ภาพรวม
- ในบทนี้ อ.เปาโลสอนทิโมธี เรื่องคุณสมบัติของผู้ปกครองหรือผู้นำคริสตจักร และมัคนายก เพื่อให้ทิโมธีใช้เป็นหลักการในการแต่งตั้งผู้นำเหล่านี้
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1# ใน 1ทธ. 3:1 สอนว่า การปรารถนาทำหน้าที่ผู้ปกครองดูแลคริสตจักร หมายถึงเป็นผู้นำในคริสตจักร เป็นความปรารถนากิจการงานที่ประเสริฐ
เพราะว่าผู้นำคริสตจักรในเวลานั้น ต้องตกอยู่ในอันตรายจากพวกที่ข่มเหงและต่อต้านคริสตจักร และยังต้องทำงานรับใช้อย่างยากลำบาก
1.@ หากเราปรารถนาจะรับใช้พระเจ้าอย่างจริงใจ ไม่ว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับเราไม่สำคัญเลย ให้เรารู้ตัวว่า เรากำลังปรารถนาทำในสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย
บางคนอาจหาว่า เราอยากได้หน้า อยากดัง อยากเป็นใหญ่ หรืออะไรก็ช่าง
พระเจ้าผู้ทรงชันสูตรใจทรงทราบดีที่สุดว่า แรงจูงใจที่แท้จริงของเราเป็นอย่างไร
2.# ใน 1ทธ. 3:2-7 กล่าวถึงคุณสมบัติที่ต้องมีในผู้นำคริสตจักรไว้ ดังนี้
– เป็นคนที่ไม่มีที่ติ >> ไม่มีเรื่องทำผิดร้ายแรงใดๆ
– เป็นสามีของหญิงคนเดียว >> มีภรรยาได้ทีละ 1 คน จึงรวมผู้ที่ภรรยาเสียชีวิตแล้วแต่งงานใหม่ไว้ด้วย (และข้อนี้ไม่ได้ห้ามคนโสดเป็นผู้นำคริสตจักร)
– รู้จักประมาณตน >> ไม่ทำอะไรเกินตัว
– มีสติสัมปชัญญะ >> สามารถควบคุมตนเองได้ดี
– เป็นคนน่านับถือ >> ของทั้งคนในคริสตจักรและนอกคริสตจักร ไม่ได้หมายถึงฐานะแต่หมายถึงความประพฤติ
– มีอัธยาศัยต้อนรับแขก >> สมัยนั้นเมื่อคริสเตียนเดินทางไปเมืองต่างๆมักไม่ไปพักตามโรงแรมเพราะมักเสริฟอาหารไหว้รู้เคารพ จึงนิยมพักตามบ้านพี่น้องคริสเตียนด้วยกัน
– เหมาะที่จะเป็นอาจารย์ >> สามารถสั่งสอนพระคำของพระเจ้าแก่ผูู้อื่นได้
– ไม่ดื่มสุรามึนเมา >> ตามวัฒธรรมสมัยนั้นดื่มได้ แต่ห้ามเมา ส่วนตามวัฒนธรรมไทยสมัยนี้ไม่ควรดื่มเลยจะดีกว่าเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า
– ไม่ชอบความรุนแรง >> สุภาพอ่อนน้อม
– ผ่อนหนักผ่อนเบา >> อดทนต่อผู้อื่น
– ไม่ชอบการวิวาท >> หลีกได้เป็นหลีก เลี่ยงได้เป็นเลี่ยง จากการทะเลาะเบาะแว้ง
– ไม่เป็นคนเห็นแก่เงิน >> โลภ หรือ ให้ความสำคัญแก่เงินมากกว่าสิ่งอื่น
– ดูแลลูกๆของตนได้ดี >> จนพวกเขามีความอ่อนน้มถ่อมตน
– ต้องไม่ใช่คนที่เพิ่งกลับใจใหม่ >> เพื่อจะได้ไม่ตกในการทดลองของความเย่อหยิ่ง
– มีชื่อเสียงดีในหมู่คนภายนอก >> เพื่อไม่ให้คนอื่นดูถูกพระเจ้าเพราะพฤติกรรมของเขา
2.@ หากเราเป็นผู้นำในคริสตจักร เราควรพัฒนาตนเอง ให้เข้าใกล้มาตรฐานนี้ให้มากยิ่งขึ้นทุกวันๆ
หากเราเป็นผู้ตามในคริสตจักร เราควรคอยส่งเสริมและหนุนใจผู้นำของเรา ให้พัฒนาชีวิตให้ใกล้เคียงคุณสมบัติดังกล่าวให้มากยิ่งขึ้นอยู่เสมอ
3.# ใน 1ทธ. 3:8-12 ได้พูดถึงคุณสมบัติมัคนายกไว้ดังนี้
– เป็นคนน่านับถือ
– ไม่เป็นคนพูดจากลับกลอก
– ไม่ดื่มสุรามึนเมา
– ไม่เป็นคนโลภเห็นแก่ได้
– เป็นคนที่ยึดมั่นในข้อล้ำลึกของความเชื่อ ด้วยมโนธรรมที่บริสุทธิ์
– เป็นคนที่ผ่านการทดสอบแล้ว
– ไม่ใส่ร้ายคนอื่น
– รู้จักประมาณตน
– ซื่อสัตย์ในทุกๆ เรื่อง
– เป็นสามีของหญิงคนเดียว
– ดูแลบุตรและคนในครอบครัวของตนได้ดี
3.@ นี่เป็นคุณสมบัติของคนที่มีส่วนในการรับใช้ แบบไม่ใช่ผู้รับใช้เต็มเวลา
หากเราปรารถนาที่จะรับใช้พระเจ้า เราสมควรพัฒนาคุณสมบัติเหล่านี้ให้เกิดขึ้นในชีวิตของเรา มากขึ้นๆทุกๆวัน
4.# ใน 1ทธ. 3:16 อธิบายถึง ความล้ำลึกแห่งความเชื่ออันยิ่งใหญ่มาก ว่า ความล้ำลึกนั้น ก็คือ
– พระเยซูทรงเสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์
– พระเยซู ทรงทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเราและได้รับการพิสูจน์ว่าชอบธรรมด้วยการเป็นขึ้นมาโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์
– เรื่องของพระเยซูได้ถูกประกาศออกไปยังทั่วโลก
– พระเยซู ทรงได้รับการเชื่อวางใจจากคนมากมายในโลก
– พระเยซูทรงถูกรับขึ้นไปสู่สวรรค์พร้อมด้วยได้รับสิทธิอำนาจสูงสุด สามารถอภัยบาปมนุษย์ได้และพิพากษามารซาตานและเหล่าวิญญาณชั่วที่ทำลายมนุษย์
4.@ ความล้ำลึกนี้ทำให้เรารู้ว่า โดยการเชื่อวางใจในพระเยซูตามข่าวประเสริฐที่เราได้ยินนั้น จะทำให้เราได้รับความชอบธรรมของพระเยซู และรับการอภัยบาปทั้งสิ้น และเข้าส่วนในพระสิรของพระเจ้าได้
คำคม
“ ความปรารถนารับใช้พระเจ้า เป็นความปรารถนาที่ประเสริฐ ”