แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน15:1) { เถาองุ่นแท้ }

แนวคิด :

– ข้อก่อนหน้านี้ พระเยซูตรัสว่า “…ลุก​ขึ้น ให้​เรา​ไป​กัน​เถิด” ยน. 14:31 ในบทที่ 15 นี้ อาจจะเป็นตอนที่พระเยซูและเหล่าสาวกยังคงอยู่ในห้องชั้นบนก่อนที่จะออกไปยังสวนเกทเสมนี (เพิ่งดื่มเหล้าองุ่นกันเสร็จ) หรือ อาจจะตรัสขณะระหว่างทางไปยังสวนเกทเสมนี (มีสวนองุ่นระหว่างทาง)

– เถาองุ่น ในพระคัมภีร์หมายถึง อิสราเอล ชนชาติของพระเจ้า เช่น  สดด. ​80:8-10 , อสย. ​5:1-7 ,​ยรม. ​2:21 และ อสค. ​15:1-8​ เป็นต้น

– ส่วน “เถาองุ่นแท้” ในข้อนี้ หมายถึง อิสราเอลแท้ ชนชาติของพระเจ้าแท้ คือ พระเยซู

– ด้วยเหตุนี้ในข้อต่อมาๆ พระองค์จึงทรงพยายามอธิบายว่า ถ้าต่อเข้ากับพระเยซู ผู้เป็นชนชาติของพระเจ้าแท้ ก็จะกลายเป็นชนชาติของพระเจ้าแท้

– พระบิดาเป็นผู้ดูแลรักษา คือ พระบิดาเป็นผู้กำหนดให้พระบุตรเป็นแหล่งแห่งพระพรที่จะมาถึงคนทั้งหลาย และคนทั้งหลายที่มาต่อเข้ากับพระเยซู พระบิดาจะเป็นผู้ดูแล ทนุถนอมเอง

การประยุกต์ใช้ :

– พระเยซูเป็นแหล่งแห่งพระพรที่แท้จริง เป็นผู้ที่จะทำให้เราเป็นชนชาติของพระเจ้าที่แท้จริง

– ให้เราเข้าสนิทกับพระองค์ตลอดเวลา บ่อยที่สุดมากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ แล้วชีวิตชนชาติของพระเจ้าแท้ก็จะปรากฏออกมาในชีวิตของเรา

– ซึ่งเมื่อเราเป็นชนชาติของพระเจ้าแท้ พระเจ้าพระบิดาจะเป็นผู้ดูแลทะนุถนอม ปกป้องรักษาเรา

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน15:2) { แขนงทุกแขนง }

แนวคิด :

– ทุกแขนงในเรา หมายถึงคนที่เป็นสาวกของพระองค์ ติดตามพระองค์

– คนเหล่านั้น ถูกแบ่งออกเป็น 2 พวก คือ พวกไม่เกิดผล และ พวกเกิดผล

– พวกที่ไม่เกิดผล(บางทีตอนที่ตรัสนั้น อาจจะหมายถึง ยูดาส อิสคาริโอท) จะต้องถูกตัดทิ้งเสีย พระบิดาจะตัดคนพวกนี้ออกจากการเป็นชนชาติแท้ของพระเจ้า

– พวกที่เกิดผล จะถูกลิด พระบิดาจะทรงพัฒนาชีวิตของพวกเขาด้วยสถานการณ์ต่างๆที่ผ่านเขามาในชีวิตของพวกเขา เพื่อประโยชน์ของพวกเขาเอง ให้พวกเขาสามารถเกิดผลได้มากยิ่งๆขึ้น

– ดังนั้น “การเกิดผล” จึงเป็นตัวชี้ว่า ใครจะถูกตัดออก และ ใครจะอยู่ต่อไป

– การเกิดผลนี้ ไม่ได้เกิดจากการกระทำของเราเอง แต่เกิดจากการติดสนิทกับพระเยซู

– ถ้าติดสนิทกับพระเยซู ยังไงๆ ก็จะเกิดผล แน่นอน (ข้อ 5)

– แต่ถ้าไม่ติดสนิทกับพระเยซู ยังไงๆ ก็จะไม่เกิดผล (ข้อ 4)

– กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ การจะถูกตัดออกหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการติดสนิทกับพระเยซู นั่นเอง

การประยุกต์ใช้ :

– ทุกแขนงในพระเยซู ยังไงๆก็จะพบเจอ สถานการณ์บางอย่างอยู่ดี ไม่ว่าเป็นแขนงจำพวกไหน

– แขนงที่เผชิญสถานการณ์นั้น แบบไม่เกิดผล ซึ่งเกิดจากเขาไม่ติดสนิทกับพระเยซู สถานการณ์นั้น จะทำให้เขาถูกแยกขาดออกจากพระองค์

– แขนงที่เผชิญสถานการณ์นั้น แบบเกิดผล ซึ่งเกิดจากเขาติดสนิทกับพระเยซู สถานการณ์นั้น จะทำให้เขายิ่งจำเริญขึ้น เกิดผล เป็นพระพรมากยิ่งๆขึ้น

– เราจะเผชิญสถานการณ์ของวันนี้ แบบไหนดี?  แบบเกิดผล หรือ แบบไม่เกิดผล

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน15:3) { รับการชำระ }

แนวคิด :

– พระเยซูบอกกับเหล่าสาวกว่า พระองค์ได้ชำระพวกเขาให้สะอาดแล้ว โดยถ้อยคำที่พระองค์ได้ตรัสกับพวกเขาแล้วนั้น

– พระเยซูตรัสกับพวกเขา ใน ยน. 13:10 “พวก​ท่าน​ก็​สะอาด​แล้ว​แต่​ไม่​ใช่​ทุก​คน” ซึ่งหมายถึง ยูดาส อิสคาริโอท ที่ไม่สะอาด

– เพราะเหล่าสาวกเชื่อวางใจในถ้อยคำของพระเยซู พวกเขาจึงรับการชำระให้สะอาด

– ชำระให้สะอาด ณ นี้ ในความหมายเดิม สามารถแปลได้ว่า “ลิด” คือ เหล่าสาวกได้รับการลิดสิ่งที่ทำให้พวกเขาสกปรกหรือไม่เกิดผลดี ออกไป ด้วยการเชื่อวางใจพระดำรัสของพระเยซู

– ยูดาส ไม่เชื่อ ไม่วางใจ ว่าพระเยซูทรงเป็นพระมาซีฮา เขาจึงทรยศต่อพระเยซู ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รับการชำระให้สะอาด

การประยุกต์ใช้ :

– เราสามารถรับการชำระให้สะอาด พ้นจากสิ่งสกปรก พ้นจากบาป พ้นจากสิ่งที่ทำให้ชีวิตของเราไม่อาจเกิดผลดีได้ ด้วยเชื่อพระคำของพระเจ้า

– พระคำของพระเจ้าไม่อาจมีผลเปลี่ยนแปลงเราได้ จนกว่าเราจะเชื่อในพระคำนั้น

– วันนี้ เราเชื่อสิ่งที่ตรัสไว้ในพระคำของพระเจ้า จริงๆหรือเปล่า?

