ภาพรวม
- ในบทนี้อธิบายว่า พระเยซูทรงนำเครื่องบูชาแท้ถวายแด่พระเจ้าแล้ว เพื่อเราจะได้รับการไถ่บาปชั่วนิรันดร์ ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องยึดมั่นความเชื่อวางใจในพระเยซูไว้ตลอดวันคืนของชีวิต เพื่อเราจะได้รับตามพระสัญญานั้น
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1# ใน ฮบ. 10:1-18 อธิบายว่า เนื่องจากธรรมบัญญัตินั้นเป็นเพียงเงา ไม่ใช่ของจริง การชำระบาปตามธรมบัญญัตินั้นจึงต้องทำทุกปี เพราะไม่ยังไม่ได้เกิดขึ้นโดยสมบูรณ์(ข้อ1-2)
แต่เมื่อของจริงมา ระบบเดิมจึงถูกยกเลิก เปลี่ยนมาใช้ระบบใหม่(ข้อ 9)
ระบบใหม่นั้น พระเยซูคริสต์ผู้เป็นมหาปุโรหิตนิรันดร์ ได้นำเครื่องบูชาแท้คือชีวิตของพระองค์เอง ถวายเครื่องบูชานั้นเพียงครั้งเดียว ก็ครบถ้วนสมบูรณ์ คนที่เชื่อวางใจในพระองค์จึงรับการชำระบาปแล้วอย่างสมบูรณ์ตลอดไป(ข้อ 14)
การถวายเครื่องบูชาแบบเดิม จึงไม่จำเป็นอีกต่อไป(ข้อ 18)
1.@ เมื่อพระเยซูชำระบาปเราแล้ว และเรารับเอาการชำระบาปนั้นโดยการเชื่อวางใจในพระองค์
บาปของเราจึงไม่มีอีกต่อไป ไม่รู้สีกว่ามีบาปอีกต่อไป(ข้อ 2)
วันนี้ ถ้าเราเชื่อจริงๆว่า บาปของเราได้รับการอภัยแล้ว ความรู้สึกฟ้องผิดเนื่องจากบาปจะไม่มีอีกต่อไป ขณะเดียวกันความรู้สึกว่าอยากอยู่ในบาปต่อไป ก็จะไม่มีอีกต่อไปเช่นกัน
2.# ใน ฮบ. 10:19-23 อธิบายว่า เราควรมีใจกล้าที่จะเข้าเฝ้าพระเจ้า ตามทางใหม่ คือ โดยทางพระเยซู
เพราะพระเยซูทรงเป็นมหาปุโรหิตของเรา แม้ว่าเรายังผิดพลาดพลั้งบาป แต่โดยมหาปุโรหิตของเรา บาปของเราได้รับการอภัยแล้ว
ดังนั้นเราควรเข้าเฝ้าพระเจ้า ด้วยจริงใจ ไว้ใจในพระโลหิตของพระคริสต์(ข้อ 22) มั่นใจว่าพระเจ้าจะทรงโปรดฟังเรา
2.@ วันนี้โดยพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ เราได้รับการยอมรับจากพระเจ้าแล้ว เราเข้าเฝ้าพระเจ้าได้แล้ว และเมื่อเราร้องทูลเรารู้แน่ว่าพระองค์จะทรงโปรดฟังเราเสมอ
3.# ใน ฮบ. 10:24-25 เตือนว่า ในเมื่อรู้อยู่ว่าวันที่พระเยซูจะเสด็จกลับมานั้นใกล้เข้ามาแล้ว ดังนั้นเราควรคอยปลุกใจกันและกันให้มีความรักและทำความดีอยู่เสมอ และ ไม่ขาดการประชุมนมัสการจนเป็นนิสัย และควรหนุนใจกันให้มากยิ่งขึ้น
3.@ เรารู้ว่าพระเยซูใกล้เสด็จกลับมาแล้ว เราได้ทำตัวสมกับที่พระเยซูใกล้จะเสด็จกลับมาแล้วหรือยัง?
4.# ใน ฮบ. 10:26-39 หนุนใจว่า เพียงไม่นาน พระเยซูก็จะเสด็จมา อย่าให้เราละทิ้งความไว้วางใจของเรา ซึ่งจะนำมาซึ่งบำเหน็จยิ่งใหญ่มาสู่เรา (ข้อ 35)
ดังนั้นเราจำเป็นต้องมีความทรหดอดทน เพื่อเราจะสามารถทำตามพระทัยของพระเจ้าได้ แล้วในที่สุดเราก็จะได้รับสิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ (ข้อ 36)
เราจึงต้องดำรงชีวิตอยู่ด้วยความเชื่อ อย่างไม่หันกลับ (ข้อ 38)
เพราะพระเจ้าตรัสว่า ถ้าใครหันกลับจากความเชื่อ พระเจ้าจะไม่มีความพอใจในคนนั้นเลย (ข้อ 38)
เขาจะพบกลับความพินาศ(ข้อ 39) และจะมีความหวาดกลัวในการรอคอยการพิพากษาและไฟอันร้ายแรง ซึ่งจะเผาผลาญคนเหล่านั้นที่ถูกพิพากษา (ข้อ 27)
เพราะว่าคนที่หันกลับ เป็นคนที่เหยียบย่ำพระบุตรของพระเจ้า และดูหมิ่นพระวิญญาณแห่งพระคุณ (ข้อ 29)
พวกเขาเลิกเชื่อ ว่าเขาได้รับความชอบธรรมโดยทางพระเยซูคริสต์ จึงหันหลังกลับไปดำเนินชีวิตในบาปต่อไป (ข้อ 26)
องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงพิพากษาเรื่องนี้เอง (ข้อ 30)
การตกอยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์นั้นเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวจริงๆ (ข้อ 31)
4.@ เราสมควรระมัดระวังตัวและทำทุกวิถีทางที่จะไม่เดินออกจากทางแห่งความเชื่อในพระเยซูคริสต์
เพราะนั่นเป็นทางที่จะนำเรารอดพ้นการพิพากษาและได้รับตามพระสัญญาของพระเจ้า
คำคม
“ การตกอยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้า ผู้ทรงพระพิโรธนั้น เป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวจริงๆ ”