราแล้ว พวกเขาสรรเสริญพระเจ้า หรือ พวกเขาดูถูกพระเจ้า?

7.# ใน 1ทธ. 4:14 สอนว่า เราไม่ควร​ละ​เลย​ของ​ประ​ทาน​ที่​มี​อยู่​ใน​ตัว​เรา

7.@ วันนี้ เราได้ใช้ของประทาน และความสามารถที่พระเจ้าประทานให้แก่เรา เพื่อประโยชน์สำหรับแผ่นดินของพระเจ้ามากเพียงใด?
ยังมีความสามารถที่พระเจ้าให้แก่เราอะไรบ้าง ที่เรายังเก็บเอาไว้ไม่ได้เอามาใช้ หรือแม้เอามาใช้ ก็เฉพาะเพื่อประโยชน์ของตัวเราเองเท่านั้น?

8.# ใน 1ทธ. 4:15 สอนว่า เมื่อเรามีโอกาสได้รับใช้พระเจ้าในด้านใดด้านหนึ่ง เราควร​ทุ่มเทปฏิ​บัติ​หน้า​ที่​เหล่า​นี้​อย่างเต็มที่

8.@ วันนี้ เราทุ่มเทได้มากกว่านี้หรือไม่ ในการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า?

9.# ใน 1ทธ. 4:16 สอนว่า เราต้องเอา​ใจ​ใส่​ทั้ง​การดำเนินชีวิตของเรา​และ​คำ​สอน​ของเรา เพราะ​เมื่อ​ทำ​เช่น​นี้​แล้ว เรา​จะ​​ช่วย​ทั้ง​ตัว​เราเอง และ​ทุก​คน​ที่​ฟัง​เรา ให้พ้นจากกับดักของศัตรูได้

9.@ เมื่อเราได้มีโอกาสสอนจงเตรียมอย่างดีที่สุด สอนให้ดีที่สุด ขณะเดียวกันจงดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับคำสอนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ไม่งั้น ตัวเราเองจะสะดุดล้มลง และคนที่ฟังเราก็จะพากันสะดุดล้มลงตามไปด้วย

คำคม

“ สอนคนอื่น แต่ตัวเองไม่ทำตาม เป็นการวางกับดักทำร้ายทั้งตนเองและคนอื่น ”

ขุมทรัพย์ 1ทิโมธี 3

ภาพรวม

  • ในบทนี้ อ.เปาโลสอนทิโมธี เรื่องคุณสมบัติของผู้ปกครองหรือผู้นำคริสตจักร และมัคนายก เพื่อให้ทิโมธีใช้เป็นหลักการในการแต่งตั้งผู้นำเหล่านี้

# แนวคิด

@ การประยุกต์ใช้

1# ใน 1ทธ. 3:1 สอนว่า การ​ปรารถ​นา​ทำหน้า​ที่​ผู้​ปก​ครอง​ดูแล​คริสต​จักร หมายถึงเป็นผู้นำในคริสตจักร เป็นความ​ปรารถ​นา​กิจ​การ​งาน​ที่​ประ​เสริฐ
เพราะว่าผู้นำคริสตจักรในเวลานั้น ต้องตกอยู่ในอันตรายจากพวกที่ข่มเหงและต่อต้านคริสตจักร และยังต้องทำงานรับใช้อย่างยากลำบาก

1.@ หากเราปรารถนาจะรับใช้พระเจ้าอย่างจริงใจ ไม่ว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับเราไม่สำคัญเลย ให้เรารู้ตัวว่า เรากำลังปรารถนาทำในสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย

บางคนอาจหาว่า เราอยากได้หน้า อยากดัง อยากเป็นใหญ่ หรืออะไรก็ช่าง
พระเจ้าผู้ทรงชันสูตรใจทรงทราบดีที่สุดว่า แรงจูงใจที่แท้จริงของเราเป็นอย่างไร