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน15:4) { ติดสนิท }

แนวคิด :

– พระเยซูอธิบายให้เหล่าสาวกทราบว่า วิธีเดียวเท่านั้น ที่พวกเขาจะเกิดผล ไม่ถูกตัดออก ก็คือ ติดสนิทกับพระเยซู

– ประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน แบบเดียวกับที่แขนง(กิ่ง)ขององุ่น ผสานเป็นเนื้อเดียวกับเถา(ลำต้น)

การประยุกต์ใช้ :

– การติดสนิทกับพระเยซู เกิดขึ้นเมื่อ เราประพฤติตามคำของพระองค์ (ยน. 14:23)

– การที่พระเยซูติดสนิทกับเรา เกิดขึ้นเมื่อ เราเชื่อวางใจพระองค์ และต้อนรับพระองค์ เข้ามาเป็นเจ้านายในชีวิต พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะเข้ามาสถิตในเรา

– ดังนั้นเมื่อเรามีพระวิญญาณบริสุทธิ์ และ ปรารถนาให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วยเราให้ประพฤติตามคำของพระเยซู  เมื่อนั้น “​เรากำลังติด​สนิท​อยู่​กับ​พระเยซูและ​พระเยซูกำลัง​ติด​สนิท​อยู่​กับเรา”

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน15:5) { แยกจากพระคริสต์ }

แนวคิด :

– พระเยซูอธิบายให้เหล่าสาวกฟัง โดยเปรียบเทียบว่า ความสัมพันธ์ของพระองค์กับพวกเขา เป็นดัง เถาองุ่น(ต้น) กับ แขนง(กิ่ง)

– กิ่งถ้าติดกับต้น ก็จะมีชีวิตและสามารถเกิดผลมากมายได้ ถ้าต้นนั้นเป็นต้นพันธุ์ดี

– กิ่งถ้าแยกจากต้น ก็จะไร้ชีวิต ไม่สามารถเกิดดอกออกผลใดๆได้เลย

– ถ้าเราติดสนิทกับพระเยซู จะนำมาซึ่งการเกิดผลดีมากมาย ลักษณะที่ประเสริฐของพระเยซูคริสต์ ก็จะหลั่งไหลเข้ามาสู่เรา และทำให้เราสำแดงลักษณะเหมือนพระองค์ ทั้งฤทธานุภาพ ความรัก ความบริสุทธิ์ ฯลฯ ซึ่งผลทั้งหมดไม่ขึ้นกับกิ่งแต่ขึ้นกับคุณภาพของต้น

– ถ้าเราแยกห่างออกจากพระเยซู  เราจะไร้ชีวิต ไม่อาจเกิดผลดีตามอย่างลักษณะของพระคริสต์ได้เลย ไม่ว่าเราจะออกแรงหรือพยายามมากสักเพียงใดก็ตาม

การประยุกต์ใช้ :

– ชีวิตอย่างพระคริสต์ จะปรากฏในชีวิตของเรา มากหรือน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับการติดสนิทของเรากับพระองค์

– ยิ่งเราติดสนิทกับพระเยซูมากเท่าใด ชีวิตอย่างพระเยซูก็ยิ่งจะสำแดงออกในชีวิตของเรามากเท่านั้น

– เราไม่สามารถเป็นคริสเตียนที่มีชีวิตได้ หากเราแยกออกห่างจากพระองค์ผู้เป็นแหล่งแห่งชีวิต

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน15:6) { แขนงปลอม }

แนวคิด :

– พระเยซูอธิบายให้เหล่าสาวกของพระองค์ฟังว่า แขนงองุ่นที่ไม่ติดกับเถา (กิ่งที่ไม่ได้ติดกับต้น) มันจะเป็นกิ่งที่ตายคาต้น ย่อมต้องถูกตัดออก แล้วเอาไปเผาไฟ

– คนที่ดูเหมือนติดตามพระเยซู แต่ความจริงแล้วไม่ได้เข้าสนิทกับพระเยซูก็เป็นเช่นนั้น ดูเหมือนจะมีชีวิตแต่ตายแล้ว ซึ่งสังเกตได้ง่ายๆจากการที่ไม่เกิดผลชีวิต เหมือนอย่างชีวิตของพระเยซู

– ซึ่งคนในข้อนี้ไม่ได้พูดถึงคนไม่เป็นคริสเตียน แต่พูดถึงคนที่ได้ชื่อว่า คริสเตียน เพราะเขาเป็นแขนงขององุ่น (องุ่นหมายถึง ประชากรของพระเจ้า)

– คนประเภทนี้จะถูกตัดออกจาก การเป็นประชากรของพระเจ้า เพราะเขาไม่ได้เป็นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แค่ทำเนียนมาอยู่ท่ามกลางกิ่งแท้แห่งประชากรของพระเจ้าเท่านั้นเอง

– คนประเภทนี้จะถูกโยนเข้าไปในเตาไฟ คือ จะถูกพิพากษาแล้วโยนลงในบึงไฟนรก

การประยุกต์ใช้ :

– คนที่ไม่ติดสนิทกับพระคริสต์ เป็นคริสเตียนปลอม จะไม่มีชีวิตแท้ในเขา และเขาจะไม่เกิดผลชีวิตเหมือนอย่างชีวิตของพระเยซู

– เขาจะเสียใจอย่างที่สุดในวันสุดท้าย ยิ่งกว่าคนไม่ได้เป็นคริสเตียนเสียอีก เพราะว่าเขาเข้าใกล้สวรรค์มากที่สุดแล้ว แต่เขาไม่ยอมเข้าไป เขามาหาพระเจ้ามาถึงแค่โบสถ์ แต่มาไม่ถึงพระเยซูคริสต์ เขาไม่ยอมให้พระเยซูเข้ามาเป็นเจ้านายในใจของเขาอย่างแท้จริง

– วันนี้หากใครก็ตามติดสนิทกับพระคริสต์ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีผลชีวิตของพระเยซูคริสต์ปรากฏในชีวิตของเขาเลย

– หากใครไม่มีลักษณะของพระเยซูปรากฏในชีวิตของเขา สรุปได้วลีเดียว คือ “เขายังไม่ได้เข้าสนิทในพระองค์” ซึ่งหมายความว่า เขากำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างที่สุด

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน15:7) { ขออะไรก็ได้อย่างนั้น }

แนวคิด :

– พระเยซูสัญญากับพวกสาวกว่า ถ้าเขาติดสนิทกับพระองค์ เขาขออะไรก็จะได้รับอย่างนั้น

– ซึ่งพระเยซูเคยตรัสไว้ก่อนหน้านี้แล้วใน ยน. 14:13 ว่า “สิ่งใดที่พวกท่านขอในนามของเรา เราจะทำสิ่งนั้น เพื่อว่าพระบิดาจะทรงได้รับเกียรติอันยิ่งใหญ่ทางพระบุตร”

– การติดสนิทนี้ พระเยซูได้อธิบายในข้อต่อๆมา ใน ยน. 15:10 ว่า การติดสนิทนี้ คือการประพฤติตามบัญญัติของพระองค์

– ถ้อยคำของพระองค์ติดสนิทกับเรา หมายถึง ให้พระคำของพระเจ้า มาเป็นวิถีแห่งการตัดสินใจ ในการดำเนินชีวิตของเรา

– นั่นคือ เราก็จะชอบเหมือนที่พระเยซูชอบ รังเกียจในสิ่งที่พระเยซูรังเกียจ ดังนั้น ความปรารถนาของเราจะสอดคล้องกับความปรารถนาของพระเยซู ด้วยเหตุนี้คำอธิษฐานจะได้รับคำตอบอย่างแน่นอน

การประยุกต์ใช้ :

– หากเรายอมให้พระเยซูคริสต์ เป็นเจ้านายเจ้าของชีวิตของเราอย่างแท้จริง เราก็กำลังติดสนิทกับพระองค์ เมื่อเป็นเช่นนั้นชีวิตของเราก็จะประพฤติตามคำของพระองค์ และความปรารถนาของเราก็จะสอดคล้องกับความปรารถนาของพระองค์

