แนวคิด :
– พระเยซูตรัสว่า
พระองค์ได้รับเกียรติแล้ว หลังจากที่ยูดาสได้ออกไปจากห้องแล้ว
– พระเยซูไม่ได้ตรัส
ประโยคนี้ก่อนหน้านั้น
– ก่อนหน้านั้น ยูดาส
ยังลังเลว่าจะทำหรือไม่ทำ จนกระทั่งเขาตัดสินใจลงมือทำ จึงออกไป
– แล้วพระเยซู เรียกเหตุการณ์นั้นว่า
พระองค์ได้รับเกียรติแล้ว
– ทำไมพระเยซูจึงตรัสเช่นนั้น
การถูกทรยศหักหลัง จะเรียกว่าได้รับเกียรติได้อย่างไร?
– หลังจากทรยศก็เป็นการถูกจับกุม
ไม่น่าจะเรียกว่าได้รับเกียรติ
– แล้วถูกทำอัปยศ ถูกทรมาน
ถูกตัดสินประหารชีวิต ถูกตรึงที่กางเขน เหล่านี้จะได้รับเกียรติแล้ว ได้อย่างไร?
–
ในที่สุดพระองคถูกชุบให้เป็นขึ้นมาจากความตาย
เมื่อนั้นแหละที่น่าจะเรียกว่าได้รับเกียรติแล้ว
–
ผมสังเกตเห็นสิ่งสำคัญมากประการหนึ่งจากพระคัมภีร์ข้อนี้ คือ
“พระเจ้าทรงมองเห็นกลุ่มของเหตุการณ์ต่างๆเป็นก้อนเดียวกัน”
– เมื่อยูดาสออกไป
เขาเริ่มลงมือทำการทรยศพระเยซู นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการทนทุกข์ของพระคริสต์
เริ่มจากการถูกทรยศ เรื่อยมา จนปลายทาง คือ เป็นขึ้นมาจากความตาย
ได้รับพระเกียรติอย่างสูงสุด
– ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ
เป็นกลุ่มเหตุกาณ์เดียวกัน แล้วพระเจ้ามองเป็นเหตุการณ์เดียว(เรื่องนี้ลึกซึ้งเกินไป
คงอธิบายไม่หมด ณ ที่นี้ 555)
– อีกประเด็นหนึ่งในข้อนี้คือ
พระเจ้าทรงได้รับเกียรติเพราะมนุษย์
– พระเจ้าพระบิดาในสวรรค์
ได้รับเกียรติ เพราะมนุษย์ผู้อยู่บนโลก (พระบุตรผู้บังเกิดเป็นมนุษย์)
– ก่อนหน้านี้ตั้งแต่อาดัมเป็นต้นมา
มนุษย์บนโลก ลบหลู่ พระเจ้าผู้ทรงสถิตในสวรรค์ ด้วยการทำบาป ไม่เชื่อฟังพระองค์
– แต่บัดนี้
พระเยซูมนุษย์ผู้อยู่บนโลก ได้ทำให้พระเจ้าในสวรรค์ได้รับเกียรติแล้ว
ด้วยการเชื่อฟังจนถึงที่สุด กระทั่งความมรณาบนไม้กางเขน
– ดังนั้นตั้งแต่นี้ไป
มนุษย์ผู้เป็นเชื้อสายของพระเยซูด้วยความเชื่อ
สามารถถวายเกียรติแด่พระบิดาในสวรรค์ได้แล้ว
การประยุกต์ใช้ :
– พระเจ้าผู้ทรงสร้างกาลเวลา
ทรงอยู่เหนือมิติของเวลา พระองค์จึงทรงสามารถมองเหตุการณ์ ในอดีต ปัจจุบัน
และอนาคต เป็นเหตุการณ์เดียวกันได้
– เรื่องนี้
ขยายความเข้าใจในฝ่ายวิญญาณได้อีกมากมายมหาศาล
– เช่น
การที่พระเยซูสิ้นพระชนม์เพื่อรับโทษบาปแทนเรา เมื่อ 2,000 ปีก่อน
จึงนับเป็นเหตุการณ์เดียวกับการที่เราต้อนรับพระเยซูเมื่อไม่กี่ปีก่อน
จึงเรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์เดียวกันกับที่พระเยซูสิ้นพระชนม์เพื่อเรา
– หรือ อีกตัวอย่าง
การที่ในอนาคตเราจะเข้าส่วนในพระสิริของพระเจ้า
รับการชำระและเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด
นับเป็นเหตุการณ์เดียวกับวันนี้ที่เรายังผิดพลาดพลั้งบาป ทำตัวไม่น่ารักต่อพระเจ้า
แต่เมื่อพระองค์มองเป็นเหตุการณ์เดียวกัน ดังนั้นพระองค์ปฏิบัติต่อเราดังบุตรที่เต็มไปด้วยสง่าราศีของพระเจ้า
เป็นที่โปรดปรานของพระองค์อย่างที่สุด
– ฯลฯ
– วันนี้
ด้วยการช่วยเหลือของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราสามารถถวายเกียรติแด่พระบิดาได้
โดยทางพระเยซูคริสต์การกระทำที่ไม่สมบูรณ์ของเราจึงเป็นที่ยอมรับได้ในสายพระเนตรของพระเจ้า