ภาพรวม
- ในบทนี้ยอห์นบรรยายถึงนิมิตที่เขาได้รับจากพระเจ้าเกี่ยวกับคำพยากรณ์ถึงการล่มสลายของมหานครบาบิโลน
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1# ใน วว. 18:1-24 ยอห์นได้บรรยายถึงนิมิตที่พระเจ้าทรงสำแดงแก่เขา ไว้ดังนี้
เมื่อทูตสวรรค์องค์หนึ่ง ได้บอกยอห์น ถึงการพิพากษาที่จะมาถึงหญิงแพศยา ซึ่งหมายถึงนครใหญ่ (บทที่ 17) แล้ว
จากนี้ มีทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่ง ลงมาจากสวรรค์
– มีอำนาจใหญ่ยิ่ง
– รัศมีของท่านได้ทำให้แผ่นดินโลกสว่าง
– ได้ร้องประกาศด้วยเสียงกึกก้องว่า
“บาบิโลนมหานคร ล่มจมแล้ว ล่มจมแล้ว
>>>> กลายเป็นที่อาศัยของผีปีศาจ
>>>> เป็นที่สิงอยู่ของผีโสโครกทุกอย่าง
>>>> เป็นที่อาศัยของนกทุกอย่างที่ไม่สะอาดและน่าเกลียด
เพราะว่า
>>>> ประชาชาติทั้งปวงได้ดื่มเหล้าองุ่นแห่งความกำหนัด ในการล่วงประเวณีของนครนั้น
>>>> บรรดากษัตริย์บนแผ่นดินโลกได้ล่วงประเวณีกับนครนั้น
>>>> พ่อค้าทั้งหลายแห่งแผ่นดินโลกก็ได้มั่งมีขึ้น ด้วยทรัพย์ฟุ่มเฟือยของนครนั้น”
แล้วมีอีกเสียงหนึ่งประกาศมาจากสวรรค์ว่า
“ดูก่อน ชนชาติของเรา จงออกมาจากนครนั้นเถิด
>>>> เพื่อท่านทั้งหลายจะไม่มีส่วนในการบาปของนครนั้น
>>>> เพื่อท่านจะไม่ต้องรับภัยพิบัติที่จะเกิดแก่นครนั้น
เพราะว่า
>>>> บาปของนครนั้นกองสูงขึ้นถึงสวรรค์แล้ว
>>>> พระเจ้าได้ทรงจำการทุจริตแห่งนครนั้นได้
>>>> นครนั้นกำลังจะได้รับผลอย่างที่เมืองนั้นกระทำต่อผู้อื่น
>>>> นครนั้นกำลังจะได้รับการตอบแทนการกระทำเป็น 2 เท่า
>>>> นครนั้นกำลังจะได้รับการทรมาน และความระทมทุกข์มากเท่ากับความเย่อหยิ่งจองหองและการเสเพลของพวกเขา
>>>> นครนั้นกำลังจะได้รับถ้วยแห่งพระพิโรธเป็น 2 เท่า
>>>> ภัยพิบัติต่างๆ ของนครนั้นจะเกิดขึ้นในวันเดียว เพราะนครนั้นทะนงใจว่า
>>>>>>>>> ‘เราดำรงอยู่ในตำแหน่งราชินี ไม่ใช่หญิงม่าย
>>>>>>>>> เราจะไม่ประสบความระทมทุกข์เลย’
>>>> นครนั้นจะพบกับ โรคระบาด ความระทมทุกข์ การกันดารอาหาร
>>>> ไฟจะเผานครนั้นให้พินาศหมดสิ้น ”
เสียงที่มาจากสวรรค์ ประกาศต่อไป ว่า
“บรรดากษัตริย์แห่งแผ่นดินโลก ที่ได้ล่วงประเวณีกับนครนั้นและได้เสเพลร่วมกันนั้น
เมื่อได้เห็นควันไฟที่ไหม้นครนั้นก็จะพิลาปร่ำไห้คร่ำครวญ
พวกกษัตริย์จะยืนอยู่แต่ห่างๆ เพราะกลัวภัยแห่งการทรมานของนครนั้น
และจะกล่าวว่า
>>>> “วิบัติแล้ว วิบัติแล้วบาบิโลนมหานครที่ยิ่งใหญ่
>>>> เจ้าได้รับการพิพากษาโทษให้พินาศไปภายในชั่วโมงเดียวเท่านั้น” “
เสียงที่มาจากสวรรค์ ประกาศต่อไป ว่า
“บรรดาพ่อค้าในแผ่นดินโลกจะร่ำไห้คร่ำครวญเพราะนครนั้น
เพราะว่าไม่มีใครซื้อสินค้าของเขาอีกต่อไปแล้ว
สินค้าเหล่านั้นคือ