ดังนั้นเมื่อเราขอ
ตรงกับใจของพระเยซู
เราก็จะได้รับคำตอบ
ในทุกคำขอของเรา
อย่างแน่นอน

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน15:8) { ถวายเกียรติพระบิดา }

แนวคิด :

– พระเยซูตรัสกับพวกสาวกว่า การที่พระบิดาจะได้รับเกียรตินั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาทำโน่นนี่นั่นมากมาย แต่เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาเกิดผลมากตามลักษณะของพระคริสต์ และเมื่อพวกเขาดำเนินชีวิตติดตามพระเยซูเป็นสาวกแท้ของพระองค์

– พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมาเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระองค์ ดังนั้นมนุษย์ไม่มีทางพบกับความอิ่มใจที่แท้จริงได้ จนกว่าเขาจะถวายเกียรติแด่พระองค์

– หากเราต้องการมีชีวิตที่ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า เราต้องเกิดผลมากและเป็นสาวกแท้ของพระเยซูเท่านั้น ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เกิดขึ้นเมื่อเราติดสนิทกับพระเยซู(ข้อ 5)

การประยุกต์ใช้ :

– วันนี้ถ้าเราต้องการถวายเกียรติแด่พระเจ้า คำถามที่เราต้องถามตนเอง

– ไม่ใช่ “วันนี้เราทำอะไรมากแค่ไหนเพื่อพระเจ้า?”

– แต่ต้องถามว่า “วันนี้ เราติดสนิทกับพระเยซูมากแค่ไหน?”

– คนที่ติดสนิทกับพระเยซู เขาจะถวายเกียรติแด่พระเจ้า เพราะเขาจะเกิดผลมากและทำตัวสมกับเป็นสาวกของพระเยซู

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน15:9) { ติดสนิทกับรักพระคริสต์ }

แนวคิด :

– พระเยซูบอกกับพวกสาวก ว่า พระองค์ทรงรักพวกเขาด้วยความรักชนิดเดียวกับที่พระบิดาทรงรักพระเยซู รักแบบอากาเป้ รักไม่มีเงื่อนไข

– เมื่อพระเยซูทรงรักพวกเขาด้วยความรักสูงส่งเช่นนี้ พวกเขาก็สมควรที่จะตอบสนองอย่างเหมาะสม

– การตอบสนองนั้นก็คือ การประพฤติตามคำของพระองค์ ซึ่งนั่นเป็นการติดสนิทในความรักของพระองค์นั่นเอง (ข้อ10)

การประยุกต์ใช้ :

– พระเยซูทรงรักเราอย่างไม่มีเงื่อนไข พระองค์ทรงมอบรักนั้นแก่เรา ไม่ว่าเราจะเป็นใคร

– แต่เราจะตอบสนองต่อความรักนั้นอย่างไร?

– คนที่ตอบสนองต่อรักของพระคริสต์อย่างเหมาะสม ก็คือคนที่ประพฤติตามพระคำของพระองค์ในชีวิตประจำวัน

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน15:10) { ทำตามพระทัย }

แนวคิด :

– พระบิดาทรงรักพระเยซูอย่างที่สุด และพระเยซูตอบสนองต่อรักนั้นด้วยการติดสนิทกับความรักของพระบิดา ซึ่งสำแดงออกมาเป็นการกระทำในสิ่งที่พระบิดาพอพระทัย

– ทุกสิ่งที่พระเยซูทรงกระทำนั้น พระองค์ทำตามชอบพระทัยของพระบิดาเสมอ (ยน. 8:29)

– พระเยซูทรงรักพวกสาวกอย่างที่สุด เหล่าสาวกสมควรที่จะเข้าสนิทในความรักนั้น ซึ่งสำแดงออกมาเป็นการกระทำทุกอย่าง ตามชอบพระทัยของพระเยซู

การประยุกต์ใช้ :

– พระเยซูทรงรักเราอย่างที่สุด จนยอมตายบนไม้กางเขนอย่างทรมานเพื่อช่วยเรา

– เราจะตอบสนองต่อความรักยิ่งใหญ่ที่พระเยซูประทานแก่เรานี้อย่างไร?

– วันนี้ สิ่งที่เราทำ เราทำตามความพึงพอใจของเรา หรือ เราเต็มใจยอมทำตามสิ่งที่ไม่ตรงกับใจปรารถนาของเรา หากการกระทำนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้พระเยซูชื่นใจ

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน15:11) { ความยินดี }

แนวคิด :

– พระเยซูบอกกับเหล่าสาวกว่า เหตุที่พระเยซูบอกสิ่งต่างๆที่ได้พูดมาในข้อก่อนหน้านี้ ได้แก่ พระสัญญาเกี่ยวกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ , ชีวิตนิรันดร์ ,  การติดสนิทระหว่างพวกเขากับพระองค์ ฯลฯ ก็เพื่อความยินดีของทั้งสองฝ่าย

– คือ พระเยซูจะยินดีในตัวพวกเขา เพราะพวกเขาได้เข้าสนิทอยู่ในพระองค์ จนประพฤติตามคำของพระองค์

– และ ให้พวกเขาได้รับความยินดีอย่างเต็มเปี่ยม เมื่อพวกเขาได้ทราบความจริงเหล่านั้น แล้วเข้าส่วนในพระองค์

การประยุกต์ใช้ :

– เมื่อเรารู้ความจริงแห่งพระคำของพระเจ้า และเชื่อ จนดำเนินตามทางแห่งความจริงนั้น

– สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ พระเยซูจะชื่นใจในตัวเรา และ ตัวเราเองจะพบความชื่นใจอย่างเปี่ยมล้น เพราะการเชื่อและทำตามพระคำนั้น

– วันนี้เราสามารถมีความยินดีอย่างเต็มเปี่ยมในทุกสถานการณ์ได้ เมื่อเรารู้พระคำของพระเจ้า เชื่อ แล้วทำตาม

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน15:12) { รักจนยอมตาย }

แนวคิด :

– คนที่รักตอบพระเยซู หรือที่เรียกว่า ติดสนิทกับความรักของพระเยซู จะสะท้อนพฤติกรรมออกมาเป็นการทำตามบัญญัติของพระเยซู

– ในข้อนี้พระเยซู กล่าวอย่างชัดเจนว่า บัญญัติของพระองค์ที่ว่านั้นก็คือ จงรักกันและกันเหมือนอย่างที่พระเยซูได้รักเรา

– ซึ่งเรื่องนี้ พระเยซูได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้วใน ยน. 13:34 “เรา​ให้​บัญ​ญัติ​ใหม่​ไว้​กับ​พวก​ท่าน คือ​ให้​รัก​ซึ่ง​กัน​และ​กัน เรา​รัก​พวก​ท่าน​มา​แล้ว​อย่าง​ไร ท่าน​ก็​จง​รัก​กัน​และ​กัน​ด้วย​อย่าง​นั้น”

– มาตรฐานความรักที่พระเยซู สั่งเราผู้ตอบรับความรักจากพระองค์ ให้ทำ ก็คือ ให้ตั้งใจรักมากจนยอมตายเพื่อพี่น้องให้ได้

– ใครก็ตามที่ เริ่มตั้งใจ วางมาตรฐานนี้ในชีวิตของเขา แม้วันนี้เขายังไม่สามารถไปถึงมาตรฐานนั้นได้ แต่ ด้วยการตั้งใจเช่นนั้น ทำให้เขาสามารถอดทน ให้อภัย แก่พี่น้องในวันนี้ได้อย่างง่ายดายขึ้นมาก

