แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว (ยน. 2:1-11) { คิดถูก }

[แนวคิด]  :

– เรื่องพระเยซูทรงเปลี่ยนน้ำเป็นเหล้าองุ่น มีคนคิดถูกอยู่ 4 กลุ่ม

1. เจ้าของงาน คิดถูกที่เชิญพระเยซู…จึงได้รับพร

2. มารดาพระเยซู คิดถูกที่นำปัญหามาทูลต่อพระเยซู…ปัญหาจึงได้รับการแก้ไข

3. คนใช้ คิดถูกที่เชื่อฟังพระเยซูทุกอย่าง…จึงเกิดการอัศจรรย์เกิดขึ้น

4. สาวก คิดถูกที่ติดตามพระเยซู…จึงได้เห็นการอัศจรรย์ จนวางใจพระเยซู

[ประยุกต์ใช้] :

– วันนี้ เรามาคิดถูกกันเถอะ

1. ใครยังไม่ได้เชิญพระเยซู เข้ามาในชีวิต…เชิญด่วนเลย แล้วจะได้พบกับพระพร

2. ใครยังไม่ได้นำปัญหามาทูลต่อพระเยซู…ทูลด่วนเลย แล้วมันจะได้รับการแก้ไข

3. ใครยังไม่ได้เชื่อฟังพระเยซู…เชื่อฟังด่วนเลย แล้วจะเกิดอัศขรรย์ขึ้นในชีวิต

4. ใครยังไม่ได้วางใจพระเยซู…ให้หันกลับไปดู การอัศจรรย์ที่ผ่านมาในชีวิต…แล้ววางใจด่วนเลย…แล้วจะได้พบการอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เคยพบมา

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว (ยน. 2:12) { จังหวะแห่งการรับใช้ }

[แนวคิด]  :

– หลังจากพระเยซูทำอัศจรรย์ครั้งแรกที่หมู่บ้านคานา แทนที่พระองค์จะรีบทำอะไรต่อไปเลย ให้กิตติศัพท์เลื่องลือไปเลย กลับเดินทางไปเมืองคาเปอรนาอูม ซึ่งห่างจากคานาราว 25 กม. อยู่ที่นั่น ไม่กี่วัน แล้วก็ออกเดินทางไปร่วมพิธีปัสกาที่กรุงเยรูซาเล็ม

– การรับใช้ของพระเยซู มีจังหวะ มีวาระที่เหมาะสมเสมอ ไม่เร่งรีบเกินไป และไม่ได้อืดอาดเฉื่อยช้า

– จบจากคานา พระองค์พักที่คารเปอรนาอูมสักพัก แล้วเริ่มต่อพระราชกิจที่เยรูซาเล็ม

[ประยุกต์ใช้] :

– วันนี้ การรับใช้ของเรา เร่งรีบเกินไปหรือเปล่า มีจังหวะผ่อน จังหวะพักบ้างหรือไม่?

– วันนี้ การรับใช้ของเรา อืดอาดไปหรือเปล่า พักนานไปแล้วหรือเปล่า?

“พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเป็นผู้สอนเรา ถึงจังหวะที่เหมาะสมของการรับใช้ กรุณาใช้บริการพระองค์ด้วยครับ”

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว (ยน. 2:13-16) { ใช้งานผิดประเภท }

[แนวคิด]  :

– เมื่อพระเยซูเข้าไปในบริเวณพระวิหาร ในกรุงเยรูซาเล็ม ช่วงเทศกาลปัสกา พระองค์ไม่ยอมให้คนมาขายสัตว์และตั้งโต๊ะแลกเงินในบริเวณพระวิหาร จึงใช้เชือกทำเป็นแส้ไล่พวกเขาออกไป

– พระนิเวศของพระบิดา ใช้สำหรับอธิษฐาน อย่าเอามาทำเป็นตลาด

[ประยุกต์ใช้] :

– ตั้งแต่พระเยซูเป็นขึ้นมาจากความตายจนถึงปัจจุบัน พระวิหารของพระเจ้าไม่ได้หมายถึงสิ่งก่อสร้างที่เยรูซาเล็มอีกต่อไป แต่หมายถึงชีวิตของเราทั้งหลายผู้เชื่อวางใจในพระเยซู(1คร.3:16)

– วันนี้ เราใช้พระนิเวศน์ของพระเจ้าทำอะไร?

– วันนี้ เราใช้พระนิเวศน์แห่งการอธิษฐาน เพื่อการอธิษฐานกี่นาที?

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว (ยน. 2:17) { พระนิเวศน์ที่รัก }

[แนวคิด]  :

– พระเยซูทรงห่วงใยเอาใจใส่ต่อพระนิเวศน์ของพระบิดามาก ถึงแม้นิเวศน์นั้นจะเป็นเพียงสิ่งก่อสร้างที่สร้างโดยน้ำมือของมนุษย์

[ประยุกต์ใช้] :

– ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระเยซูจะห่วงใย เอาใจใส่ ชีวิตของเราผู้เป็น พระวิหารของพระเจ้า ที่สร้างโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์

– พระเยซูปรารถนาให้นิเวศน์ของพระเจ้า เป็นที่ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า ฉันใด
พระองค์ก็ปรารถนาให้ชีวิตของเรา เป็นถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า ฉันนั้น

