ขุมทรัพย์ 1 ยอห์น 5

ภาพรวม

  • ในบทนี้สอนว่า เราผู้เชื่อวางใจในพระเยซู มีชัยชนะต่อการล่อลวงของโลกและต่อมารซาตานได้ โดยทางพระเยซูคริสต์ ดังนั้นเราต้องยึดมั่นความเชื่อในพระองค์เสมอไป

# แนวคิด

@ การประยุกต์ใช้

1# ใน 1ยน. 5:1-5 อธิบายว่า คน​ที่เกิดจากพระเจ้า ได้แก่ คนที่​เชื่อ​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​พระ​คริสต์
และ​แน่นอนคนนั้นย่อม​รัก​พระ​องค์​ผู้​ทรง​ให้​กำ​เนิด
และแน่นอนคนนั้นก็​รัก​คน​ที่​เกิด​จาก​พระ​องค์​คนอื่นๆด้วย

เราจึงรู้ได้ว่า ใครเป็นลูกของพระเจ้า โดยสังเกตจาก ลูกของพระเจ้าย่อมรักพระเจ้า
ผู้ที่รักพระเจ้า ย่อมประ​พฤติ​ตาม​พระ​บัญ​ญัติ​ของ​พระ​องค์ อย่างเต็มใจ ไม่รู้สึกว่าเป็นภาระ
และพระบัญญัตินั้นก็คือ ให้เรารักกันและกัน

คน​ที่​เชื่อ​ว่า​ พระ​เยซู​เป็น​พระ​บุตร​ของ​พระ​เจ้า​ และตอนรับพระองค์เข้ามาเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าในชีวิต ก็กลายเป็นลูกของพระเจ้า ที่เกิดมาจากพระเจ้า
คนนั้นจะมีชัยต่อการล่อลวงของโลกนี้และมีชัยต่อบาป โดยความเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ของพวกเขา

1.@ โดยความเชื่อ เราจึงเกิดจากพระเจ้า
เราเป็นลูกของพระเจ้า เราจึงรักพระเจ้า
เรารักพระเจ้า เราจึงรักพี่น้อง
และโดยความเชื่อนี้เอง เราจึงมีขัยเหนือการล่อลวงแห่งโลกนี้

ดังนั้น จงยึดความเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ไว้ให้มั่นตราบจนวันตาย

2.# 1ยน. 5:6-15 อธิบายว่า พระเยซูเสด็จมาเพื่อเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเรา โดยมี หลักฐานยืนยันชัดเจน 3 อย่าง คือ
1. พระวิญญาณ พระวิญญาณยืนยันว่าพระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า เมื่อพระเยซูขึ้นจากน้ำและโดยหมายสำคัญการอัศจรรย์ต่างๆที่เกิดขึ้นทางพระเยซู
2. น้ำ การบัพติศมาในน้ำของพระเยซู แสดงถึงการที่พระเยซูผู้ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้ายอมเชื่อฟังทุกประการ (มธ. 3:15)
3. พระโลหิต การสิ้นพระชนม์ของพระเยซูบนไม้กางเขน ยืนยันว่า พระเยซูผู้ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า ได้เชื่อฟังพระบิดาทุกประการ จนกระทั่งควมมรณาที่กางเขน

ดังนั้น คน​ที่​เชื่อ​วางใจว่า พระเยซูทรงเป็นพระ​บุตร​ของ​พระ​เจ้า​ เสด็จมาเพื่อช่วยเราให้รอด คนเหล่านั้นก็​มี​พยาน​ยืนยันความเชื่อของเขา ว่า ถูกต้องแล้ว
แต่คน​ที่​ไม่​เชื่อ ​ก็​กำลังบอกว่า พระเจ้า​ตรัส​มุสา เพราะ​เขา​ไม่​ได้​เชื่อ​คำ​พยาน​ที่​พระ​เจ้า​ทรง​เป็น​พยาน​นี้

พระเจ้าประกาศว่า พระ​เจ้า​ประ​ทาน​ชีวิต​นิรันดร์​แก่​เรา ทาง​พระ​บุตร​ของ​พระ​องค์
ใครรับพระบุตรเข้ามาในชีวิต ก็จะมี​ชีวิตนิรันดร์
ใครไม่รับพระบุตร ​ก็​ไม่​มี​ชีวิตนิรันดร์

ด้วยเหตุนี้ เราผู้เชื่อวางใจในพระเยซู
เราจึงมั่นใจได้ว่า เรา​มี​ชีวิต​นิรันดร์
และ​มั่น​ใจ​ว่า ​ถ้า​เรา​ทูล​ขอ​สิ่ง​ใด​ที่​เป็น​พระ​ประ​สงค์​ของ​พระ​องค์
พระ​องค์​ก็​จะทรง​ฟังอย่างแน่นอน และ​เรา​จะได้​รับ​สิ่ง​ที่​ทูล​ขอ​นั้น​จาก​พระ​องค์เป็นแน่