การประยุกต์ใช้ :

– ให้เราเริ่มตั้งใจ ที่จะเดินไปสู่เป้าหมายแห่งความรักที่พระเยซู สั่งนี้ คือ รักพี่น้องจนยอมตายเพื่อเขาให้ได้

– ขนาดยอมตายเพื่อเขา เรายังตั้งใจจะทำให้ได้เลยในสักวันหนึ่ง ดังนั้น วันนี้เมื่อพี่น้องทำผิดเล็กๆน้อยๆต่อเรา แบบไม่ถึงตาย เราก็จะยินดียกโทษให้เขาได้อย่างไม่ยากเย็น

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน15:13) { เพื่อนรักของพระเยซู }

แนวคิด :

– ความรัก สำแดงออกเป็นการเสียสละ

– การเสียสละที่มากที่สุดของมนุษย์ ก็คือ เสียสละชีวิต

– มีบางคนอาจยอมสละชีวิตเพื่อประเทศชาติของตน บ้างก็สละชีวิตเพื่อเกียรติยศหรือศักดิ์ศรีของตน

– แต่หากมีใครยอมเสียสละชีวิต เพื่อเพื่อนของตน เราย่อมพูดได้อย่างเต็มปากว่า คนนั้นช่างรักเพื่อนของเขามากจริงๆ

– พระเยซูทรงรักเราอย่างที่สุด จนยอมสละชีวิตของพระองค์เพื่อช่วยเรา

– เป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่อันหาที่เปรียบมิได้ เมื่อพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดทรงนับเราว่า เป็นเพื่อนของพระองค์

– เราผู้เป็นคนบาป ผู้เป็นแค่ผงคลีดิน ได้รับเกียรติอันสูงส่งนี้

– ยิ่งกว่านั้น ไม่เพียงแต่ทรงนับเราว่าเป็นเพื่อนของพระองค์เท่านั้น แต่ทรงปฏิบัติต่อเราดังเราเป็นเพื่อนที่พระองค์ทรงรักมากที่สุด จนยอมตายเพื่อเพื่อนคนนี้ได้

– สรรเสริญพระเยซู!!!

การประยุกต์ใช้ :

– หากเรารู้จริงๆ และตระหนักจริงๆว่า พระเยซูรักเราจริงๆมากเพียงใด ชีวิตของเราจะเปลี่ยนแปลงไป

– เป็นไปไม่ได้เพื่อนที่รักเรามากที่สุดเช่นนี้ จะไม่ช่วยเรา หรือจะไม่ยอมยกโทษให้เรา หรือจะปล่อยให้เราต้องจมอยู่ในความทุกข์ระทมใจเป็นเวลานาน

– พระองค์จะมาช่วยเราแน่ พระองค์จะไม่ยอมรอช้าแน่ พระองค์จะมาในเวลาที่พระองค์รู้ว่านั่นจะดีที่สุดสำหรับเรา เพื่อนรักของพระองค์

– อย่ากลัวไปเลย เพื่อนรักของพระเยซูเอ๋ย  พระเยซูจะมาช่วยเธอแน่

– เพื่อนรักของพระเยซูเอ๋ย จงทูลความปรารถนาในใจของเธอต่อพระเยซูเถิด

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน15:14) { ไม่ต้องการเป็นเพื่อนกับพระเยซู }

แนวคิด :

– พระเยซูทรงให้เกียรติเรานับเราเป็นพระสหายของพระองค์

– พระเยซูทรงรักปฎิบัติต่อเราเป็นดังพระสหายสุดที่รักของพระองค์ ทรงรักเราจนยอมตายเพื่อเรา

– เราจะตอบรับเกียรติอันสูงส่งนี้หรือไม่? คือ เราจะต้อนรับพระเยซูเป็นเพื่อนของเราหรือเปล่า?

– พระเยซูตรัสว่า คนที่ตอบรับยินดีเป็นเพื่อนกับพระองค์ ก็คือ คนนั้นผู้ที่ยินดีประพฤติตามคำสั่งของพระองค์

การประยุกต์ใช้ :

– น่าเศร้าที่มีหลายคนที่ดูถูกเกียรติที่พระเยซูประทานแก่เขา พระเยซูนับเขาเป็นเพื่อน และรักเขาอย่างที่สุด แต่เขาปฏิเสธไม่ต้องการเป็นเพื่อนกับพระองค์

– เขาตั้งเงื่อนไขแด่จอมกษัตริย์ว่า ถ้าพระองค์ต้องการจะให้เขารับพระองค์เป็นเพื่อน พระองค์ต้องปล่อยให้เขาทำตามใจปรารถนาของเขา

– แต่ความจริงแล้ว พระเยซูจอมกษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งปวง ตรัสว่า คนที่ยินดีประพฤติตามคำสั่งของพระองค์ คนนั้นแหละคือ คนที่ตอบรับมิตรภาพอันสูงส่งของพระองค์

– สำหรับจอมกษัตราผู้ทรงรักพระสหายของพระองค์ยิ่งกว่าชีวิตของตนเอง ไม่เป็นการเรียกร้องมากไปเลยที่จะขอให้ พระสหายผู้ต่ำต้อยของพระองค์นั้นเชื่อฟังคำสั่งของพระองค์

– อย่าให้เราบังอาจดูถูก เกียรติอันยิ่งใหญ่ที่พระเยซูทรงประทานแก่เรานี้ โดยปฏิเสธเกียรตินั้น คือ ไม่ต้องการเป็นเพื่อนกับพระองค์ ด้วยการไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งของพระองค์

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน15:15) { มอบแด่สหาย }

แนวคิด :

– “ไม่​เรียก​พวก​ท่าน​ว่า​บ่าว” ที่นี่นี้ไม่ได้หมายถึงการเรียกขานว่า “บ่าว” เพราะ ในข้อต่อๆมาพระเยซูก็พูดถึงพวกสาวกว่า “บ่าว” อยู่ดี ใน ยน. 15:2 “จง​ระลึก​ถึง​คำ​ที่​เรา​กล่าว​กับ​พวก​ท่าน​แล้ว​ว่า ‘บ่าว​ไม่​ได้​เป็น​ใหญ่​กว่า​นาย’ …”

– แต่หมายถึงพระเยซูจะปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างมิตรสหาย ไม่ได้ปฏิบัติแบบนายต่อบ่าว

– เพราะนายไม่จำเป็นต้องตายเพื่อบ่าว แต่มิตรสหายสามารถตายเพื่อสหายที่เขารักสุดหัวใจได้

– และ เพราะนายไม่จำเป็นต้องบอกเหตุผลแก่บ่าว เมื่อเขาสั่งให้บ่าวทำอะไรก็ตาม

– พระเยซูไม่ได้ปฏิบัติต่อพวกสาวก ดังเขาเป็นบ่าว พระเยซูทรงเปิดเผยสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำ และจะกระทำแก่พวกเขา

– ยิ่งกว่านั้นเมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่พระเยซูทูลขอพระบิดาให้ส่งมานั้น มาอยู่กับพวกเขาพระวิญญาณบริสุทธิ์จะช่วยให้พวกเขาเข้าใจอย่างกระจ่างชัด ถึงสิ่งที่พระเยซูได้ทรงเปิดเผยแก่พวกเขาแล้วนั้น

การประยุกต์ใช้ :

– พระเยซูทรงกระทำต่อเรา ดังเราเป็นพระสหายของพระองค์

– พระเยซูทรงเปิดเผย ความล้ำลึกแห่งพระทัยของพระองค์ให้แก่เราทั้งหลาย ผ่านพระคำของพระเจ้า และโดยการช่วยเหลือของพระวิญญาณบริสุทธิ์นั้น เราก็จะสามารถเข้าใจถึงน้ำพระทัยของพระองค์ได้

– สิ่งยืนยันว่าเราเป็นเพื่อนกับพระเยซู ก็คือ พระเยซูได้ทรงเปิดเผยน้ำพระทัยของพระองค์แก่เรา

– วันนี้เราปฏิบัติอย่างไรต่อเกียรติอันสูงส่งนี้? พระเยซูทรงเปิดเผยน้ำพระทัยของพระองค์แก่เราแล้วในพระคำของพระเจ้า วันนี้เราสนใจ ใส่ใจในพระคำของพระองค์มากเพียงใด?

