ภาพรวม
- ในบทนี้สอนว่า ในเมื่อเราเป็นบุตรของพระเจ้าแล้ว เราจะไม่ดำเนินในทางบาปและเราจะรักพี่น้องผู้เป็นบุตรของพระเจ้าเหมือนกันกับเรา
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1# ใน 1ยน. 3:1-10 ช้ให้เห็นว่า พระบิดาได้ประทานความรักแก่เราอย่างเหลือล้น ที่เราได้ชื่อว่าเป็น ลูกของพระเจ้า
เดี๋ยวนี้เราเป็นลูกของพระเจ้า
เรารู้ว่าในเวลาที่พระองค์จะเสด็จมาปรากฏนั้น เราจะเป็นเหมือนอย่างพระองค์
ใครก็ตามที่มีความหวังอย่างนี้ ก็จะชำระตนให้บริสุทธิ์เหมือนที่พระองค์ทรงบริสุทธิ์ ด้วยการไม่ดำเนินชีวิตในบาปอีกต่อไป
เพราะพระเยซูทรงปรากฏเพื่อกำจัดบาปของเราให้หมดไป ดังนั้นเราผู้ที่อยู่ในพระองค์จึงไม่ทำบาปอีกต่อไป
แต่คนที่ยังไม่รู้จักพระเยซูจริงๆ พวกเขาจะยังคงทำบาปอยู่เรื่อยๆ ไม่คิดจะกลับใจออกจากบาปนั้น
คนที่ทำสิ่งที่ชอบธรรม ก็เหมือนอย่างที่พระองค์ทรงชอบธรรม
คนที่ทำบาป ก็เหมือนอย่างมารที่ทำบาปตั้งแต่เริ่มแรก
พระเยซูเสด็จมาก็เพื่อทำลายกิจการของมาร
ด้วยเหตุนี้ ผู้อยู่ในพระเยซู ซึ่งเป็นผู้เกิดจากพระเจ้าย่อมไม่ทำบาป
เพราะเชื้อของพระเจ้าอยู่ในคนนั้น เขาจึงทำบาปไม่ได้
ทุกครั้งที่เขาเผลอทำบาป เขาจะไม่มีวันมีความสุขเลย จนกว่าจะกลับใจ สารภาพนั้นต่อพระเจ้า
ดังนั้น วิธีดูว่า ใครเป็นลูกของพระเจ้า และใครเป็นลูกของมาร ก็คือ
ลูกพระเจ้า จะชอบทำสิ่งที่ชอบธรรม และจะทำสิ่งที่ชอบธรรมเสมอ และจะรักพี่น้องในพระคริสต์
ลูกของมาร จะชอบทำบาป และจะทำบาปอยู่เสมอ และไม่รักพี่น้องของตน
1.@ พระเจ้าเมตตาเราเหลือเกิน ให้เราได้เป็นลูกของพระเจ้า
เราสมควรอย่างยิ่งที่จะดำเนินชีวิตให้สมกับเป็นลูกของพระเจ้า ไม่ใช่ทำตัวดังลูกของมาร
วันนี้ เรารักพี่น้องคริสเตียน เป็นการกระทำอย่างไรบ้าง?
วันนี้ เราตอบสนองอย่างไร เมื่อเราผิดพลาดพลั้งบาปไป?
2.# 1ยน. 3:11-22 สอนว่า ให้เรารักกันและกัน
อย่าเป็นเหมือนอย่างคาอินที่ไม่รักน้อง แต่อิจฉาน้อง จนฆ่าน้อง
โลกนี้ ไม่รักเรา นั่นเป็นเรื่องปกติธรรมดา
แต่ถ้าเราไม่รักพี่น้อง นั่นเป็นเรื่องผิดปกติอย่างมาก
เพราะแสดงว่า เราไม่ได้อยู่ฝ่ายพระเจ้า แต่กำลังอยู่ในความมืดแห่งโลกนี้
ผู้ที่ไม่รักก็ยังอยู่ในความตาย
เรารู้ว่าเราได้พ้นจากความตายไปสู่ชีวิตแล้ว
ดังนั้น เราจึงรักพี่น้อง
คนที่เกลียดชังพี่น้อง ก็เป็นผู้ฆ่าคน เหมือนคาอิน
ผู้นั้นยังไม่มีชีวิตนิรันดร์จริงๆ
พระเยซูได้ทรงรักเรา จนยอมสละพระชนม์ของพระองค์เพื่อเรา
ดังนั้น หากเรารักพี่น้อง เราก็ควรจะสละชีวิตของเราเพื่อพี่น้อง ด้วยเช่นกัน
นั่นคือ ถ้ารักพี่น้องจนยอมตายแทนเขาได้ มีหรือจะไม่ช่วยเหลือพี่น้อง ในยามที่เขาประสบความทุกข์ยากลำบาก
อย่าให้เรารักกันด้วยคำพูดและด้วยปากเท่านั้น
แต่จงรักกันด้วยการกระทำตามพระคำของพระเจ้า
คนที่รักพี่น้อง ก็อยู่ฝ่ายสัจจะ
และใจของเขาจะหมดกังวลเฉพาะพระพักตร์พระองค์
คนที่อยู่ฝ่ายสัจจะนั้น
– เมื่อใจของเขากล่าวโทษเขา เพราะเขาผิดพลาดพลั้งบาป เขาก็ยังมั่นใจในความรักและการอภัยจากพระเจ้า เขาจะกลับใจใหม่และเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้เสมอ
– ใจของเขาไม่ได้กล่าวโทษเขา เพราะเขาดำเนินในทางชอบธรรม ดำเนินตามน้ำพระทัยของพระเจ้า เขาก็มีความมั่นใจที่จะเข้าเฝ้าพระเจ้า และมั่นใจว่า เมื่อเขาขอสิ่งใด ก็ได้สิ่งนั้นจากพระองค์
2.@ เพราะเราซาบซึ้งในความรักของพระเจ้า เราจึงรักพี่น้อง
ยิ่งเรารักพี่น้อง เราก็ยิ่งมั่นใจในความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรายิ่งขึ้นไปอีก
เมื่อพี่น้องทำผิด เรารักเขา จึงยกโทษให้เขา
เมื่อเราทำผิด เราจึงมั่นใจอย่างไม่สงสัยเลยว่า พระเจ้าทรงยกโทษให้เราแน่ๆ เพราะขนาดรักพี่น้องเล็กน้อยก็ยังยกโทษให้เขาได้เลยแล้วพระองค์รักเราอย่างหาที่เปรียบมิได้ มีหรือจะไม่ยกโทษให้แก่เรา
3.# ใน 1ยน. 3:23-24 สอนว่า พระบัญญัติของพระเจ้า คือ
“ให้เราวางใจในพระนามของพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ และให้เรารักกันและกัน”
ใครก็ตามที่ประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์ก็อยู่ในพระองค์ และพระองค์สถิตอยู่ในคนนั้น
3.@ เรารู้ได้อย่างไรว่า ใครมีพระเยซูอยู่ในเขาแล้ว?
ก็คือ ใครที่วางใจในพระเยซูจริงๆ และ รักพี่น้องจริงๆ
คนนั้นมีพระเยซูทรงในเขาอย่างแท้จริง
คำคม
“ บุตรของพระเจ้าแท้ จะรักพระเจ้า และรักบุตรของพระเจ้า ”