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว (ยน. 2:18-21) { ใส่ใจ }

[แนวคิด]  :

– พวกยิวถามพระเยซูว่า มีสิทธิอะไรมาชำระพระวิหารแบบนี้ เพราะต้องเป็นผู้มาจากพระเจ้าเท่านั้น จึงจะมีสิทธิชำระพระวิหาร

– แต่พระเยซูกลับไม่ใส่ใจที่จะตอบเพื่อให้พวกเขารู้ว่าพระองค์มีสิทธิ พระเยซูกลับพูดถึงภารกิจของพระองค์ ที่จะสิ้นพระชนม์และเป็นขึ้นมาในวันที่สาม

– ดูเหมือนพระเยซูไม่ใส่ใจว่าพวกยิวจะคิดว่าอย่างไรกับพระองค์(พวกเขาคิดว่าพระองค์ไม่มีสิทธิ) แต่ตลอดช่วงเวลาที่พระองค์รับสภาพมนุษย์ในโลกนี้ พระองค์ใส่ใจอยู่อย่างเดียว คือ ทำให้พระราชกิจที่พระบิดามอบหมายมานั้นสำเร็จ

[ประยุกต์ใช้] :

– ไม่ต้องใส่ใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับงานที่เราทำแด่พระเจ้า แต่จงใส่ใจว่า วันนี้เรากำลังเอาใจใส่กับภารกิจที่พระเจ้ามอบหมายให้เราทำหรือไม่?

– ใครไม่รู้ว่าภารกิจนั้นคืออะไร ดูได้จาก มธ.28:19-20

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว (ยน. 2:22) { เข้าใจ }

[แนวคิด]  :

– สิ่งที่พระเยซูตอบพวกยิวในวันนั้น(ข้อ19) อีกราว 3 ปีต่อมา พวกสาวกถึงเข้าใจ และเมื่อเข้าใจแล้วเขาก็เชื่อ

– เมื่อสาวกเข้าใจ แล้วพวกเขาจึงเชื่อ ดูเหมือนว่า ความเชื่อมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับความเข้าใจ

– เข้าใจในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงเข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่หมายถึง เข้าใจว่ามันหมายความว่าอย่างไร

[ประยุกต์ใช้] :

– วันนี้ สิ่งที่พระเยซูทรงทำกับชีวิตของเรา เราอาจยังไม่เข้าใจ ใครจะไปรู้!!! อาจจะเพื่อเป็นประโยชน์ต่อเราในอีก 3 ปี(หรือ 1ปี)ข้างหน้าก็ได้

– การเข้าใจในพระวจนะ มีผลต่อความเชื่ออย่างมาก แม้เราจะไม่เข้าใจว่าจะเกิดขึ้นได้อย่างไรก็ไม่เป็นไร แต่เราต้องเข้าใจว่าพระวจนะนั้นหมายความว่าอย่างไร เพราะจะทำให้เราเกิดความเชื่อที่ถูกต้องขึ้น

– ดังนั้น เราควรลงทุนลงแรง ในการศึกษาพระวจนะของพระเจ้าให้มากขึ้น เพื่อให้ความเชื่อของเราเพิ่มทวีมากยิ่งขึ้น

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว (ยน. 2:23-25) { รู้จักดี }

[แนวคิด]  :

– คนมากมายวางใจในพระเยซูแบบชั่วคราว เพราะเห็นหมายสำคัญ แต่พระเยซูก็รู้จักจิตใจของมนุษย์ดีว่า หวั่นไหวง่ายและเต็มไปด้วยการหลอกลวง

– พระเยซูรู้จักมนุษย์ จึงไม่จำเป็นต้องมีใครมาเป็นพยานเรื่องมนุษย์ แต่ มนุษย์ไม่รู้จักพระเยซูจึงจำเป็นต้องมียอห์นมาเป็นพยานเรื่องของพระองค์

[ประยุกต์ใช้] :

– แม้แต่พระเยซู ก็ยังไม่วางใจในคำชื่นชม คำยกย่อง คำชมเชย ของมนุษย์เลย ส่วนเราเองบ่อยครั้งกลับลืมตัว หลงคิดว่า คำชื่นชมของมนุษย์นั้นจะยั่งยืนถาวร หลายครั้งเราจึงหลงทำบางอย่างเพื่อเอาใจมนุษย์แทนที่จะทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า

– ความเชื่อของใครที่ตั้งอยู่บนการอัศจรรย์ จะไม่ยั่งยืน เพราะวันใดที่ไม่เห็นการอัศจรรย์ความเชื่อจะสั่นคลอน ดังนั้น ความเชื่อของเราควรตั้งอยู่บนสิ่งที่มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง คือ ตั้งอยู่บนพระคำของพระเจ้า

– พระเยซูทรงรู้จักมนุษย์ทุกคน รวมทั้งเราด้วย พระเยซูรู้จักเราเป็นอย่างดี รู้จักความอ่อนแอของเรา รู้จักความปวดร้าวของเรา ฯลฯ…พระเยซูทรงเข้าใจเรา

– ไม่จำเป็นต้องมีใครมาบอกพระเยซูเรื่องมนุษย์ แต่จำเป็นที่ต้องมีใครไปบอกมนุษย์เรื่องของพระเยซู…ใครจะไปบอกคนเหล่านั้นเรื่องของพระเยซู?