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน15:16) { พระเยซูทรงเลือกเราให้รับพร }

แนวคิด :

– เหตุที่เราได้มาเป็นสหายรักของพระเยซู ไม่ใช่เพราะคุณสมบัติใดๆของเรา หรือความพยายามใดๆของเรา แต่เพราะพระเยซูเลือกที่จะรักเรา

– การเลือกที่จะรักนี้ ไม่ขึ้นกับคุณสมบัติของผู้ถูกรัก แต่ขึ้นกับผู้ที่มอบความรัก

<< หากอธิบายตามโครงสร้างไวยากรณ์ภาษากรีก ในข้อนี้ น่าจะอธิบายได้ดังนี้ >>

– พระเยซูเลือกเรา เพื่อให้ออกไปทำพระราชกิจของพระองค์

– พระเยซูเลือกเรา เพื่อให้เราเกิดผล

– พระเยซูเลือกเรา เพื่อให้เราเป็นคนที่มีผลคงอยู่

– พระเยซูเลือกเรา เพื่อให้เป็นคนที่พระบิดาประทานทุกสิ่งให้ เมื่อเราทูลขอในนามของพระเยซู

– โอ้ว!!! ทั้งหมดนี้ เป็นการกำหนดและความประสงค์ของพระเยซู ที่จะมอบแด่สหายที่รักของพระองค์ และพระประสงค์ของพระองค์จะสำเร็จอย่างแน่นอน หากผู้รับอย่างเราไม่ปฏิเสธที่จะรับ

การประยุกต์ใช้ :

– พระเยซูจะเป็นผู้ทำให้เรา รับใช้พระองค์ได้ และ เกิดผลได้ และ ผลคงอยู่ได้ และ ได้ทุกสิ่งที่ทูลขอในนามของพระองค์

– สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเพียงแต่เราตอบรับคำเชิญอันสูงส่งของพระองค์ พระองค์เชิญเรามาเป็นเพื่อนกับพระองค์ ซึ่งการตอบรับนี้สำแดงออกด้วยการเชื่อฟังพระองค์

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน15:17) { ขอบใจนะ พระเยซู }

แนวคิด :

– จากบริบทก่อนหน้าของพระคัมภีร์ข้อนี้ พระเยซูบอกว่าพระองค์ทรงรักสาวกมาก เหมือนดังความรักของพระบิดาที่มีต่อพระเยซู(ข้อ 9)

– และพระองค์ถือว่าพวกเขาเป็นสหายรักของพระองค์ พระองค์ทรงรักเพื่อนของพระองค์มากจนยอมตายเพื่อพวกเขา (ข้อ13)

– และการที่พวกเขาจะตอบรับมิตรภาพของพระองค์ ก็ทำได้โดยการเชื่อฟังคำสั่งของพระองค์(ข้อ14)

– และพระคัมภีร์นี้ พระเยซูจึงย้ำอย่างชัดเจนว่า คำสั่งของพระองค์นั้น ก็คือ “จงรักกันและกัน”

– นั่นคือ เราตอบรับยินดีเป็นเพื่อนกับพระเยซู เมื่อเรารักพี่น้อง

– ในทางตรงกันข้าม หากเราไม่รักพี่น้อง ก็เท่ากับเรากำลังบอกว่า “ขอบใจนะ พระเยซู แต่ฉันไม่ต้องการเป็นเพื่อนกับพระองค์”

– ช่างเป็นคำพูดและการกระทำที่บังอาจเหลือเกิน และคนที่ทำเช่นนั้นจะเสียใจที่สุด ในวันสุดท้าย

การประยุกต์ใช้ :

– เพื่อนของพระเยซู จะเชื่อฟังพระเยซู

– คำสั่งที่พระเยซูสั่ง คือ ให้รักพี่น้อง

– หากเราไม่ยอมรักพี่น้อง ไม่ยอมให้อภัยพี่น้อง ไม่ยอมอดทนต่อพี่น้อง ไม่ยอมสำแดงความรักออกมาเป็นการกระทำต่อพี่น้อง เราก็กำลังปฏิเสธการเป็นเพื่อนกับพระเยซู

– พระเยซูครับ “ไม่ทราบว่า รัก แบบไม่ยกโทษได้ไหมครับ พระองค์?”

– พระเยซูครับ “ไม่ทราบว่า รักแบบอดทนกับมันนิดเดียว ไม่ต้องอดทนนานๆ ได้ไหมครับ พระองค์?” เพราะมันทำตั้งหลายครั้งแล้วแบบนี้

– ใน มธ.25 วันนั้น พระเยซู จึงพูดกับผู้ที่อยู่ข้างซ้ายว่า … เพราะเจ้าไม่รักเรา… จงไปเสียให้พ้นหน้าเรา

– พวกเขาจะบอกว่า “ผมก็เชื่อในพระองค์นะครับ ไปโบสถ์ด้วย รับใช้พระเจ้าด้วย แค่ ผม ไม่รักพี่น้อง ก็เท่านั้นเอง”

– ซึ่งความจริงแล้วมันเป็นประโยคเดียวกันกับ “ผมก็เชื่อในพระองค์นะครับ ไปโบสถ์ด้วย รับใช้พระเจ้าด้วย แค่ ผม ปฏิเสธไม่อยากเป็นเพื่อนกับพระองค์ ก็เท่านั้นเอง”

– จงตัดสินใจเสียวันนี้ว่า เราจะเป็นเพื่อนของพระเยซูหรือไม่

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน15:18) { โลกจะเกลียดท่าน }

แนวคิด :

– พระเยซูทรงรักเหล่าสาวก พระองค์ทรงเตือนพวกเขาให้รู้ก่อนล่วงหน้าว่า การติดตามพระองค์นั้น สิ่งที่คาดหวังว่าจะได้รับนั้น ไม่ใช่ความนิยมชมชอบ หรือเสียงตบมือจากคนในโลกนี้ แต่เป็นความเกลียดชังจากคนในโลกนี้

– เพราะว่าระบบของโลกนี้ ต่อต้านพระเจ้า

– ใน 1ยน. 2:15 “อย่า​รัก​โลก​หรือ​สิ่ง​ของ​ใน​โลก ถ้า​ใคร​รัก​โลก ความ​รัก​ของ​พระ​บิดา​ไม่​ได้​อยู่​ใน​ผู้​นั้น” นั่นคืออย่าปรารถนาการยอมรับจากโลกนี้ เพราะหากเราทำเช่นนั้น เรากำลังเดินสวนทางกับทางของพระเยซู

– เหมือนใน 1ยน. 3:13 ที่กล่าวว่า “พี่​น้อง​เอ๋ย อย่า​ประ​หลาด​ใจ​ที่​โลก​นี้​เกลียด​ชัง​ท่าน”

