ภาพรวม
- ในบทนี้ยอห์นบรรยายถึงนิมิตที่เขาได้รับจากพระเจ้าเกี่ยวกับ คน 144,000 คน และ การเก็บเกี่ยวของพระเยซู และของทูตสวรรค์
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1# ใน วว. 14:1-20 ยอห์นได้บรรยายถึงนิมิตที่พระเจ้าทรงสำแดงแก่เขา ไว้ดังนี้
หลังจากที่เขาได้เห็นนิมิตเกี่ยวกับสัตว์ร้าย 2 ตัวแล้ว
เขาก็เห็นพระเยซู ทรงยืนอยู่บนภูเขาศิโยน และพร้อมกับคน 144,000 คน
คนเหล่านั้นมีพระนามของพระเยซูและของพระบิดา เขียนไว้บนหน้าผาก
มีเสียงจากสวรรค์ เหมือนเสียงน้ำมากหลาย และเหมือนเสียงฟ้าร้องดังสนั่น และเหมือนเสียงดีดพิณ
เป็นเสียงร้องเพลงบทใหม่ของคน 144,000 คน หน้าพระที่นั่งของพระเจ้า
ไม่มีใครสามารถเรียนรู้เพลงบทนั้น นอกจากพวกเขา
คน 144,000 คน นี้
– ได้รับการไถ่แล้วจากแผ่นดินโลก
– เป็นพรหมจารี ไม่มีมลทินกับผู้หญิง
– ติดตามพระเยซูไม่ว่าพระองค์จะเสด็จไปที่ไหน
– ได้รับการไถ่แล้วจากมวลมนุษย์เพื่อเป็นผลแรกถวายแด่พระเจ้า
– ปากของพวกเขาไม่พบความเท็จ
– ปราศจากตำหนิ
แล้วมีทูตสวรรค์ องค์ที่ 1
เหาะไปในท้องฟ้า เพื่อประกาศข่าวประเสริฐนิรันดร์แก่คนทั้งหลายที่อยู่บนแผ่นดินโลก ว่า
“จงเกรงกลัวพระเจ้า และถวายพระเกียรติแด่พระองค์
เพราะถึงเวลาที่พระองค์จะทรงพิพากษาแล้ว
จงนมัสการพระองค์ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ แผ่นดินโลก ทะเล และบ่อน้ำพุทั้งหลาย”
แล้วทูตสวรรค์ องค์ที่ 2
ตามไปประกาศว่า
“บาบิโลนมหานครนั้นพังทลายแล้ว พังทลายแล้ว
นครที่ให้ทุกประชาชาติดื่มเหล้าองุ่นแห่งราคะในการล่วงประเวณีของนาง”
แล้วทูตสวรรค์ องค์ที่ 3
ก็ตามไปประกาศว่า
“ถ้าใครบูชาสัตว์ร้ายและรูปของมัน
และรับเครื่องหมายของมันไว้ที่หน้าผากหรือที่มือของเขา
คนนั้นจะต้องดื่มเหล้าองุ่นแห่งความกริ้วของพระเจ้า
ที่เทลงในถ้วยแห่งพระพิโรธของพระองค์โดยไม่เจือปนสิ่งใด
และเขาจะถูกทรมานด้วยไฟและกำมะถัน
ต่อหน้าบรรดาทูตสวรรค์บริสุทธิ์และเฉพาะพระพักตร์พระเมษโปดก
และควันแห่งการทรมานของเขาจะพลุ่งขึ้นตลอดไปเป็นนิตย์
พวกที่บูชาสัตว์ร้ายและรูปของมัน
และใครที่รับเครื่องหมายซึ่งเป็นชื่อของมัน
จะไม่ได้หยุดพักเลยทั้งกลางวันและกลางคืน”
ดังนั้น ถึงแม้ว่าในที่สุดแล้ว คนชั่วร้ายจะได้รับการลงโทษอย่างสาสม
แต่ในเวลานี้ ในณะที่ธรรมิกชนกำลังรอคอยวันนั้น พวกเขาต้องมีความทรหดอดทนที่จะถือรักษาพระบัญญัติของพระเจ้า และจงรักภักดีต่อพระเยซู เอาไว้ให้มั่น
แล้วมีเสียงจากสวรรค์กล่าวว่า
“จงเขียนไว้เถิดว่า ตั้งแต่นี้ไป คนทั้งหลายที่ตายในองค์พระผู้เป็นเจ้าก็เป็นสุข”
และพระวิญญาณตรัสว่า
“จริงอย่างนั้น พวกเขาจะได้หยุดพักจากการตรากตรำของเขา
เพราะการงานที่พวกเขาได้ทำนั้นจะติดตามเขาไป”
แล้วยอห์นก็เห็น พระเยซูประทับอยู่บนเมฆสีขาว
– มีมงกุฎทองคำ อยู่บนพระเศียร
– มีเคียวอันคมกริบ อยู่ในพระหัตถ์
แล้วมีทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งออกมาจากพระวิหาร
ร้องทูลพระเยซูด้วยเสียงดังว่า
“จงใช้เคียวของพระองค์เก็บเกี่ยวเถิด เพราะถึงเวลาเกี่ยวแล้ว
เพราะว่าผลที่ต้องเก็บเกี่ยวบนแผ่นดินโลกสุกงอมแล้ว”
แล้วพระองค์ก็ทรงตวัดเคียวไปบนแผ่นดินโลก
และแผ่นดินโลกก็ถูกเก็บเกี่ยว
แล้วมีทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่ง ออกมาจากพระวิหาร
ท่านก็มีเคียวอันคมกริบเช่นกัน
แล้วทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่ง ผู้มีฤทธิ์เหนือไฟก็ออกมาจากแท่นบูชา
และร้องเสียงดังบอกทูตสวรรค์นั้นว่า
“จงใช้เคียวคมกริบของท่านเก็บรวบรวมพวงองุ่นจากเถาองุ่นของแผ่นดินโลก
เพราะผลองุ่นนั้นสุกแล้ว”
ทูตสวรรค์นั้นก็ตวัดเคียวไปบนแผ่นดินโลก
และเก็บรวบรวมเถาองุ่นของแผ่นดินโลก
และเทลงไปในบ่อย่ำองุ่นใหญ่แห่งความกริ้วของพระเจ้า
วว. 14:20 บ่อย่ำองุ่นก็ถูกย่ำภายนอกเมือง
และโลหิตไหลออกจากบ่อย่ำองุ่นนั้น
สูงถึงบังเหียนม้าและไหลไปไกลประมาณสามร้อยกิโลเมตร
1.@ เมื่อการพิพากษาของพระเจ้ามาถึง
คนชอบธรรมผู้เชื่อวางใจในพระเยซู จะได้รับการเก็บเกี่ยวเข้าส่วนในพระสิริของพระเจ้า
คนอธรรม ผู้ไม่มีความชอบธรรมของพระเยซู จะถูกเก็บเกี่ยวเข้าสู่ความทุกข์ทรมานชั่วนิรันดร์ ทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่มีวันหยุดพักเลย
เราไม่สามารถสร้างความชอบธรรมได้ด้วยตนเอง แต่พระเยซูพร้อมที่จะประทานให้
อย่ารอช้ารีบบอกกับคนที่ยังไม่ได้รับความชอบธรรม ที่จะช่วยเขาพ้นการพิพากษา
ให้เขารีบเข้ามาหาพระเยซู เชื่อวางใจในพระองค์
คำคม
“ การเก็บเกี่ยวจะมาถึง เพื่อแยกผู้จะได้รับพระพร และ ผู้จะได้รับพระพิโรธ ออกจากกัน ”