ทองคำ เงิน เพชรพลอยต่างๆ ไข่มุก ผ้าป่านเนื้อละเอียด ผ้าสีม่วง ผ้าไหม ผ้าสีแดงเข้ม ไม้หอมทุกชนิด เครื่องที่ทำด้วยงา เครื่องไม้ที่มีราคามาก เครื่องทองสัมฤทธิ์ เครื่องเหล็ก เครื่องศิลาลาย อบเชย เครื่องเทศ เครื่องหอม มดยอบ กำยาน เหล้าองุ่น น้ำมัน ยอดแป้ง ข้าวสาลี โค แกะ ม้า รถรบ และทาส และชีวิตมนุษย์”
เสียงที่มาจากสวรรค์ ประกาศต่อนครนั้น ว่า
“ผลซึ่งจิตของเจ้ากระหายใคร่ได้นั้นก็ล่วงพ้นไปจากเจ้าแล้ว
สิ่งสารพัดอันวิเศษยิ่งและหรูหราก็พินาศไปจากเจ้าแล้ว
และเจ้าจะไม่ได้พบอีกเลย”
เสียงที่มาจากสวรรค์ ประกาศต่อไป ว่า
“บรรดาพ่อค้าที่ได้ขายสิ่งของเหล่านั้น จนเป็นคนมั่งมีเพราะนครบาบิโลนนั้น
จะยืนอยู่แต่ไกล เพราะกลัวภัยจากการทรมานของนครนั้น
พวกเขาจะร้องไห้คร่ำครวญด้วยเสียงดัง ว่า
>>>> “วิบัติแล้ว วิบัติแล้วมหานครนั้น ที่ได้นุ่งห่มผ้าป่านเนื้อละเอียด ผ้าสีม่วงและผ้าสีแดงเข้ม
>>>> ที่ได้ประดับด้วยทองคำ เพชรพลอยต่างๆ และไข่มุกนั้น
>>>> เพียงในชั่วโมงเดียว ทรัพย์สมบัติเหล่านั้นก็พินาศสูญไปสิ้น” “
เสียงที่มาจากสวรรค์ ประกาศต่อไป อีกว่า
“และนายเรือทุกคน คนที่โดยสารเรือ พวกลูกเรือ และคนทั้งหลายที่มีอาชีพทางทะเล
ก็ได้ยืนอยู่แต่ห่างๆ
และเมื่อคนเหล่านั้นได้เห็นควันไฟที่ไหม้นครนั้นก็ร้องว่า
>>>> “นครใดเล่าจะเป็นเหมือนมหานครนี้”
และเขาทั้งหลายก็โปรยผงคลีลงบนศีรษะของตน ส่งเสียงร้องไห้โศกเศร้า กล่าวว่า
>>>> “วิบัติแล้ว วิบัติแล้วมหานครนี้ อันเป็นที่ซึ่งคนทั้งปวง
>>>> ที่มีเรือกำปั่นเดินทะเล ได้เป็นคนมั่งมีขึ้นด้วยทรัพย์สมบัติของนครนั้น
>>>> ภายในชั่วโมงเดียวนครนั้นก็เป็นที่ร้างเปล่า” “
เสียงที่มาจากสวรรค์ ประกาศ ว่า
“แน่ะเมืองสวรรค์ บรรดาธรรมิกชน อัครทูตและพวกผู้เผยพระวจนะทั้งหลาย
จงร่าเริงยินดีเพราะนครนั้นเถิด
เพราะพระเจ้าได้ทรงพิพากษาลงโทษนครนั้นให้ท่านทั้งหลายแล้ว”
แล้วทูตสวรรค์องค์หนึ่งที่มีฤทธิ์มาก
ก็ได้ยกหินก้อนหนึ่งเหมือนหินโม่ใหญ่ทุ่มลงไปในทะเลแล้วว่า
“บาบิโลนมหานครนั้นจะถูกทุ่มลงโดยแรงอย่างนี้แหละ
และจะไม่มีใครเห็นนครนั้นอีกต่อไปเลย
และจะไม่มีใครได้ยินเสียงนักดีดพิณ นักเล่นมโหรี นักเป่าขลุ่ย และนักเป่าแตรในเจ้าอีกต่อไป
และในเจ้าจะไม่มีช่างในวิชาช่างต่างๆ อีกต่อไป
และจะไม่มีใครได้ยินเสียงโม่แป้งในเจ้าอีกต่อไป
และในเจ้าจะไม่มีแสงประทีปส่องสว่างอีกต่อไป
และจะไม่มีใครได้ยินเสียงเจ้าบ่าวเจ้าสาวในเจ้าอีกต่อไป
เพราะว่าบรรดาพ่อค้าของเจ้าได้เป็นคนใหญ่โตแห่งแผ่นดินโลกแล้ว
และวิทยาคมของเจ้าได้ล่อลวงบรรดาประชาชาติให้ลุ่มหลง
และในนครนั้นเขาได้พบโลหิตของผู้เผยพระวจนะและพวกธรรมิกชน
และบรรดาคนที่ถูกฆ่าบนแผ่นดินโลก”
1.@ สิ่งยั่วยวนแห่งโลกนี้ กำลังจะพินาศไป และคนที่สิ่งไล่ติดตามพวกมัน ก็กำลังจะพินาศด้วย
ขอให้เรารู้ตัว เพราะพระคำของพระเจ้าได้เตือนเราไว้แล้ว อย่าไล่จับสิ่งที่กำลังจะพินาศ
แต่จงยึดสิ่งที่ถาวรนิรันดร์เอาไว้ให้มั่น
คำคม
“ คนที่หัวเราะเพราะบาปในวันนี้ จะร้องไห้ในวันพิพากษา ”