การประยุกต์ใช้ :

– พระเยซูอธิบายว่า เหตุที่โลกจะเกลียดพวกเขา ก็เพราะว่า โลกต่อต้านพระองค์ โลกเกลียดพระองค์ เนื่องจากวิถีของพระองค์สวนทางกับระบบแห่งโลกนี้

– หากวันนี้ คนในโลกอาจไม่พอใจ ไม่ชอบเรา หรือต่อต้านเรา เพราะเราเชื่อฟังพระเยซู ติดตามพระเยซู ขอให้เรารู้ว่าเรากำลังเดินอย่างถูกต้องตามทางของพระเยซูแล้ว จงชื่นใจเถิด

– แต่หากวันนี้ โลกรักเรา ยกย่องเรา ชื่นชมเรา เพราะว่าเรากำลังเดินไปตามวิถีคนในโลกใครๆเขาก็เดินกัน จงโศกเศร้า จงเสียใจ และรีบกลับใจเสียใหม่

– “วิบัติ​เมื่อ​ทุก​คน​บอก​ว่า​ท่าน​ดี เพราะ​บรรพ​บุรุษ​ของ​เขา​ก็​ทำ​อย่าง​นั้น​กับ​พวก​ผู้​เผย​พระ​วจนะ​เท็จ​เหมือน​กัน”ลก. 6:26

– “แท้​จริง​ทุก​คน​ที่​ตั้ง​ใจ​จะ​ดำ​เนิน​ชีวิต​ตาม​ทาง​พระ​เจ้า​ใน​พระ​เยซู​คริสต์​จะ​ถูก​ข่มเหง” 2ทธ. 3:12

– วันนี้เรากำลังประนีประนอมกับวิถีแห่งโลกนี้ หรือ เรากำลังยืนหยัดในวิถีแห่งพระเจ้า?

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน15:19) { รับรักจากใครดี? }

แนวคิด :

– พระเยซูบอกกับพวกสาวกว่า เพราะว่าพระเยซูเลือกพวกเขา แยกออกมาจากโลก ชีวิตของพวกเขาจึงไม่ใช่ของโลกอีกต่อไป แต่เป็นของพระเยซู

– และเพราะว่าโลกเกลียดพระเยซู เนื่องจากวิถีของพระเยซูสวนทางกับระบอบของโลกนี้ ดังนั้น โลกจึงเกลียดพวกสาวกด้วย

การประยุกต์ใช้ :

– เมื่อก่อนเราเป็นของโลกนี้ โลกจึงรักเราด้วยความรักของโลก ซึ่งเป็นรักลวง รักจอมปลอม รักตราบเท่าที่เราทำประโยชน์ให้แก่ระบบของโลก วันใดที่เราหยุดหรือไม่สามารถทำตามระบบของโลกได้ โลกจะเปลี่ยนรักปลอมนั้นมาเป็นความเกลียดชัง กดดัน ซ้ำเติมและพยายามที่จะทำลายเราแทน

– บัดนี้พระเยซูทรงเป็นผู้เลือกเราออกมาจากโลกด้วยพระองค์เอง เพื่อให้เรามาเป็นของพระองค์ บัดนี้เราซ่อนตัวอย่างสงบและปลอดภัยในความรักของพระเยซู ผู้ทรงรักเราด้วยรักแท้ รักนิรันดร์ รักที่ไม่มีเงื่อนไข

– อย่างไรก็ดีผลที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราอยู่ในรักพระเยซู เมื่อเราตอบรับรักจากพระเยซู ก็คือ ระบบของโลกซึ่งเกลียดชังวิถีของพระเยซู ก็จะเกลียดชังเรา ตำหนิ ต่อว่า ดูถูกเรา

– ดังนั้น มาถึงตอนนี้ เราจะต้องเลือกว่า จะทำตัวให้โลกรักเราด้วยรักจอมปลอมของโลกนี้ โดยการดำเนินชีวิตตามที่ใครๆในโลกเขาทำกัน หรือจะตอบรับความรักแท้ของพระเยซู เข้ามาซ่อนตัวอยู่ในรักนิรันดร์ของพระองค์ โดยการดำเนินชีวิตตามทางที่พระเยซูทรงนำเราไป

– วันนี้ เราจะเลือกรับรักจากใคร โลกนี้ หรือ พระเยซู?

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน.15:20) { ตัวแทนพระเยซู }

แนวคิด :

– พระเยซูบอกกับพวกสาวกว่า เมื่อถูกเกลียดชัง(ข้อ19) ให้ระลึกว่า พระเยซูได้สอนไว้ก่อนแล้ว ใน ยน. 13:16 “เรา​บอก​ความ​จริง​กับ​พวก​ท่าน​ว่า บ่าว​จะ​เป็น​ใหญ่​กว่า​นาย​ไม่ได้ และ​ทูต​จะ​เป็น​ใหญ่​กว่า​คน​ที่​ใช้​เขา​ไป​ก็​ไม่​ได้”

– ดังนั้นการที่พวกเขาถูกข่มเหง หรือถูกปฏิเสธ แท้จริงไม่ใช่เพราะตัวเขา แต่เพราะพระเยซู

– คนเหล่านั้นปฏิเสธและข่มเหงพระเยซู ดังนั้นพวกเขาเหล่านั้นจึงจะปฏิเสธและข่มเหงพวกสาวกด้วยอย่างแน่นอน

– และวิธีสังเกตว่า คนใดที่ต้อนรับและปฏิบัติตามพระเยซู ก็ดูได้จากคนนั้นจะต้อนรับและปฏิบัติตามคำสอนของพวกสาวกของพระเยซู

– หลังจากพระเยซูเป็นขึ้นมาจาความตาย แล้วเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ พวกสาวกของพระเยซูได้ออกประกาศข่าวประเสริฐเรื่องของพระเยซูคริสต์ และคำสอนของพระองค์

– และมีคนมากมายที่เชื่อและปฏิบัติตามคำสอนเหล่านั้น คนเหล่านั้นแหละที่เป็นผู้ที่ต้อนรับพระเยซูอย่างแท้จริง

– ดังนั้นผู้ที่ต้อนรับพระเยซู ซึ่งจะได้เป็นบุตรของพระเจ้า(ยน.1:12)นั้น ไม่ได้ดูจากการไปคริสตจักร หรือ การพูดว่าตนเองเป็นคริสเตียน หรือ การทำกิจกรรมใดๆของคริสตศาสนา หรือการรับใช้พระเจ้าใดๆ แต่ดูว่า คนๆนั้นปฏิบัติตามคำสอนของพระเยซูหรือไม่

– ไม่มีใครสามารถพูดได้ว่าผมปฏิบัติตามคำของพระเยซู แต่ไม่ปฏิบัติตามพระคริสตธรรมคัมภีร์ได้

การประยุกต์ใช้ :

– บ่าวไม่ใหญ่กว่านาย ขนาดพระเยซูเมื่อทำพระราชกิจยังถูกดูถูกและข่มเหง ดังนั้นเราผู้เป็นคนรับใช้ของพระเยซู หากเราทำตามพระเยซูจริงๆ มีหรือเราจะไม่ถูกดูถูกและข่มเหง

– วันนี้ หากเราถูกดูถูกหรือข่มเหง เพราะเหตุการเชื่อฟังพระเยซู จงภาคภูมิใจเถิด เพราะเราได้รับเกียรติร่วมทนทุกข์กับพระเยซู