2.@ วันนี้ เราเป็นลูกของพระเจ้าแล้ว เรามีชีวิตนิรันดร์แล้ว และทุกสิ่งที่เราทูลขอที่สอดคล้องพระทัยพระบิดา เราจะได้รับแน่นอน
เชิญทูลขอด้วยความเชื่อเถิด

3.# ใน 1ยน. 5:16-21 สอนว่า ถ้า​ใคร​เห็น​พี่​น้อง​​ทำ​บาป​ชนิด​ที่​ไม่​นำ​ไป​สู่​ความ​ตาย ก็​ให้​คน​นั้น​ทูล​ขอ และ​พระ​องค์​ก็​จะ​ให้อภัย​แก่​คน​ที่​ทำ​บาป​นั้น

บาป​ที่​นำ​ไป​สู่​ความ​ตาย​ หมายถึง บาปที่ทำอยู่เรื่อยๆ โดยไม่คิดที่จะกลับใจ
ในเมื่อ ไม่คิดจะกลับใจ จึงไม่สามารถได้รับการอภัย

เราทั้งหลาย​ที่​เกิด​จาก​พระ​เจ้า​ไม่​มีปกติที่ชอบทำ​บาปอีกต่อไป
และพระเยซู​ทรง​คุ้ม​ครอง​รัก​ษา​เราไว้ ​มาร​ร้าย​ซึ่งเป็นเจ้าแห่งโลกนี้ไม่สามารถแตะ​ต้อง​เราได้

พระเยซูได้ทรงทำให้เรา​รู้​จัก​พระ​บิดา
และ​ทำให้เรา​อยู่​ใน​พระ​บิดา และ​ได้รับ​ชีวิต​นิรันดร์

ดังนั้น เราสมควรที่จะยืนหยัดในความเชื่อในพระเยซูตลอดไป ไม่หันไปหาสิ่งอื่น หรือ​รูป​เคารพใดๆ

3.@ เมื่อเราเชื่อวางใจในพระเยซู เราได้อยู่ในพระเจ้าแล้ว ปลอดภัย และได้รับชีวิตนิรันดร์
จงยึดมั่นในความเชื่อในพระเยซูนี้ไว้ตลอดไป

คำคม

“ เราบังเกิดใหม่จากพระเจ้า จึงเป็นลูกของพระเจ้า และเดินตามทางของพระเจ้า”

ขุมทรัพย์ 1 ยอห์น 4

ภาพรวม

  • ในบทนี้สอนอธิบายเพื่อต่อต้านคำสอนเท็จ ว่าพระเยซูไม่ใช่พระบุตรของพระเจ้า และบอกว่า ไม่จำเป็นต้องรักพี่น้อง ซึ่งขัดแย้งกับข่าวประเสริฐอย่างสิ้นเชิง

# แนวคิด

@ การประยุกต์ใช้

1# ใน 1ยน. 4:1-6 สอนว่า อย่า​เชื่อ​ทุกๆ วิญ​ญาณ แต่​ให้​พิสูจน์​วิญ​ญาณ​นั้นๆ ว่า​มา​จาก​พระ​เจ้า​หรือ​ไม่
เนื่องจากของจริงก็มี และ ของปลอมก็มีอยู่มาก

วิธีพิสูจน์ ก็คือ ​วิญ​ญาณ​​ที่​มาจากพระเจ้า จะยอม​รับ​ว่า​พระ​เยซู​คริสต์​ทรง​เป็น​พระบุตรของพระเจ้า มาบังเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อช่วยมนุษย์ให้รอด
กล่าวอีกนัยหนึ่งก้คือ ถ้ามาจากพระเจ้า จะสนับสนุนและสอดคล้องกับข่าวประเสริฐ

วิญ​ญาณ​ใดที่​ขัดแย้งกับข่าวประเสริฐ วิญ​ญาณ​นั้น​ก็​ไม่​ได้​มา​จาก​พระ​เจ้า
คนเหล่านั้นที่มีวิญ​ญาณ​นั้นในตัว ​เป็น​ศัตรู​ของ​พระ​คริสต์

เราผู้​อยู่​ฝ่าย​พระ​เจ้า และ​ชนะ​พวก​เขา​เหล่านั้นแล้ว
เพราะ​ว่า​พระ​เจ้า​ผู้​ทรง​อยู่​ใน​เรา ​ยิ่ง​ใหญ่​กว่า ​วิญญาณที่อยู่ในพวกเขาเหล่านั้น

พวก​เขา​เหล่านั้นเป็น​ฝ่าย​โลก ดัง​นี้พวก​เขา​จึง​พูด​ตาม​โลก​และ​โลก​ก็​เชื่อ​ฟัง​เขา
​เรา​อยู่​ฝ่าย​พระ​เจ้า คนที่อยู่ฝ่าย​พระ​เจ้า​ก็จะ​ฟัง​เรา ส่วน​คนที่​ไม่​ได้​อยู่​ฝ่าย​พระ​เจ้า​ก็จะ​ไม่​ฟัง​เรา

