ภาพรวม
- ในบทนี้ผู้เขียนพระธรรมฮีบรู ชี้ให้เห็นว่า ถึงแม้ว่าในอดีตประชากรของพระเจ้าจะผิดพลาดไม่เชื่อวางใจในพระเจ้า แต่วันนี้พระเจ้าประทานโอกาสอีกครั้ง ให้ประชากรของพระองค์หันมาไว้วางใจในพระองค์ แล้วเข้าสู่การหยุดพักชั่วนิรันดร์ตามที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาเอาไว้
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1# ใน ฮบ. 4:1-3 ชี้ให้เห็นว่า พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะให้เราเข้าสู่การหยุดพักของพระองค์
แต่ก็มีบางคนไม่ได้เข้าสู่การหยุดพักเพราะพวกเขาไม่เชื่อ ดังนั้นข่าวแห่งพระสัญญานั้นจึงไม่มีประโยชน์อะไรแก่เขาเลย
แต่เราทั้งหลายจะได้เข้าสู่การหยุดพักนั้น โดยความเชื่อ ดังนั้นเราต้องระมัดระวัง ความเชื่อนี้ไว้ ตลอดวันคืนแห่งชีวิตของเรา
1.@ พระสัญญาของพระเจ้าจะเป็นประโยชน์ต่อเรา ก็ต่อเมื่อเราเชื่อ
วันนี้ เราเชื่อมั่นในสิ่งพระเจ้าทรงสัญญาไว้กับเรา ในพระคัมภีร์จริงๆหรือไม่?
2.# ใน ฮบ. 4:3 อธิบายว่า งานของพระเจ้านั้นเสร็จสิ้นตั้งแต่การสร้างโลกแล้ว
พระเจ้าผู้ทรงรู้ตอนจบตั้งแต่เริ่มต้น ได้ทรงจัดเตรียมการหยุดพักไว้แล้วตั้งแต่เริ่มสร้างโลก
2.@ พระเจ้าทรงเตรียมหนทางที่ดีเลิศไว้สำหรับเราแล้ว เพียงแต่เราเชื่อวางใจในพระองค์ เราก็กำลังเดินไปในเส้นทางนั้นอยู่
3.# ใน ฮบ. 4:4-11 ชี้ให้เห็นว่า ในสมัยของโมเสสและโยชูวา คนอิสราเอลไม่ได้เข้าสู่การหยุดพัก เพราะเขาไม่เชื่อซึ่งแสดงออกมาเป็นการไม่เชื่อฟัง
ดังนั้น พระเจ้าจึงกำหนดกำหนดอีกวันหนึ่งไว้ คือ “วันนี้” เพื่อให้เราทั้งหลายผู้เป็นประชากรของพระองค์ได้เข้าสู่การหยุดพักโดยการเชื่อวางใจในพระเยซู
ดังนั้น ให้เราทั้งหลายพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะเข้าสู่การหยุดพักน้้น โดยยึดมั่นความเชื่อวางใจในพระเยซูไว้ตลอดชั่วชีวิตของเรา
3.@ ในการดำเนินชีวิตติดตามพระเจ้า สิ่งที่จำเป็นต้องยึดให้มั่นจนวันตาย คือ ความเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ตามข่าวประเสริฐที่ปรากฏในพระคำของพระเจ้า
วันนี้ หากมีสิ่งใดที่กำลังทำลายหรือกัดกิน ความเชื่อนี้ของเรา สิ่งนั้นกำลังเป็นศัตรูตัวร้ายสำหรับการได้เข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ของเรา จงอย่ายินดีต้อนรับมันให้อยู่ในความคิดหรือชีวิตของเราอีกต่อไป ไล่มันไปในพระนามพระเยซู
4.# ใน ฮบ. 4:12 กล่าวว่า “เพราะว่าพระวจนะของพระเจ้านั้นมีชีวิตและทรงพลานุภาพอยู่เสมอ และคมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ แทงทะลุกระทั่งแยกจิตและวิญญาณ ทั้งข้อกระดูกและไขในกระดูก และสามารถวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจด้วย”
ถ้อยคำของพระเจ้า จะนำชีวิตมาสู่ผู้เชื่อ
ถ้อยคำของพระเจ้า มีฤทธิ์ที่จะสำเร็จตามถ้อยคำนั้นเสมอ
ถ้อยคำของพระเจ้า นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ส่วนที่ลึกที่สุดในชีวิตของเราได้
ถ้อยคำของพระเจ้า สามารถเปิดเผยความลับในใจของเราที่เราเองก็ยังไม่รู้ ออกมาได้
4.@ วันนี้ เราให้ความสำคัญแก่พระคำของพระเจ้า มากเพียงใด?
ใน 24 ชม. ของวันนี้ เราใช้เวลากับพระคำของพระเจ้า กี่ เปอร์เซนต์?
5.# ใน ฮบ. 4:13 ชี้ให้เห็นว่า เราทุกคนต้องถวายรายงานต่อพระเจ้าตัวต่อตัว และพระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง ไม่มีสิ่งใดที่จะถูกปิดซ่อนไว้จากพระองค์ได้ เราไม่อาจหลบ ไม่อาจบิดเบือน ไม่อาจโกหก ต่อพระเจ้าได้เลย แม้แต่นิดเดียว
5.@ หากเพียงแต่เราจะตระหนักจริงๆว่า สักวันหนึ่งเราต้องรายงานในทุกสิ่งที่เราทำ ต่อพระเจ้าผู้ทรงทราบทุกิ่งแม้แต่ความคิดในใจของเรา
เราคงใช้ทุกวินาทีในโลกนี้ อย่างมีคุณค่าและมีความหมายในฝ่ายวิญญาณมากยิ่งขึ้นกว่านี้ มากมายนัก
6.# ใน ฮบ. 4:14-16 อธิบายว่า เนื่องจากมหาปุโรหิตของเรา คือ พระเยซู ผู้ทรงเคยถูกทดลองใจเหมือนเราทุกอย่าง พระองค์ทรงสามารถจะเห็นใจในความอ่อนแอของเรา
ด้วยเหตุนี้ให้เรากล้าที่จะเข้ามาถึงเฝ้าพระเจ้าเสมอ โดยทางพระเยซูคริสต์ แล้วจะได้รับพระเมตตา และจะพบพระคุณของพระเจ้า ที่ช่วยเราในยามต้องการทุกครั้งไป
6.@ ไม่ว่าเราจะผิดพลาดพลั้งบาป หรือกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายมากสักเพียงใด
วันนี้ โดยพระเยซูคริสต์ให้เรามีใจกล้าที่จะเข้ามา เข้าเฝ้าพระเจ้า พระองค์พร้อมที่จะให้อภัยแก่เรา พร้อมที่จะเมตตาเรา และพร้อมที่จะประทานพระคุณแห่งการช่วยเหลือเรา ทั้งที่เราไม่สมควรจะได้รับก็ตาม
คำคม
“ การได้หยุดพักหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ ความเชื่อไว้วางใจในพระเจ้าในวันนี้ ”