2.# ใน 1ทธ. 3:2-7 กล่าวถึงคุณสมบัติที่ต้องมีในผู้นำคริสตจักรไว้ ดังนี้
– ​เป็น​คน​ที่​ไม่​มี​ที่​ติ >> ไม่มีเรื่องทำผิดร้ายแรงใดๆ
– เป็น​สามี​ของ​หญิง​คน​เดียว >> มีภรรยาได้ทีละ 1 คน จึงรวมผู้ที่ภรรยาเสียชีวิตแล้วแต่งงานใหม่ไว้ด้วย (และข้อนี้ไม่ได้ห้ามคนโสดเป็นผู้นำคริสตจักร)
– รู้​จัก​ประ​มาณ​ตน >> ไม่ทำอะไรเกินตัว
– มี​สติ​สัมป​ชัญญะ >> สามารถ​ควบคุม​ตนเอง​ได้ดี
– เป็น​คน​น่า​นับ​ถือ >> ของทั้งคนในคริสตจักรและนอกคริสตจักร ไม่ได้หมายถึงฐานะแต่หมายถึงความประพฤติ
– มี​อัธยา​ศัย​ต้อนรับ​แขก >> สมัยนั้นเมื่อคริสเตียนเดินทางไปเมืองต่างๆมักไม่ไปพักตามโรงแรมเพราะมักเสริฟอาหารไหว้รู้เคารพ จึงนิยมพักตามบ้านพี่น้องคริสเตียนด้วยกัน
– เหมาะ​ที่​จะ​เป็น​อาจารย์ >> สามารถสั่งสอนพระคำของพระเจ้าแก่ผูู้อื่นได้
– ไม่​ดื่ม​สุรา​มึน​เมา >> ตามวัฒธรรมสมัยนั้นดื่มได้ แต่ห้ามเมา ส่วนตามวัฒนธรรมไทยสมัยนี้ไม่ควรดื่มเลยจะดีกว่าเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า
– ไม่ชอบ​ความ​รุน​แรง >> สุภาพอ่อนน้อม
– ผ่อน​หนัก​ผ่อน​เบา >> อดทนต่อผู้อื่น
– ไม่​ชอบ​การ​วิวาท >> หลีกได้เป็นหลีก เลี่ยงได้เป็นเลี่ยง จากการทะเลาะเบาะแว้ง
– ไม่​เป็น​คน​เห็น​แก่​เงิน >> โลภ หรือ ให้ความสำคัญแก่เงินมากกว่าสิ่งอื่น
– ดูแลลูกๆของตนได้ดี >> จนพวกเขามีความอ่อนน้มถ่อมตน
– ต้อง​ไม่​ใช่​คน​ที่​เพิ่ง​กลับ​ใจ​ใหม่ >> เพื่อจะได้ไม่ตกในการทดลองของความเย่อหยิ่ง
– ​มี​ชื่อ​เสียง​ดี​ใน​หมู่​คน​ภาย​นอก >> เพื่อไม่ให้คนอื่นดูถูกพระเจ้าเพราะพฤติกรรมของเขา

2.@ หากเราเป็นผู้นำในคริสตจักร เราควรพัฒนาตนเอง ให้เข้าใกล้มาตรฐานนี้ให้มากยิ่งขึ้นทุกวันๆ
หากเราเป็นผู้ตามในคริสตจักร เราควรคอยส่งเสริมและหนุนใจผู้นำของเรา ให้พัฒนาชีวิตให้ใกล้เคียงคุณสมบัติดังกล่าวให้มากยิ่งขึ้นอยู่เสมอ

3.# ใน 1ทธ. 3:8-12 ได้พูดถึงคุณสมบัติมัค​นา​ยก​ไว้ดังนี้
– ​เป็น​คน​น่า​นับถือ
– ไม่​เป็น​คน​พูด​จา​กลับ​กลอก
– ไม่​ดื่ม​สุรา​มึน​เมา
– ไม่​เป็น​คน​โลภ​เห็น​แก่​ได้
– เป็น​คน​ที่​ยึด​มั่น​ใน​ข้อ​ล้ำ​ลึก​ของ​ความ​เชื่อ ด้วย​มโน​ธรรม​ที่​บริ​สุทธิ์
– เป็นคนที่ผ่านการ​ทด​สอบ​​แล้ว
– ไม่​ใส่​ร้าย​คน​อื่น
– รู้​จัก​ประ​มาณ​ตน
– ซื่อ​สัตย์​ใน​ทุกๆ เรื่อง
– เป็น​สามี​ของ​หญิง​คน​เดียว
– ดูแลบุตรและคนในครอบ​ครัว​ของ​ตน​ได้​ดี