ดัง​นั้น ​เรา​จึง​รู้​ได้ว่า ใครมี​วิญ​ญาณ​ของ​ความ​จริง และใครมี​วิญ​ญาณ​ของ​ความ​เท็จ
คนที่ยอมรับข่าวประเสริฐ มีวิญญาณของความจริง
คนที่ไม่ยอมรับข่าวประเสริฐ มีวิญญาณของความเท็จ

1.@ เราสามารถแยกแยะ คำสอนที่มาจากพระเจ้า หรือ มาจากศัตรู ได้โดยสังเกตว่า คำสอนเหล่านั้น สอดคล้อง หรือ ขัดแย้งกับข่าวประเสริฐ

ข่าวประเสริฐ คือ ใครเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์สำหรับการรอดพ้นนบาป เขาก็จะรอดพ้นบาป และเมื่อรอดพ้นบาปแล้ว เขาก็จะไม่เดินในทางบาปอีกต่อไป

2.# ใน 1ยน. 4:7-21 สอนว่า ให้​เรา​รัก​กัน​และ​กัน เพราะ​ว่า​ความ​รัก​มา​จาก​พระ​เจ้า ดังนั้นเราผู้เกิด​จาก​พระ​เจ้า และ​รู้​จัก​พระ​เจ้า จึงสมควรสำแดงความรักของพระเจ้าแก่กันและกัน

ส่วนคน​ที่​ไม่​รักพี่น้อง เขา​ก็ยัง​ไม่​รู้​จัก​พระ​เจ้าจริงๆ
เพราะ​ว่า​พระ​เจ้า​ทรง​เป็น​ความ​รัก

​พระ​เจ้าทรงรักเรา จึง​​ทรง​ใช้​พระ​บุตร​องค์​เดียว​ของ​พระ​องค์​เข้า​มา​ใน​โลก เพื่อ​ช่วยเรา​ เพื่อ​เป็น​เครื่อง​บูชา​ลบ​บาปของ​เรา
เพราะพระเจ้าทรงรักเราก่อน อย่างมากมายเหลือล้น
เรา​ก็​ควร​จะ​รัก​กัน​และ​กัน​ด้วย

ไม่​มี​ใคร​เคย​เห็น​พระ​เจ้า จึงไม่อาจมองเห็นว่าพระเจ้าสถิตในเราจริงหรือไม่
แต่ถ้า​เรา​รัก​กัน​และ​กัน นั่นเป็นบทพิสูจน์อย่างดี ว่า พระ​เจ้า​สถิต​อยู่​ใน​เรา และ​ความ​รัก​ของ​พระ​เจ้าได้เข้ามาอยู่​ใน​เราอย่างสมบูรณ์แล้ว

ดังนั้นคนที่รักพี่น้อง สรุปได้เลยว่า
​เขา​อยู่​ใน​พระเจ้า ​และ ​พระเจ้า​ทรง​อยู่​ใน​เขา
​พระ​วิญ​ญาณ​ของ​พระ​องค์ทรงอยู่ในเขา
​เขา​จึง​มั่น​ใจได้เลยว่า ​ใน​วัน​พิพาก​ษา เขาจะรอดพ้นการพิพากษาและเข้าส่วนในพระเจ้าอย่างแน่นอน

ใน​ความ​รัก​นั้น​ไม่​มี​ความ​กลัว แต่​ความ​รัก​ที่​สม​บูรณ์​นั้น​ก็​ขับ​ไล่​ความ​กลัว​ออก​ไป​เสีย
เพราะ​ความ​กลัว​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ลง​โทษ
และ​ผู้​ที่​กลัว​การพิพากษา ก็​ยัง​ไม่​มี​ความ​รัก​ที่​สม​บูรณ์
เขายังไม่รู้จักและเข้าใจความรักของพระเจ้าจริงๆ

คน​ที่​ยอม​รับ​ว่า​ “พระ​เยซู​เป็น​พระ​บุตร​ของ​พระ​เจ้า”
พระ​เจ้า​ทรง​อยู่​ใน​คน​นั้น และ​คน​นั้น​อยู่​ใน​พระ​เจ้า
แสดงว่า คนนั้นก็ได้ถูกปกคลุมด้วยความรักของพระเจ้าแล้ว
เพราะพระ​เจ้า​ทรง​เป็น​ความ​รัก

ด้วยเหตุนี้ เพราะ​พระเจ้า​ทรง​รัก​เรา​ก่อน เราจึงสามารถรักพี่น้องได้
ซึ่งถ้า​ใคร​กล่าว​ว่า “ข้าพ​เจ้า​รัก​พระ​เจ้า”
แต่​ใจ​ยัง​เกลียด​ชัง​พี่​น้อง​ของ​ตน เขา​เป็น​คน​พูด​โกหก
เพราะ​ว่า​คน​ที่​ไม่​รัก​พี่​น้อง​ของ​ตน​ที่​มอง​เห็น​แล้ว ซึ่งเป็นพี่น้องที่มีพระเจ้าอยู่ในเขา
คนนั้นจะ​รัก​พระ​เจ้า​ที่​มอง​ไม่​เห็น​ได้อย่างไร

​คน​ที่​รัก​พระ​เจ้า​นั้น​ จะรัก​พี่​น้อง​ด้วย

2.@ พระเจ้าทรงรักเรามาก เราสมควรรักตอบพระองค์ ด้วยการรักคนที่พระองค์ทรงรัก

วันนี้ เราได้สำแดงออกถึงความรักของเรา ที่มีต่อพระเจ้าอย่างไรบ้าง?