– วันนี้ หากเราต้องเหน็ดเหนื่อยหรือยากลำบาก เพราะเหตุการเชื่อฟังพระเยซู จงภาคภูมิใจเถิด เพราะเราได้รับเกียรติร่วมเหนื่อยยากกับพระเยซู

– วันนี้เมื่อเราทำตามพระเยซู แล้วมีใครปฏิเสธหรือไม่ชอบเรา เขาไม่ได้กำลังปฏิเสธเราเท่านั้น แต่เขากำลังปฏิเสธพระเยซูด้วย

– วันนี้เมื่อเราทำตามพระเยซู แล้วใครต้อนรับและปฏิบัติตามเรา เขาไม่ได้กำลังต้อนรับเราเท่านั้น เขากำลังต้อนรับและปฏิบัติตามพระเยซูด้วย

– ซึ่งทั้ง 2 กรณีข้างต้น เกิดขึ้นเมื่อเราทำตามพระเยซู

– สาวกของพระเยซูจะเป็นดังตัวแทนของพระเยซูในโลกนี้ วันนี้เราเป็นสาวกของพระเยซูด้วยการปฏิบัติตามพระเยซูแล้วหรือยัง?

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน.15:21) { ไม่รู้จักพระเจ้า }

แนวคิด :

– พระเยซูบอกกับพวกสาวกว่า เหตุที่คนทั้งหลายต่อต้านพระเยซู จนส่งผลทำให้เขาเหล่านั้นต่อต้าน และข่มเหงพวกสาวก ก็เพราะว่าเขาทั้งหลายเหล่านั้น ไม่รู้จักกับพระบิดาจริงๆ

– เพราะถ้าพวกเขารู้จักพระเจ้าจริงๆ พวกเขาคงจะไม่จับพระองค์ผู้ที่พระเจ้าส่งมาไปตรึงบนไม้กางเขน

– พวกเขาคิดไปเองว่า เขารู้จักกับพระเจ้า และการข่มเหงที่เขาทำนี้ ทำเพื่อปรนนิบัติพระเจ้า

– แต่ความจริงแล้วพวกเขายังไม่รู้จักพระเจ้าจริงๆ พวกเขาจึงทำเช่นนั้น

– พวกเขาเกลียดพระเยซู จึงเกลียดเหล่าสาวกของพระองค์ ดังใน ลก. 21:17 “ทุก​คน​จะ​เกลียด​ชัง​พวก​ท่าน​เพราะ​นาม​ของ​เรา”

การประยุกต์ใช้ :

– เหตุที่คนเหล่านั้นที่ข่มเหงเหล่าสาวก ก็เพราะพวกเขาไม่เชื่อในถ้อยคำของพระเยซู พวกเขาจึงไม่มีทางรู้จักพระบิดาได้

– การไม่รู้จักพระเจ้า ทำให้เขาทำผิดต่อพระเจ้าอย่างใหญ่หลวง ด้วยการข่มเหงตัวแทนของพระเจ้าในโลกนี้

– ใครก็ตามที่ไม่เชื่อพระคำของพระเจ้า เขาจะไม่สามารถเข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้า ซึ่งจะนำมาซึ่งการกระทำที่ขัดขวางหรือต่อต้านน้ำพระทัยของพระเจ้า

– ซึ่งการกระทำเช่นนั้น เขากำลังทำให้ตนเองตกที่นั่งลำบาก

– วันนี้ เราสามารถรู้จักพระเจ้าและรู้จักน้ำพระทัยของพระองค์ได้ ด้วยการเชื่อในพระคำของพระเจ้า จงเชื่อทุกถ้อยคำในพระคำของพระเจ้า เชื่อจนกระทั่งสำแดงออกมาเป็นการกระทำที่สอดคล้องกับความเชื่อนั้น

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน.15:22) { ปฏิเสธพระเยซู }

แนวคิด :

– พระเยซูบอกเหล่าสาวก เรื่องของคนที่ข่มเหงเหล่าสาวกว่า เมื่อพระเยซูทรงสั่งสอนพวกเขา เป็นโอกาสทองที่พวกเขาจะกลับใจ แต่หากพวกเขาไม่กลับใจ แต่ปฏิเสธพระเยซู กลับเป็นการเพิ่มบาปที่รุนแรงให้แก่พวกเขาเอง คือ บาปแห่งการปฏิเสธพระคริสต์ พระผู้ช่วยให้รอดของพวกเขา

– เดิมพวกเขาต้องตายเพราะบาปของตนอยู่แล้ว แต่พระเจ้าทรงเมตตาประทานพระผู้ช่วยมาช่วยพวกเขาให้รอด แต่เขากลับปฏิเสธพระผู้ช่วยให้รอดนั้น ดังนั้นพวกเขาต้องพินาศเพราะบาปของเขาอย่างไม่มีข้อแก้ตัวเลย

การประยุกต์ใช้ :

– บาปที่รุนแรง และทำให้บาปอื่นๆปรากฏตามมาอย่างเด่นชัด คือ บาปแห่งการปฏิเสธพระเยซู

– วันนี้เราผู้ต้อนรับพระเยซูเข้ามาในชีวิตแล้ว เราดำเนินชีวิตแบบปฏิเสธพระเยซูอยู่หรือเปล่า?

– เรายินดีเต็มใจ เชื่อฟังและทำตาม คำสั่งของพระเยซูหรือไม่?

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน.15:23) { เกลียดพระเยซู }

แนวคิด :

– พระเยซูอธิบายให้สาวกฟังว่า คนที่ปฏิเสธพระเยซู ก็ปฏิเสธพระบิดาด้วย คนที่เกลียดหรือต่อต้านพระเยซู ก็กำลังเกลียดหรือต่อต้านพระบิดาด้วย

– เพราะว่าพระเยซูอยู่ในพระบิดา และพระบิดาอยู่ในพระเยซู (ยน. 14:11)

– ไม่มีใครสามารถเกลียดผู้หนึ่ง โดยปราศจากการเกลียดอีกผู้หนึ่งได้

– เพราะพระเยซู เป็นตัวแทนของพระบิดาในโลกนี้

การประยุกต์ใช้ :

– เราผู้เชื่อวางใจในพระเยซู เราก็อยู่ในพระเยซู และพระเยซูก็อยู่ในเรา (ยน. 14:20)

– เราเป็นตัวแทนของพระเยซูในโลกนี้ ใครก็ตามทำอะไรกับเรา เขากำลังทำกับพระเยซูนั่นเอง

– ด้วยเหตุนี้ใครที่เกลียดเรา เพราะเราเชื่อฟังพระเยซู เขาก็กำลังทำตัวเป็นผู้เกลียดพระเยซู พระเจ้าใหญ่ยิ่งสูงสุด

– ใครก็ตามที่รักเรา เพราะเราติดตามพระเยซู เขาก็กำลังสำแดงความรักต่อพระเยซูนั่นเอง

– ดังนั้นอย่าให้เราถือสาคนเหล่านั้นที่ตั้งตัวเป็นศัตรูต่อเราเพราะเราเชื่อฟังพระเยซู เพราะว่าเขากำลังหาเรื่องใส่ตัวเอง อย่าโกรธเขาแต่ควรสงสารเขามากกว่า

– ในทางตรงกันข้าม ขอให้เราระมัดระวัง ไม่ทำสิ่งที่ไม่ดีแก่พี่น้องเพราะเขาเป็นตัวแทนของพระเยซูในโลกนี้ ให้เราสำแดงความรักที่เรามีต่อพระเยซูด้วยการรักพี่น้องเถิด

– เมื่อเราเกลียดพี่น้อง เราก็กำลังทำตัวเป็นผู้เกลียดพระเยซู  และเมื่อเราสำแดงความรักแก่พี่น้อง เราก็กำลังสำแดงความรักต่อพระเยซูนั่นเอง

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน.15:24) {ใจแข็งกระด้าง}

แนวคิด :

– พระเยซูอธิบายให้สาวกฟังเกี่ยวกับ คนที่ไม่เชื่อพระองค์ และต่อต้านข่มเหงเหล่าสาวก ว่า พวกเขาเหล่านั้นจะมีบาป แห่งการปฏิเสธการช่วยเหลือจากพระเจ้า

– ทั้งที่พวกเขาได้เห็นการอัศจรรย์มากมาย จนพวก​หัว​หน้า​ปุโร​หิต​และ​พวก​ฟา​ริสี กล่าวใน ยน. 11:47  ​ว่า “เรา​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​กัน​ดี เพราะ​ว่า​ชาย​คน​นี้​ทำ​หมาย​สำ​คัญ​มาก​มาย?”

