ภาพรวม
- ในบทนี้ยอห์นบรรยายถึงนิมิตที่เขาได้รับจากพระเจ้าเกี่ยวกับการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์ เพื่อปราบสัตว์ร้ายและพรรคพวกของมัน
# แนวคิด
@ การประยุกต์ใช้
1# ใน วว. 19:1-21 ยอห์นได้บรรยายถึงนิมิตที่พระเจ้าทรงสำแดงแก่เขา ไว้ดังนี้
เมื่อยอห์นได้ยินคำพยากรณ์ถึงการล่มสลายของมหานครบาบิโลนแล้ว (บทที่ 18)
แล้วมีเสียงเหมือนกับเสียงของมหาชนที่ดังสนั่นอยู่ในสวรรค์ กล่าวว่า
“ฮาเลลูยา ความรอด พระสิริ และฤทธานุภาพเป็นของพระเจ้าของเรา
เพราะการพิพากษาของพระองค์เที่ยงตรงและยุติธรรม
พระองค์ทรงพิพากษาหญิงแพศยาตัวเอ้
ผู้ทำให้แผ่นดินโลกเสื่อมทรามด้วยการล่วงประเวณีของนาง
และพระองค์ทรงแก้แค้นหญิงคนนั้น ในเรื่องโลหิตของบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์”
คนเหล่านั้นร้องอีก เป็นครั้งที่ 2 ว่า
“ฮาเลลูยา ควันไฟของนครนั้นพลุ่งขึ้นตลอดไปเป็นนิตย์”
แล้วพวกผู้อาวุโสทั้ง 24 คนกับสิ่งมีชีวิตทั้ง 4 (วว.4:4-6) ก็ทรุดตัวลงนมัสการพระเจ้า
ร้องว่า “อาเมน ฮาเลลูยา”
แล้วมีเสียงออกมาจากพระที่นั่งว่า
“ผู้รับใช้ทุกคนของพระเจ้า และบรรดาคนที่เกรงกลัวพระองค์ ทั้งคนเล็กน้อยและคนใหญ่โต
จงสรรเสริญพระเจ้าของเรา”
แล้วก็มีเสียงเหมือนอย่างเสียงมหาชน เหมือนเสียงน้ำมากหลาย และเหมือนเสียงฟ้าร้องกึกก้อง ว่า
“ฮาเลลูยา เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงครอบครองอยู่
คือพระเจ้าของเราผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด
ขอให้เรายินดีและเปรมปรีดิ์ และถวายพระเกียรติแด่พระองค์
เพราะงานอภิเษกสมรสของพระเมษโปดกมาถึงแล้ว
และเจ้าสาวของพระองค์ก็เตรียมตัวพร้อมแล้ว
และโปรดให้เจ้าสาวสวมใส่ ผ้าป่านเนื้อละเอียด มันระยับและสะอาด
เพราะว่าผ้าป่านเนื้อละเอียดนั้นคือการประพฤติอันชอบธรรมของธรรมิกชน”
แล้วทูตสวรรค์องค์นั้น (วว. 17:1) ก็บอกยอห์น ว่า
“จงเขียนลงไปว่า ความสุขมีแก่คนทั้งหลายที่ได้รับเชิญมาในงานเลี้ยงอภิเษกสมรสของพระเมษโปดก”
และบอกอีกว่า
“ถ้อยคำเหล่านี้เป็นคำที่สัตย์จริงของพระเจ้า”
แล้วยอห์นก็ทรุดตัวลงแทบเท้าของท่าน เพื่อจะนมัสการท่าน
แต่ท่านกล่าวกับข้าพเจ้าว่า
“อย่าทำแบบนี้ เราเป็นผู้ร่วมรับใช้เช่นเดียวกับท่าน
และพี่น้องของท่านที่ยึดถือคำพยานของพระเยซู จงนมัสการพระเจ้าเถิด”