คำคม

“ เราตอบสนองความรักต่อพระเจ้าได้ ด้วยการรักกันและกัน”

ขุมทรัพย์ 1 ยอห์น 3

ภาพรวม

  • ในบทนี้สอนว่า ในเมื่อเราเป็นบุตรของพระเจ้าแล้ว เราจะไม่ดำเนินในทางบาปและเราจะรักพี่น้องผู้เป็นบุตรของพระเจ้าเหมือนกันกับเรา

# แนวคิด

@ การประยุกต์ใช้

1# ใน 1ยน. 3:1-10 ช้ให้เห็นว่า พระ​บิดา​ได้​ประ​ทาน​ความ​รัก​แก่​เราอย่างเหลือล้น ​ที่​เรา​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น ​ลูก​ของ​พระ​เจ้า
เดี๋ยว​นี้​เรา​เป็น​ลูก​ของ​พระ​เจ้า
เรา​รู้​ว่า​ใน​เวลา​ที่​พระ​องค์​จะ​เสด็จ​มา​ปรา​กฏ​นั้น เรา​จะ​เป็น​เหมือน​อย่าง​พระ​องค์

ใครก็ตาม​ที่​มี​ความ​หวัง​อย่าง​นี้​ ก็​จะชำระ​ตน​ให้​บริ​สุทธิ์​เหมือน​ที่​พระ​องค์​ทรง​บริ​สุทธิ์ ด้วยการไม่ดำเนินชีวิตในบาปอีกต่อไป

เพราะ​พระเยซู​ทรง​ปรา​กฏ​เพื่อ​กำ​จัด​บาป​ของ​เรา​ให้​หมด​ไป ดังนั้นเราผู้​ที่​อยู่​ใน​พระ​องค์​จึงไม่​ทำ​บาป​อีก​ต่อ​ไป

แต่คนที่ยังไม่รู้จักพระเยซูจริงๆ พวกเขาจะยังคง​ทำ​บาป​อยู่​เรื่อยๆ ไม่คิดจะกลับใจออกจากบาปนั้น

คนที่ทำสิ่งที่ชอบธรรม ก็​เหมือน​อย่าง​ที่​พระ​องค์​ทรง​ชอบ​ธรรม
คนที่​ทำ​บาป ​ก็​เหมือนอย่าง​มาร​ที่​ทำ​บาป​ตั้ง​แต่​เริ่ม​แรก

พระเยซูเสด็จ​มา​​ก็​เพื่อ​ทำ​ลาย​กิจ​การ​ของ​มาร
ด้วยเหตุนี้ ผู้อยู่ในพระเยซู ซึ่งเป็นผู้เกิดจากพระเจ้าย่อมไม่​ทำ​บาป
เพราะ​เชื้อ​ของ​พระเจ้า​อยู่​ใน​คน​นั้น​ ​เขาจึง​ทำ​บาป​ไม่​ได้
ทุกครั้งที่เขาเผลอทำบาป เขาจะไม่มีวันมีความสุขเลย จนกว่าจะกลับใจ สารภาพนั้นต่อพระเจ้า

ดังนั้น วิธีดูว่า ใคร​เป็น​ลูก​ของ​พระ​เจ้า และ​ใคร​เป็น​ลูก​ของ​มาร ก็คือ
ลูกพระเจ้า จะชอบทำสิ่งที่ชอบธรรม และจะทำสิ่งที่ชอบธรรมเสมอ และจะรักพี่น้องในพระคริสต์
​ลูกของมาร จะชอบทำบาป และจะทำบาปอยู่เสมอ และ​ไม่​รัก​พี่​น้อง​ของ​ตน

1.@ พระเจ้าเมตตาเราเหลือเกิน ให้เราได้เป็นลูกของพระเจ้า
เราสมควรอย่างยิ่งที่จะดำเนินชีวิตให้สมกับเป็นลูกของพระเจ้า ไม่ใช่ทำตัวดังลูกของมาร

วันนี้ เรารักพี่น้องคริสเตียน เป็นการกระทำอย่างไรบ้าง?
วันนี้ เราตอบสนองอย่างไร เมื่อเราผิดพลาดพลั้งบาปไป?