– ถึงกระนั้นพวกเขาก็ใจแข็งกระด้าง ไม่ยอมเชื่อ แต่กลับแสดงตัวเป็นผู้เกลียดชังพระเยซูและเกลียดชังพระบิดา ด้วยการต่อต้านพระองค์

การประยุกต์ใช้ :

– พระเยซูทรงกระทำให้เขาเห็นแล้ว แต่พวกเขาก็ยังใจแข็งกระด้าง ไม่ยอมเชื่อ จึงเป็นบาปซ้อนบาปแก่เขา

– บาปเดิมก็ไม่ได้รับการชำระ บาปใหม่แห่งการปฏิเสธและเกลียดชังพระเจ้าเพิ่มเข้าไปอีก

– เราได้เห็นการอัศจรรย์มากมายที่พระเยซูทรงกระทำในชีวิตของเราในอดีตที่ผ่านมาแล้ว วันนี้อย่าให้เราใจแข็งกระด้างด้วยการไม่ยอมเชื่อวางใจในพระองค์

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน.15:25) { ไร้เหตุผล }

แนวคิด :

– พระเยซูพูดถึง พระคัมภีร์เดิมที่พวกยิวยึดเป็นพระคัมภีร์ของพวกเขา ใน สดด. 69:4 ซึ่งกล่าวถึงพระมาซีฮา ที่กล่าวว่า “คน​ที่​เกลียด​ชัง​ข้า​พระ​องค์​อย่าง​ไร้​เหตุ​ผล มี​มาก​ยิ่ง​กว่า​เส้น​ผม​บน​ศีรษะ​ข้า​พระ​องค์…”

– เพื่อจะชี้ให้เห็นว่า นี่คือสิ่งที่พระคัมภีร์บอกไว้แล้วว่าจะต้องเกิดขึ้นกับพระมาซีฮา

– การคิดชั่ว การทำชั่วของใครบางคน พระเจ้าทรงฤทธิ์สามารถทำให้มันกลายเป็นสิ่งที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า และน้ำพระทัยของพระเจ้าสำเร็จได้ อยู่ดี

การประยุกต์ใช้ :

– เมื่อมีสิ่งที่เราไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นกับเรา อาจจะเพราะความนิสัยไม่ดีของเราเอง หรือของคนอื่นก็ตาม เมื่อเรายกให้พระเจ้าทรงช่วยเราจัดการ สิ่งนั้นจะถวายเกียรติแด่พระเจ้าได้ และจะทำให้แผนการของพระเจ้าสำเร็จท่ามกลางเหตุการณ์นั้นๆ

– บางสิ่งที่เกิดขึ้นดูเหมือนไร้เหตุผล ต่อให้พยายามหาเหตุผลก็ไม่พบเหตุผลจริงได้ ซึ่งก็ไม่เห็นจะสำคัญว่าเราจะรู้เหตุผลหรือไม่ ขอเพียงเรารู้วิธีทำให้มันถวายเกียรติแด่พระเจ้า นั่นก็เพียงพอแล้ว ด้วยการเข้ามาหาพระเจ้า ร้องทูลต่อพระองค์ และยกเหตุการณ์นี้ให้อยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน.15:26) { พยานจากสวรรค์ }

แนวคิด :

– พระเยซูบอกให้เหล่าสาวกรู้ว่า พระบิดาจะทรงใช้พระวิญญาณบริสุทธิ์มา ตามคำขอของพระเยซู (ยน. 14:16) มาอยู่กับพวกเขา

– พระองค์มาเพื่อที่จะเป็นพยานให้กับพระเยซู ว่า พระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า

– พระวิญญาณบริสุทธิ์ ทรงเป็นพระวิญญาณแห่งความจริง พระองค์นำความจริงมาสำแดง พระองค์ทรงรู้จักพระเยซู พระองค์อยู่กับพระเยซู ดังนั้นพระองค์จึงเป็นพยานที่ดีที่สุดที่จะบอกให้โลกนี้รู้ว่า พระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า

– ด้วยเหตุนี้ การสำแดงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในโลกนี้ ผ่านทางผู้เชื่อก็เพื่อ สำแดงว่า พระเยซูทรงเป็นพระเจ้า

​การประยุกต์ใช้ :

– พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสถิตกับเรา เพื่อบอกให้เราและโลกนี้ รู้ว่า พระเยซูทรงเป็นพระเจ้า ผ่านหมายสำคัญ การอัศจรรย์ การตอบคำอธิษฐาน การเปลี่ยนแปลงชีวิต และอื่นๆอีกมากมาย

– การใช้ของประทานจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ จะเกิดผลอย่างสมบูรณ์ เมื่อเราใช้ของประทานนั้น เพื่อประกาศให้โลกนี้รู้ว่า พระเยซูทรงเป็นพระเจ้า

แบ่งปันเฝ้าเดี่ยว ( ยน.15:27) { เป็นพยานเพื่อพระเยซู }

แนวคิด :

– พระเยซูบอกกับพวกสาวกว่า แม้โลกนี้จะไม่เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระมาซีฮา แต่พระวิญญาณบริสุทธิ์(ข้อ 26) และพวกสาวก จะเป็นพยาน ให้โลกนี้รู้ว่า พระเยซูทรงเป็นพระมาซีฮา ผู้มาช่วยโลกให้รอด

– เพราะว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงอยู่ด้วยกับพระเยซู ก่อนวางรากสร้างโลก และ เหล่าสาวกได้อยู่กับพระเยซูตั้งแต่เมื่อพระเยซูทรงเริ่มพระราขกิจในโลกนี้

– ด้วยการช่วยเหลือของพระวิญญาณบริสุทธิ์ จึงทำให้เหล่าสาวกเป็นพยานถึงเรื่องของพระเยซู จนข่าวประเสริฐแพร่ไปทั่วโลก จนมาถึงพวกเราในทุกวันนี้

การประยุกต์ใช้ :

– เหล่าสาวกเขาเป็นพยานให้โลกนี้ รู้จักพระเยซู ก็เพราะเขาได้มีประสบการณ์กับพระเยซู ในสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ

– วันนี้ โลกนี้ไม่รู้จักพระเยซู ไม่รู้ว่าพระเยซูทรงเป็นพระเจ้า เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของทุกคน

– เราได้เห็นสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำมากมายในชีวิตของเราแล้ว เราเองสมควรอย่างยิ่งที่จะเป็นพยานให้โลกนี้ได้รับรู้ว่า พระเยซูทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดที่แท้จริง