แล้วสวรรค์ก็เปิดออก และ พระเยซูทรงทรงม้าสีขาว ออกมา
– พระองค์ทรงเป็น ผู้ทรงซื่อสัตย์และสัตย์จริง
– พระองค์ทรงพิพากษาและทรงต่อสู้ ด้วยความชอบธรรม
– พระเนตร เหมือนเปลวไฟ
– บนพระเศียร มีมงกุฎหลายอัน
– ทรงมีพระนามจารึกไว้ซึ่งไม่มีใครรู้จักเลยนอกจากพระองค์เอง
– ทรงฉลองพระองค์ที่ได้จุ่มในเลือด
– พระนามที่เรียกพระองค์ คือ “พระวาทะของพระเจ้า”
– มีพระแสงคมกริบออกมาจากพระโอษฐ์ เพื่อพระองค์จะทรงใช้มันฟาดฟันประชาชาติต่างๆ
– จะทรงครอบครองประชาชาติต่างๆด้วยคทาเหล็ก
– จะทรงย่ำบ่อย่ำองุ่นแห่งพระพิโรธรุนแรงของพระเจ้า
– ทรงมีพระนามจารึกที่เสื้อ และที่โคนขา ว่า “กษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งหลายและเจ้านายเหนือเจ้านายทั้งหลาย”
กองทัพทั้งหลายในสวรรค์
– ขี่ม้าขาวตามเสด็จพระองค์ไป
– นุ่งห่มผ้าป่านเนื้อละเอียด
– สีขาวสะอาด
แล้วมีทูตสวรรค์องค์หนึ่ง ยืนอยู่บนดวงอาทิตย์
ร้องประกาศเสียงดังแก่นกทั้งหมดที่บินอยู่ในท้องฟ้าว่า
“มาเถิด มาชุมนุมกันในงานเลี้ยงใหญ่ของพระเจ้า
เพื่อจะกินเนื้อกษัตริย์ เนื้อนายทหาร เนื้อคนที่มีกำลังมาก
เนื้อม้า เนื้อของคนทั้งหลายที่นั่งบนหลังของมัน
และเนื้อของทุกคน ทั้งคนที่เป็นเสรีชนและเป็นทาส
ทั้งคนเล็กน้อยและคนใหญ่โต”
แล้วสัตว์ร้าย และบรรดากษัตริย์บนแผ่นดินโลก พร้อมทั้งกองทัพของกษัตริย์เหล่านั้น
มาชุมนุมกันเพื่อทำสงครามกับพระเยซู และกับกองทัพของพระองค์
แต่สัตว์ร้ายนั้นถูกจับพร้อมกับผู้เผยพระวจนะเท็จ ที่ใช้หมายสำคัญล่อลวงคนทั้งหลายที่ได้รับเครื่องหมายของสัตว์ร้าย และคนทั้งหลายที่บูชารูปของมัน
ทั้งสองถูกโยนลงไปทั้งเป็นในบึงไฟที่ลุกไหม้ด้วยกำมะถัน
แล้วคนที่เหลืออยู่ก็ถูกฆ่าด้วยพระแสงที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเยซู
และนกทั้งหมดก็อิ่มด้วยเนื้อของคนเหล่านั้น
1.@ เรื่องข่าวประเสริฐเป็นหัวใจของการเผยพระวจนะทั้งหมด และของพระคัมภีร์ทั้งเล่ม ให้เรายึดมั่นในข่าวประเสริฐไว้ให้มั่น เพื่อว่าเมื่อการเสด็จกลับมาของพระเยซูคริสต์มาถึง
วันนั้นจะเป็นวันแห่งความชื่นชมยินดีสำหรับเรา ไม่ใช่วันที่สุดแสนสะพรึงกลัว
คำคม
“ เมื่อพระเยซูคริสต์เสด็จกลับมา วันนั้นเราจะอยู่ฝ่ายไหน ขึ้นอยู่กับการเลือกของเราในวันนี้ ”