2.# 1ยน. 3:11-22 สอนว่า ​ให้​เรา​รัก​กัน​และ​กัน
อย่า​เป็น​เหมือน​อย่าง​คา​อิน​ที่​ไม่รักน้อง แต่อิจฉาน้อง จน​ฆ่า​น้อง​

โลกนี้ ไม่รักเรา นั่นเป็นเรื่องปกติธรรมดา
แต่ถ้าเราไม่รักพี่น้อง นั่นเป็นเรื่องผิดปกติอย่างมาก
เพราะแสดงว่า เราไม่ได้อยู่ฝ่ายพระเจ้า แต่กำลังอยู่ในความมืดแห่งโลกนี้

ผู้​ที่​ไม่​รัก​ก็​ยัง​อยู่​ใน​ความ​ตาย
เรา​รู้​ว่า​เรา​ได้​พ้น​จาก​ความ​ตาย​ไป​สู่​ชีวิต​แล้ว
ดังนั้น ​เรา​จึงรัก​พี่​น้อง

คนที่​เกลียด​ชัง​พี่​น้อง​ ​ก็​เป็น​ผู้​ฆ่า​คน เหมือนคาอิน
ผู้​​นั้น​ยังไม่​มี​ชีวิต​นิรันดร์​จริงๆ

พระ​เยซู​ได้ทรงรักเรา จน​ยอม​สละ​พระ​ชนม์​ของ​พระ​องค์​เพื่อ​เรา
ดังนั้น หากเรารักพี่น้อง ​เรา​ก็​ควร​จะ​สละ​ชีวิต​ของ​เรา​เพื่อ​พี่​น้อง ด้วยเช่นกัน
นั่นคือ ถ้ารักพี่น้องจนยอมตายแทนเขาได้ มีหรือจะไม่ช่วยเหลือพี่น้อง ในยามที่เขาประสบความทุกข์ยากลำบาก

อย่า​ให้​เรา​รัก​กัน​ด้วย​คำ​พูด​และ​ด้วย​ปาก​เท่า​นั้น
แต่​จง​รัก​กัน​ด้วย​การ​กระ​ทำตามพระคำของพระเจ้า

คนที่รักพี่น้อง ก็​อยู่​ฝ่าย​สัจจะ
และ​ใจ​ของเขา​จะ​หมด​กังวล​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​องค์

คนที่อยู่ฝ่ายสัจจะนั้น
– เมื่อ​ใจ​​ของเขากล่าว​โทษ​เขา เพราะเขาผิดพลาดพลั้งบาป เขาก็ยังมั่นใจในความรักและการอภัยจากพระเจ้า เขาจะกลับใจใหม่และเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้เสมอ

– ​ใจ​ของ​เขา​ไม่​ได้​กล่าว​โทษ​เขา เพราะเขาดำเนินในทางชอบธรรม ดำเนินตามน้ำพระทัยของพระเจ้า เขา​ก็​มี​ความ​มั่น​ใจ​ที่​จะ​เข้า​เฝ้า​พระ​เจ้า และ​มั่นใจว่า เมื่อ​เขา​ขอ​สิ่ง​ใด ก็​ได้​สิ่ง​นั้น​จาก​พระ​องค์

2.@ เพราะเราซาบซึ้งในความรักของพระเจ้า เราจึงรักพี่น้อง
ยิ่งเรารักพี่น้อง เราก็ยิ่งมั่นใจในความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรายิ่งขึ้นไปอีก

เมื่อพี่น้องทำผิด เรารักเขา จึงยกโทษให้เขา
เมื่อเราทำผิด เราจึงมั่นใจอย่างไม่สงสัยเลยว่า พระเจ้าทรงยกโทษให้เราแน่ๆ เพราะขนาดรักพี่น้องเล็กน้อยก็ยังยกโทษให้เขาได้เลยแล้วพระองค์รักเราอย่างหาที่เปรียบมิได้ มีหรือจะไม่ยกโทษให้แก่เรา

3.# ใน 1ยน. 3:23-24 สอนว่า พระ​บัญ​ญัติ​ของ​พระเจ้า คือ
“ให้​เรา​วาง​ใจ​ใน​พระ​นาม​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​พระ​บุตร​ของ​พระ​องค์ และ​ให้​เรา​รัก​กัน​และ​กัน”
ใครก็ตาม​ที่​ประ​พฤติ​ตาม​พระ​บัญ​ญัติ​ของ​พระ​องค์​ก็​อยู่​ใน​พระ​องค์ และ​พระ​องค์​สถิต​อยู่​ใน​คน​นั้น

3.@ เรารู้ได้อย่างไรว่า ใครมีพระเยซูอยู่ในเขาแล้ว?
ก็คือ ใครที่วางใจในพระเยซูจริงๆ และ รักพี่น้องจริงๆ
คนนั้นมีพระเยซูทรงในเขาอย่างแท้จริง

คำคม

“ บุตรของพระเจ้าแท้ จะรักพระเจ้า และรักบุตรของพระเจ้า ”