3.@ นี่เป็นคุณสมบัติของคนที่มีส่วนในการรับใช้ แบบไม่ใช่ผู้รับใช้เต็มเวลา
หากเราปรารถนาที่จะรับใช้พระเจ้า เราสมควรพัฒนาคุณสมบัติเหล่านี้ให้เกิดขึ้นในชีวิตของเรา มากขึ้นๆทุกๆวัน

4.# ใน 1ทธ. 3:16 อธิบายถึง ​ความ​ล้ำ​ลึก​แห่ง​ความ​เชื่อ​อันยิ่ง​ใหญ่​มาก ว่า ความล้ำลึกนั้น ก็คือ​
– พระเยซูทรงเสด็จมาบังเกิด​เป็น​มนุษย์
– พระเยซู ทรง​ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเราและได้​รับ​การ​พิสูจน์​ว่า​ชอบ​ธรรมด้วยการเป็นขึ้นมาโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์
– เรื่องของพระเยซู​ได้​ถูก​ประ​กาศ​ออก​ไป​ยัง​ทั่วโลก
– พระเยซู ทรง​ได้​รับ​การ​เชื่อ​วางใ​จ​จาก​คน​มาก​มาย​ใน​โลก
– พระเยซู​ทรงถูก​รับ​ขึ้น​ไปสู่สวรรค์พร้อมด้วยได้รับสิทธิอำนาจสูงสุด สามารถอภัยบาปมนุษย์ได้และพิพากษามารซาตานและเหล่าวิญญาณชั่วที่ทำลายมนุษย์

4.@ ความล้ำลึกนี้ทำให้เรารู้ว่า โดยการเชื่อวางใจในพระเยซูตามข่าวประเสริฐที่เราได้ยินนั้น จะทำให้เราได้รับความชอบธรรมของพระเยซู และรับการอภัยบาปทั้งสิ้น และเข้าส่วนในพระสิรของพระเจ้าได้

คำคม

“ ความปรารถนารับใช้พระเจ้า เป็นความปรารถนาที่ประเสริฐ ”

ขุมทรัพย์ 1ทิโมธี 2

ภาพรวม

  • ในบทนี้ อ.เปาโล สอนทิโมธีให้สอนคริสเตียนที่เขาดูแล ให้อธิษฐานและดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม

# แนวคิด

@ การประยุกต์ใช้

1# ใน 1ทธ. 2:1-3 สอนเรา สิ่งต่อไปนี้เป็นสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย คือ การอธิษฐาน​เผื่อ และ​ขอบ​พระ​คุณ
– สำหรับ​คนทั้งหลายที่เราได้รู้จักหรือพบเจอ
– สำหรับกษัตริย์ทั้งของชาติของเรา และของชาติอื่น
– สำหรับผู้ที่มีตำแหน่งสูงทั้งหลาย ทั้งด้านการเมือง ด้านการปกครอง ด้านการทหาร หรือด้านอื่นๆ รวมถึงผู้เป็นหัวหน้าของเรา ในที่ทำงาน ในชุมชน และในคริสตจักร

ด้วยหวังว่า เราจะได้สามารถดำเนินชีวิตอย่างสงบและมีสันติ มุ่งเน้นการประกาศข่าวประเสริฐ การพัฒนาฝ่ายวิญญาณ

1.@ เราควรขอบคุณพระเจ้าและอธิษฐานเผื่อ ทุกคนที่เราได้รู้จักและพบเจอ เพราะว่า คนเหล่านั้นอยู่ในแผนการของพระเจ้า ที่จัดเตรียมไว้เพื่อประโยชน์สำหรับชีวิตของเรา

