ภาพรวม
- ในบทนี้สอนอธิบายเพื่อต่อต้านคำสอนเท็จ ว่าพระเยซูไม่ใช่พระบุตรของพระเจ้า และบอกว่า ไม่จำเป็นต้องรักพี่น้อง ซึ่งขัดแย้งกับข่าวประเสริฐอย่างสิ้นเชิง
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1# ใน 1ยน. 4:1-6 สอนว่า อย่าเชื่อทุกๆ วิญญาณ แต่ให้พิสูจน์วิญญาณนั้นๆ ว่ามาจากพระเจ้าหรือไม่
เนื่องจากของจริงก็มี และ ของปลอมก็มีอยู่มาก
วิธีพิสูจน์ ก็คือ วิญญาณที่มาจากพระเจ้า จะยอมรับว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า มาบังเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อช่วยมนุษย์ให้รอด
กล่าวอีกนัยหนึ่งก้คือ ถ้ามาจากพระเจ้า จะสนับสนุนและสอดคล้องกับข่าวประเสริฐ
วิญญาณใดที่ขัดแย้งกับข่าวประเสริฐ วิญญาณนั้นก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า
คนเหล่านั้นที่มีวิญญาณนั้นในตัว เป็นศัตรูของพระคริสต์
เราผู้อยู่ฝ่ายพระเจ้า และชนะพวกเขาเหล่านั้นแล้ว
เพราะว่าพระเจ้าผู้ทรงอยู่ในเรา ยิ่งใหญ่กว่า วิญญาณที่อยู่ในพวกเขาเหล่านั้น
พวกเขาเหล่านั้นเป็นฝ่ายโลก ดังนี้พวกเขาจึงพูดตามโลกและโลกก็เชื่อฟังเขา
เราอยู่ฝ่ายพระเจ้า คนที่อยู่ฝ่ายพระเจ้าก็จะฟังเรา ส่วนคนที่ไม่ได้อยู่ฝ่ายพระเจ้าก็จะไม่ฟังเรา
ดังนั้น เราจึงรู้ได้ว่า ใครมีวิญญาณของความจริง และใครมีวิญญาณของความเท็จ
คนที่ยอมรับข่าวประเสริฐ มีวิญญาณของความจริง
คนที่ไม่ยอมรับข่าวประเสริฐ มีวิญญาณของความเท็จ
1.@ เราสามารถแยกแยะ คำสอนที่มาจากพระเจ้า หรือ มาจากศัตรู ได้โดยสังเกตว่า คำสอนเหล่านั้น สอดคล้อง หรือ ขัดแย้งกับข่าวประเสริฐ
ข่าวประเสริฐ คือ ใครเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์สำหรับการรอดพ้นนบาป เขาก็จะรอดพ้นบาป และเมื่อรอดพ้นบาปแล้ว เขาก็จะไม่เดินในทางบาปอีกต่อไป
2.# ใน 1ยน. 4:7-21 สอนว่า ให้เรารักกันและกัน เพราะว่าความรักมาจากพระเจ้า ดังนั้นเราผู้เกิดจากพระเจ้า และรู้จักพระเจ้า จึงสมควรสำแดงความรักของพระเจ้าแก่กันและกัน
ส่วนคนที่ไม่รักพี่น้อง เขาก็ยังไม่รู้จักพระเจ้าจริงๆ
เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก
พระเจ้าทรงรักเรา จึงทรงใช้พระบุตรองค์เดียวของพระองค์เข้ามาในโลก เพื่อช่วยเรา เพื่อเป็นเครื่องบูชาลบบาปของเรา
เพราะพระเจ้าทรงรักเราก่อน อย่างมากมายเหลือล้น
เราก็ควรจะรักกันและกันด้วย
ไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้า จึงไม่อาจมองเห็นว่าพระเจ้าสถิตในเราจริงหรือไม่
แต่ถ้าเรารักกันและกัน นั่นเป็นบทพิสูจน์อย่างดี ว่า พระเจ้าสถิตอยู่ในเรา และความรักของพระเจ้าได้เข้ามาอยู่ในเราอย่างสมบูรณ์แล้ว
ดังนั้นคนที่รักพี่น้อง สรุปได้เลยว่า
เขาอยู่ในพระเจ้า และ พระเจ้าทรงอยู่ในเขา
พระวิญญาณของพระองค์ทรงอยู่ในเขา
เขาจึงมั่นใจได้เลยว่า ในวันพิพากษา เขาจะรอดพ้นการพิพากษาและเข้าส่วนในพระเจ้าอย่างแน่นอน
ในความรักนั้นไม่มีความกลัว แต่ความรักที่สมบูรณ์นั้นก็ขับไล่ความกลัวออกไปเสีย
เพราะความกลัวเกี่ยวข้องกับการลงโทษ
และผู้ที่กลัวการพิพากษา ก็ยังไม่มีความรักที่สมบูรณ์
เขายังไม่รู้จักและเข้าใจความรักของพระเจ้าจริงๆ
คนที่ยอมรับว่า “พระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้า”
พระเจ้าทรงอยู่ในคนนั้น และคนนั้นอยู่ในพระเจ้า
แสดงว่า คนนั้นก็ได้ถูกปกคลุมด้วยความรักของพระเจ้าแล้ว
เพราะพระเจ้าทรงเป็นความรัก
ด้วยเหตุนี้ เพราะพระเจ้าทรงรักเราก่อน เราจึงสามารถรักพี่น้องได้
ซึ่งถ้าใครกล่าวว่า “ข้าพเจ้ารักพระเจ้า”
แต่ใจยังเกลียดชังพี่น้องของตน เขาเป็นคนพูดโกหก
เพราะว่าคนที่ไม่รักพี่น้องของตนที่มองเห็นแล้ว ซึ่งเป็นพี่น้องที่มีพระเจ้าอยู่ในเขา
คนนั้นจะรักพระเจ้าที่มองไม่เห็นได้อย่างไร
คนที่รักพระเจ้านั้น จะรักพี่น้องด้วย
2.@ พระเจ้าทรงรักเรามาก เราสมควรรักตอบพระองค์ ด้วยการรักคนที่พระองค์ทรงรัก
วันนี้ เราได้สำแดงออกถึงความรักของเรา ที่มีต่อพระเจ้าอย่างไรบ้าง?
คำคม
“ เราตอบสนองความรักต่อพระเจ้าได้ ด้วยการรักกันและกัน”