ขุมทรัพย์ 1 ยอห์น 2

ภาพรวม

  • ในบทนี้พูดถึงคำสอนของพวกสอนเท็จว่า เป็นอันตรายและจะชักนำคนให้ละทิ้งความเชื่อในพระเยซูคริสต์ มุ่งสู่การทำตามใจตนเอง และในการทำบาป เราจึงควรระมัดระวังและยึดความเชื่อในข่าวประเสริฐเอาไว้ให้มั่นเสมอไป

# แนวคิด

@ การประยุกต์ใช้

1# ใน 1ยน. 2:1-6 สอนว่า
– ​ถ้าเราผู้อยู่ในพระเยซูผิดพลาด​ทำ​บาป เรา​ก็​มี​พระ​องค์​ผู้​ทูล​ขอ​พระ​บิดา​เพื่อ​เรา และ​ทรง​เป็น​ผู้​ลบ​ล้าง​พระ​อาชญา​เพื่อเรา

– แล้วเรา​จะ​มั่นใจ​ได้​อย่างไร เราอยู่ในพระองค์แล้ว?
– ก็คือ​ ถ้า​เราอยู่ในพระองค์แล้ว เราก็จะ​ประพฤติ​ตาม​พระ​บัญญัติ​ของ​พระ​องค์​อย่างแน่นอน
– ซึ่งถ้าเราเป็นเช่นนั้น สรุปได้เลยว่า เราอยู่ในพระเยซูแล้ว และความ​รัก​ของ​พระ​เจ้า​ก็​ถึง​ความ​บริบูรณ์​ใน​เรา​แล้ว​อย่าง​แน่​แท้

– ใคร​ที่​พูด​ว่า “ฉัน​คุ้น​กับ​พระ​องค์” “ฉันอยู่ในพระเยซู” แต่​มิได้​ทำตาม​พระ​บัญญัติ​ของ​พระ​เยซู
สรุปได้เลยว่า คน​นั้นพูดโกหก​

สรุปว่า ใครอยู่ในพระเยซู ย่อมเดินในเส้นทางเดียวกับที่พระเยซูเดิน

1.@ “วันนี้ เราอยู่ในพระเยซูแล้วหรือยัง?”
หรือถามอีกอย่างได้ว่า “วันนี้ เราดำเนินชีวิตเชื่อฟังพระบิดาเหมือนอย่างพระเยซูแล้วหรือยัง?”
หมายถึง ตั้งใจเดินไปในทางนั้นทุกวัน แม้ผิดพลาดพลั้งบาปไป ก็จะรีบหันกลับมาเดินทางนั้นใหม่ทุกครั้งไป

2.# ใน 1ยน. 2:7-11 สอนว่า บัญญัติ​สั่งให้เรารักกันนั้น เป็น​พระ​บัญญัติ​เก่า​ซึ่ง​พระเจ้าสั่งไว้นาน​มา​แล้ว​
ใน ลนต. 19:18 “…​เจ้า​จง​รัก​เพื่อน​บ้าน​เหมือน​รัก​ตนเอง…”

แต่ในอีกมุมหนึ่ง บัญญัติ​สั่งให้เรารักกันนั้น เป็น​พระ​บัญญัติ​ใหม่ ด้วย เพราะเป็นคำสั่งในมาตรฐานใหม่ที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเดิม
ใน ยน. 13:34 พระเยซูตรัสว่า “เรา​ให้​บัญญัติ​ใหม่​ไว้​แก่​เจ้า​ทั้ง​หลาย คือ​ให้​เจ้า​รัก​ซึ่ง​กัน​และ​กัน เรา​รัก​เจ้า​ทั้ง​หลาย​มา​แล้ว​อย่างไร เจ้า​จง​รัก​กัน​และ​กัน​ด้วย​อย่าง​นั้น​”

พระบัญญัติใหม่นี้เป็นบัญญัติ เมื่อความสว่างแท้ของพระเจ้ามายังโลก คือ พระเยซู
ผู้ที่อยู่ในความสว่างนี้ จะรักพี่น้อง เหมือนที่พระเยซูทรงรักเขา และจะไม่​มี​อะไร​ที่​จะ​ทำ​ให้​เขาสะดุด​ล้มลงได้เลย

ดังนั้น คนที่​ยัง​เกลียด​ชัง​พี่​น้อง​ของ​ตน ผู้​นั้น​ก็​ยัง​อยู่​ใน​ความ​มืด​ และ​เดิน​ใน​ความ​มืด​และ​ไม่​รู้​ว่า​ตน​กำลัง​ไปสู่หายนะ เพราะ​ว่า​ความ​มืด​ทำ​ให้​ตา​ของ​เขา​บอด​ไป​เสีย​แล้ว​

2.@ วิธีรู้ว่า ใครอยู่พระเยซูผู้เป็นความสว่าง หรือ ใครอยู่ในความมืดแห่งโลกนี้
คือดูจาก ความรักที่เขาสำแดงออกต่อพี่น้อง ว่า เหมือนหรือใกล้เคียงกับที่พระเยซูสำแดงออกหรือไม่?