2.# ใน 1ทธ. 2:4-6 พระเจ้า​ประ​สงค์​ให้​ทุก​คน​ได้​รับ​ความ​รอด​และ​รู้​ความ​จริง ว่า มีพระเจ้าองค์เดียว และพระเยซูเป็นผู้เดียวที่สามารถช่วยให้มนุษย์กลับคืนดีกับพระเจ้าได้ โดยการที่พระเยซูประทานชีวิตของพระองค์เองเพื่อเป็นค่าไถ่บาปของมนุษย์ทุกคน

2.@ พระเจ้าประสงค์ให้ทุกคนได้รับความรอดพ้นนรก แต่พวกเขาจำเป็นต้องรู้ความจริงแห่งข่าวประเสริฐจึงจะสามารถรอดได้
เราผู้เป็นบุตรของพระเจ้า ควรทำให้พระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จ ด้วยการประกาศข่าวประเสริฐแก่ทุกคน

3.# ใน 1ทธ. 2:8 อ.เปาโลแนะนำให้ พวก​ผู้ชาย​ทั้งหลายควรเป็นแบบอย่างในการ​อธิษ​ฐาน​อยู่เสมอและมีชีวิตที่บริสุทธิ์
ส่วนพวกผู้หญิงควรเป็นแบบอย่างในการทำการดี และสุภาพอ่อนน้อม ไม่ทำเหมือนชาวโลกที่พยายามแต่งตัวด้วยเครื่องประดับแพงๆเพื่ออวดร่ำอวดรวย

3.@ จุดอ่อนของผู้ชายบางคน คือ ไม่ค่อยอธิษฐาน และดำเนินชีวิตไม่เป็นแบบอย่าง
จุดอ่อนของผู้หญิงบางคน คือ เน้นความงามจากสิ่งภายนอกมากกว่าภายใน

ดังนั้นเราควรอธิษฐานเสมอ ดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่าง และพัฒนาจิตใจและจิตวิญญาณอยู่เสมอ

คำคม

“ การอธิษฐานเผื่อใคร ไม่ขึ้นกับคุณภาพชีวิตของเขา
แต่ขึ้นกับคุณภาพฝ่ายวิญญาณของเรา ”

ขุมทรัพย์ 1ทิโมธี 1

ภาพรวม

  • อ.เปาโล เขียนจดหมายฉบับนี้ถึงทิโมธี สาวกของเขา ผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจาก อ.เปาโล ให้ดูแลคริสตจักรในเมืองเอเฟซัส ในช่วงเวลานั้น เพื่อให้ทิโมธี​เข้าใจ​บท​บาทและ​หน้า​ที่​ความ​รับ​ผิด​ชอบ​ของ​เขา และ​แนะนำทิโมธีในการจัด​การ​แก้ไข​ปัญหา​ต่างๆของคริสตจักร โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​เรื่อง​คำ​สอน​เท็จ
  • ในบทนี้ อ.เปาโล สอนทิโมธีให้ระมัดระวังคำสอนเท็จและให้ยึดความเชื่อในข่าวประเสริฐเอาไว้ให้มั่น

# แนวคิด

@ การประยุกต์ใช้

1# ใน 1ทธ. 1:4 ชี้ให้เห็นว่า มีบางเรื่องก่อ​ความ​ขัดแย้ง​มาก​กว่า​การ​ทำ​งาน​ของ​พระ​เจ้า​โดย​ความ​เชื่อ

1.@ บางครั้งมีกับดัก ที่จะดึงเราออกจากความสนใจใส่ใจในแก่นแท้ของข่าวประเสริฐ ไปใส่ใจกับเรื่องหยุมหยิมต่างๆ เช่นพิธีกรรมบางอย่าง หรือประสบการณ์บางอย่าง หรือกิจกรรมบางอย่าง
เราควรระมัดระวังตัวที่จะไม่หลุดออกไปจากแก่นแท้ของข่าวประเสริฐ และแก่นแท้ของพระคำของพระเจ้า

2.# ใน 1ทธ. 1:5 กล่าวถึง 3 สิ่งที่เราต้องยึดไว้ให้มั่น คือ
– ความ​รัก​ที่​มา​จาก​ใจ​ที่​บริ​สุทธิ์
– ความรักที่มาจาก​มโน​ธรรม​ที่​ดี
– ​ความรักที่มาจาก​ความ​เชื่อ​ที่​จริง​ใจ

2.@ ความรักเป็นสิ่งสำคัญมาก แต่ แรงผลักดันของความรักนั้นสำคัญยิ่งกว่า

ความรักแบบพระเจ้า ต้องมีแรงผลักมาจาก
ใจที่บริสุทธิ์ไม่ได้หวังผลตอบแทน
ใจที่รู้ตัวว่าเราเป็นลูกของพระเจ้าจึงอยากจะรักเหมือนพระเจ้ารัก
และ ใจที่มีความเชื่อแท้ในพระคำของพระเจ้าจึงสะท้อนออกมาเป็นการกระทำด้วยความรักแท้

3.# ใน 1ทธ. 1:9-10 ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สิ่งเหล่านี้คือบาปที่พระเจ้าเกลียดชัง ได้แก่
– การเป็นคนไม่ทำตามพระคำของพระเจ้า
– การเป็นคน​ดื้อด้าน
– การเป็นคน​ชั่ว​ร้าย
– การเป็นคนที่​ไม่​นับถือ​พระ​เจ้า
– การเป็นคน​ที่​ฆ่า​พ่อ​ฆ่า​แม่
– การเป็นฆาตกร
– การเป็นคน​ล่วง​ประ​เวณี
– การเป็นคน​รัก​ร่วม​เพศ​
– การเป็นโจร​ลัก​พา​ตัว
– การเป็นคน​โก​หก
– การเป็นคนใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น
– การเป็นคนที่​ขัด​กับ​คำสอน​ที่​ถูกต้อง

3.@ เราผู้เป็นลูกของพระเจ้า ไม่สมควรเดินในทางที่พระเจ้าทรงเกลียดชัง
เพียงแค่เราตัดสินใจจะกลับใจใหม่อย่างจริงใจ
แล้วทูลขอความช่วยเหลือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้วยความเชื่อ
เราจะสามารถหลุดพ้นจากวิถีเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน

4.# ใน 1ทธ. 1:13-16 อ.เปาโล อธิบายว่า เมื่อก่อนเขาเป็นคนที่ทำสิ่งชั่วร้ายยิ่งนัก แต่โดยพระคุณของพระเจ้า
พระองค์ได้ทรงสำแดงความอดกลั้นพระทัยต่ออ.เปาโล เพื่อให้เป็นแบบอย่างแก่คนทั้งหลายว่า ชั่วขนาดนี้พระเจ้าก็ยังเมตตา

4.@ ไม่ว่าเราจะเคยผิดพลาดพลั้งบาปมากเพียงใด
หากเรากลับใจใหม่ กลับมาหาพระเยซู
พระองค์ทรงฤทธิ์สามารถทำให้ความผิดพลาดของเรานั้นกลายเป็นพระพรทั้งต่อตัวเรา และต่อผู้คนมากมายได้

5.# ใน 1ทธ. 1:19 เตือนว่า หากใครละทิ้ง ความเชื่อและ จิตสำนึกว่าตนชอบธรรมโดยพระเยซูคริสต์ แล้ว
คนนั้นความเชื่อของเขาจะอับปางลง

5.@ หากเราไม่ยึดความเชื่อไว้ เราจะสูญเสียความเชื่อนั้นไป
หากเราละทิ้งความเชื่อในข่าวประเสริฐ ว่าเราชอบธรรมได้โดยพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ เราจะสูญเสียความเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ไป
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จงยึดความเชื่อไว้ให้มั่น

คำคม

“ วิธีรักษาความเชื่อเอาไว้ คือ จงยึดความเชื่อนั้นให้มั่น ”