3.# ใน 1ยน. 2:12-14 สอนว่า
– พระเจ้าได้​ทรง​ยก​บาป​ของ​เรา​แล้ว ด้วย​เห็น​แก่​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์​
– คนที่ติดตามพระเจ้ามานานแล้ว ควรรักษาความสนิทสนมกับ​พระ​องค์​ ให้มากยิ่งขึ้นไปอีก
– คนที่เริ่มติดตามพระเจ้า ควรรู้ตัวว่าเราได้​ชนะ​มาร​ร้าย​นั้นแล้ว
– ในฐานะที่เรา​เป็น​ลูก เราควรสนิท​คุ้นเคย​กับ​พระ​บิดา​
– คนที่​เป็นพ่อแล้ว ควรเรียนรู้จากพระองค์ผู้เป็นพระบิดา
– ​ คนที่ยัง​หนุ่ม ​ยังมี​กำลังวังชาดี สมองโปร่งใส ควรทุ่มเทเพื่อพระเจ้าและเพื่อการทำตาม​พระ​วจนะ​ของ​พระ​เจ้า และ​เอา​ชนะ​มาร​ร้าย​ด้วยพระคำของพระเจ้า

3.@ ไม่ว่าเราอยู่ในสถานะใดก็ตาม เราก็ควรที่จะใช้สถานะนั้นทำให้เราผูกพันสนิทสนมกับพระเจ้าให้มากยิ่งขึ้น

4.# ใน 1ยน. 2:15-17 สอนว่า อย่าให้​เรารัก​ค่านิยมของโลก​หรือ​สิ่งของ​ใน​โลก เพราะการ​รัก​โลก จะดึงเราออกจากความ​รัก​ต่อ​พระ​บิดา

เพราะ​ว่า​กับดักของโลกนี้ คือ​
– ตัณหา​ของ​เนื้อ​หนัง​
– ​ตัณหา​ของ​ตา
– ความ​ทะนง​ใน​ลาภ​ยศ​
ซึ่งล้วนแต่ดึงเราออกจากพระเจ้า ออกการทำตามพระทัยของพระเจ้า เข้าสู่การทำตามใจปรารถนาของตนเอง ไปสู่การจมลงสู่บาป

การดำเนินตาม​สิ่ง​ที่​ยั่วยวน​ของ​โลก​ จะ​ล่วง​ไปเหมือนกับโลก
แต่​ผู้​ที่​ประพฤติ​ตาม​พระ​ทัย​ของ​พระ​เจ้า​จะ​ดำรง​อยู่​เป็น​นิตย์​

4.@ วันนี้ เราหลงรักโลกมากเพียงใด?
วันนี้ เราใช้ชีวิตของเรา เพื่อสิ่งของในโลกนี้ หรือ เพื่อพระเจ้า มากกว่ากัน?

5.# 1ยน. 2:18-29 สอนว่า ใน​วาระ​สุดท้าย ปฏิปักษ์​ของ​พระ​คริสต์​จะ​มี​มา พวกเขา​จะล่อลวงคนให้หลงไปจากความเชื่อในข่าวประเสริฐแท้

ปฏิปักษ์​ของ​พระ​คริสต์​พูด​มุสา โดยกล่าวว่า ​พระ​เยซู​มิใช่​พระ​คริสต์​

แต่​ทั้ง​หลาย​ผู้มีพระวิญญาณ​บริสุทธิ์​ พระองค์จะทรงสอนเราให้​มี​ความ​รู้ความจริง
และเรายึดมั่นในความจริงนั้น ว่า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า
ซึ่งผู้ยึดมั่นในความเชื่อนี้ จะได้รับตามพระสัญญา คือ ชีวิต​นิรันดร์

ดังนั้น ขอให้เรา​อยู่​ใน​พระ​องค์ ด้วยการยึดมั่นความเชื่อในพระองค์ เพื่อ​ว่า​เมื่อ​พระ​องค์​ทรง​ปรากฏ เรา​​จะ​ได้​มี​ใจ​กล้าพบพระองค์อย่างภาคภูมิใจ ​ไม่​ต้องหลบ​พระ​พักตร์​พระ​องค์​ด้วย​ความ​ละอาย

5.@ ไม่ว่า ใครหน้าไหน มาชักชวนเรา ให้ละทิ้งความเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ อย่าไปฟังเขา ขอให้เรายึดความเชื่อไว้มั่นจนวันตาย

คำคม

“ ยอมอายเพื่อพระเจ้าในวันนี้ เราจะไม่ละอายชั่วนิรันดร์ในวันสุดท้าย ”

ขุมทรัพย์ 1 ยอห์น 1

ภาพรวม

  • 1 ยอห์น เป็นจดหมายที่ อัครทูตยอห์นเขียนถึงคริสเตียนทั่วไป ไม่ได้เจาะจงคริสตจักรใดคริสตจักรหนึ่งเป็นพิเศษ เพื่อต่อต้าน​กับ​คำ​สอน​เท็จ
    – พวกนั้นสอนว่า พระคริสต์​ไม่ได้​มา​บังเกิด​เป็น​เนื้อหนังจริงๆ ดังนั้นพวกเขาบอกว่าการเชื่อพระเยซู​ไม่ได้​ทำ​ให้​มนุษย์​รอด แต่​การ​รู้แจ้ง​ใน​เรื่อง​ลึกลับ​บางอย่างจะทำให้รอดได้แทน
    – ​พวกนั้นสอนว่า ร่างกาย​เป็น​เพียง​วัตถุ ​บาป​ที่​ร่างกาย​ทำ​นั้นจึงไม่มี​ผล​ต่อ​จิตวิญญาณ​ ดังนั้นพวกเขาบอกว่าทำบาปได้อย่างเต็มที่
    – พวกนั้นสอนว่า ไม่จำเป็น​ต้อง​มี​ความรัก​ต่อ​พี่น้อง​ก็ได้ ตัวใครตัวมัน
  • ​ยอห์น​สอน​ว่าความเชื่อ​และ​จริยธรรม​เป็น​สิ่ง​ที่​แยกกัน​ไม่ได้ ดังนั้นคริสเตียนจำเป็นต้อง​ประพฤติ​ตาม​พระบัญญัติโดย​มี​ความรัก​และ​มีความสามัคคีธรรม​กับ​พี่น้อง
  • ในบทนี้สอนว่า พระเยซูทรงเป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้า เสด็จมาเพื่อไถ่บาปของเรา หากเราเข้าส่วนในพระองค์ด้วยความเชื่อแล้ว เราก็จะสามารถเดินในทางสว่างและได้รับการชำระให้พ้นจากบาปได้

# แนวคิด

@ การประยุกต์ใช้

1# ใน 1ยน. 1:1-7 ยอห์นยืนยันว่า พระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าผู้เสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์จริงๆ ยอห์น​ได้​ยิน ได้​เห็น​กับ​ตา ได้​พินิจ​ดู และ​จับ​ต้อง​ด้วย​มือ​ของเขาเอง

แล้วยอห์น​ก็​ประ​กาศ​ให้พวกเขาได้​รู้​ เพื่อพวกเขาจะ​ได้​มี​สา​มัคคี​ธรรม​กับ​ผู้เชื่อทั้งหลาย กับ​พระ​บิดา และ​กับ​พระ​เยซู​คริสต์​

ยอห์นเล่าว่า เขาได้ยิน​ข้อ​ความ​นี้​จาก​พระเยซู คือ
“​พระ​เจ้า​ทรง​เป็น​ความ​สว่าง และ​ความ​มืด​ใน​พระ​องค์​ไม่​มี​เลย…”

เนื่องจากพระเยซูเป็นความสว่าง ดังนั้น คนที่เข้าส่วนในพระองค์ เป็นไปไม่ได้​ที่​ยัง​เดิน​อยู่​ใน​ความ​มืด
คนที่เข้าส่วนในพระองค์ย่อมเดิน​อยู่​ใน​ความ​สว่าง เหมือน​อย่าง​​พระ​องค์​ และเมื่อเราเดินในความสว่างด้วยกัน เราจึง​มี​สา​มัคคี​ธรรม​ซึ่ง​กัน​และ​กัน และ​พระ​โล​หิต​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​ ก็​ชำระ​เรา​ให้​ปราศ​จาก​บาป​ทั้ง​สิ้น

1.@ สิ่งที่พิสูจน์ยืนยันว่า เราอยู่ในพระเยซูจริงๆ ก็คือ เราเดินในทางที่พระเยซูเดิน และ ผูกพันกับพี่้น้องที่ร่วมเดินในทางของพระเยซูด้วยกัน

วันนี้ ชีวิตของเรา ยังเดินในความมืด และ ยังไม่รักพี่น้องอยู่หรือเปล่า?

2.# ใน 1ยน. 1:8-10 สอนว่า เราทุกคนมีบาป ขึ้นอยู่กับว่าเราจะยอมรับความจริงนี้หรือไม่เท่านั้นเอง
ถ้า​เรา​ยอมรับความจริงนี้ ว่า เรามีบาป และ ​เรา​สาร​ภาพ​บาป​ของ​เราต่อพระเยซู พระ​องค์​ก็​จะ​ทรง​โปรด​ยก​บาป​ของ​เรา และ​จะ​ทรง​ชำระ​เรา​ให้​พ้น​จาก​การ​อธรรม​ทั้ง​สิ้น

2.@ ไม่น่าแปลกที่เราจะผิดพลาดพลั้งบาปไป ในวันนี้ แต่เมื่อเรารู้ตัวแล้ว เราควรรีบใจกลับใจใหม่ สารภาพบาปนั้นต่อพระเยซู ขอโทษต่อพระองค์แล้วขอพระองค์เปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา และช่วยเราให้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง

คำคม

“ ผิดพลาดพลั้งบาปไปเมื่อใด รีบเริ่มต้นใหม่โดยกลับมาหาพระองค์ในทันที ”